สุนัขพันธุ์ใหญ่

สุนัขพันธุ์เล็กมีความเสี่ยงคลอดยาก

กลุ่มสุนัขหน้าสั้นมีปัญหามากที่สุด
 

     ได้แก่ สุนัขพันธุ์บูลด็อก (Bulldogs), สุนัขพันธุ์ปั๊ก (Pug), สุนัขพันธุ์บอสตัน เทอร์เรีย (Boston Terriers), สุนัขพันธุ์ ซีลีแฮม เทอร์เรีย (Sealyham Terrier) , สุนัขพันธุ์สก๊อตเทอร์เรีย (Scottish Terrier) เพราะมีปัญหาช่องเชิงกรานแคบ และลูกสุนัขมักมีกะโหลกใหญ่และไหล่กว้าง

สาเหตุการคลอดยากประกอบไปด้วย :

     1. แม่สุนัขมีช่องเชิงกรานแคบกว่าปกติ อาจเป็นแต่กำเนิด หรือ เกิดเพราะกระดูกเชิงกรานเคยหัก
เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ
     2. มดลูก ไม่มีการบีบตัว ทำให้ไม่มีการเบ่งคลอด อาจเกิดจากสุนัขมีความเครียดเลยไม่ยอดเบ่งคลอด
หรือในสุนัขที่มีลูกเยอะทำให้หมดแรงเบ่งคลอดในลูกตัวท้ายๆ การที่มีการอุดตันในระบบสืบพันธุ์ทำให้
เบ่งคลอดไม่ออกจะทำให้มีภาวะมดลูกล้า ตามมา บางครั้งมดลูกอาจจะล้าหรือเฉื่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
     3. แม่สุนัขมีช่องคลอดเล็กกว่าปกติ หรือมีการตีบตันในส่วนของช่องคลอด
     4. ลูกสุนัขมีขนาดใหญ่กว่าปกติ อาจเกิดเนื่องจากพ่อสุนัขมีขนาดใหญ่กว่าแม่สุนัขมาก
     5. ลูกสุนัขมีกะโหลกใหญ่ หรือมีไหล่กว้างกว่าปกติ หรืออยู่ในท่าคลอดที่ผิดปกติ

 

อาการและความรุนแรงของโรค : เป็นปัญหาทำให้สุนัขคลอดลูกยาก

     1. ในกรณีที่แม่สุนัขเบ่งคลอดเป็นเวลานานมากกว่า 30-60 นาที โดยไม่มีลูกออกมา
     2. หลังจากที่มีลูกออกมาแล้ว 4-6 ชั่วโมงแล้วยังไม่มีลูกออกมาเพิ่มเติมอีก
     3. สุนัขไม่มีลูกออกมาเลยภายใน 24 ถึง 36 ชั่วโมง หลังจากที่อุณหภูมิเริ่มลดต่ำกว่า 100 องศาฟาเรนไฮต์
     4. สุนัขมีอาการส่งเสียงร้อง และเลียหรือกัดบริเวณอวัยวะเพศ ระหว่างที่กำลังคลอดลูก
     5. สุนัข มีการตั้งท้องนานกว่า 70-72 วันนับจากวันที่ผสมพันธุ์ครั้งแรก หรือเกินกว่า 60 วันนับจากวันแรกที่เริ่มเข้าสู่ระยะ diestrus (พ้นระยะการเป็นสัด)