ใครกำลังเลี้ยงน้องแมวสฟิงซ์ มาดูกันค่ะว่า มีเรื่องอะไรของน้องที่เราต้องรู้บ้าง ... 

 

สฟิงซ์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแมวไร้ขน มีประวัติยาวนานหลายชั่วอายุคน ว่ากันว่าชาวแอซเท็คก็เลี้ยงแมวไร้ขนด้วยเช่นกัน สฟิงซ์เป็นแมวไร้ขนสายพันธุ์แรกที่มีการเพาะพันธุ์เพื่อให้ได้ลักษณะนี้  โครงการเพาะพันธุ์เริ่มขึ้นเมื่อปีค.ศ.1966 ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เมื่อมีแมวบ้านให้กำเนิดลูกแมวเพศผู้ไร้ขนตัวหนึ่ง อย่างไรก็ดี แมวสฟิงซ์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีเชื้อสายมาจากลูกแมวไร้ขนสามตัวในเมืองโทรอนโตในปีค.ศ.1978

 

น้องสฟิงซ์จะมีขนนุ่มละเอียดทั่วร่างกายคล้ายกับขนของมนุษย์ เวลาสัมผัสแล้วจะรู้สึกเหมือนกับได้สัมผัสเปลือกลูกพีช แต่สฟิงซ์จะเป็นแมวที่ไม่มีหนวดและไม่มีขนตา

 

สฟิงซ์มีหุ่นที่ผอมเพรียว และมีความแข็งแรงร่วมด้วย เนื่องจากสฟิงซ์ชอบวิ่งเล่นและทุ่มสุดตัวกับเจ้าของหากมีโอกาศได้เล่น นอกจากนี้แมวสฟิงซ์ยังมีขนาดตัวที่ใหญ่ หูยาวแหลม ซึ่งหูของสฟิงซ์ในขณะที่ยังเป็นลูกแมว ทำให้แมวหน้าตาคล้ายกับเอลฟ์ (Elf) และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้แมวสฟิงซ์เป็นที่รักและชื่นชอบของผู้คนทั่วมุมโลก สฟิงซ์มีผิวหนังได้หลากหลายสี โดยสฟิงซ์จะมีรูปแบบของสีผิวที่แตกต่างกัน เช่น มีสีเดียวทั้งตัว มี 2 สี , 3 สี หรือมากกว่านั้น

 

นิสัยของน้องแมวสฟิงซ์ค่อนข้างขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ทำให้น้องแมวดูเป็นแมวดุ แต่จริง ๆ แล้วสฟิงซ์เป็นแมวที่ค่อนข้างขี้เล่น น่ารัก มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็น ชอบอยู่ใกล้ ๆ และเข้ามาวนเวียนกับทุก ๆ กิจกรรมที่เจ้าของทำ น้องแมวเป็นมิตรและค่อนข้างแตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นตรงที่แมวสฟิงซ์ชอบอยู่กับฝูงหรือแมวตัวอื่น ทำให้สามารถเลี้ยงร่วมกับสัตว์เลี้ยงและเด็ก ๆ ได้ นอกจากนี้ น้องแมวสฟิงซ์เป็นแมวที่ไม่มีขนทำให้น้องชอบมานอนใกล้ ๆ เพื่อต้องการความอบอุ่นอีกด้วย 

 

- แมวสฟิงซ์ต้องการเวลาจากเจ้าของค่อนข้างมาก เพราะติดเจ้าของ ไม่เหมาะสำหรับเลี้ยงให้อยู่บ้านเพียงลำพัง

- แมวสฟิงซ์มักมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เป็นผื่น เชื้อรา 

- แมวสฟิงซ์ควรทาโลชันกันแดดให้น้องหากต้องออกนอกบ้านหรือไปกลางแจ้ง

- แมวสฟิงซ์ไม่เหมาะกับการเลี้ยงในที่อากาศหนาวเย็น เพราะสฟิงซ์ไม่ทนต่ออากาศหนาว 

- แมวสฟิงซ์ต้องเลี้ยงในบ้านเท่านั้น หากผู้เลี้ยงไม่สะดวกเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านไม่แนะนำให้เลี้ยงแมวสฟิงซ์นะคะ

- แมวสฟิงซ์เข้ากับเด็ก และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้าน จึงเหมาะสำหรับเลี้ยงในครอบครัว 

 

 

บทความโดย: Dogilike.com

http://www.dogilike.com/