
เพื่อนๆ ชาวด็อกไอไลค์ (Dogilike) มีใครรักการถ่ายรูปบ้างเอ่ย โดยเฉพาะภาพน้องหมาน่ารักที่ไม่ว่าจะทำอิริยาบถไหนก็น่าถ่ายรูปเก็บไว้ไปหมด แต่พอจะลงถ่ายมือถ่ายเท่านั้นแหละ น้องหมาก็เกิดอารมณ์ติสท์เดินหนี ก้มๆ เงยๆ ไม่ยอมอยู่นิ่ง น้องหมาบางตัวแค่เห็นกล้องก็ตื่นกลัวกระโดดหนี หลบหน้า หลบตา กว่าจะถ่ายภาพได้สักรูปก็ต้องใช้เวลานาน แถมรูปที่ออกมาก็อาจไม่สวยอย่างใจคิดอีกต่างหาก
และเพื่อเป็นการจัดการกับปัญหาวุ่นๆ เวลาถ่ายภาพน้องหมา บทความนี้พริกก็เลยจะมาแนะนำการถ่ายรูปน้องหมาแบบง่ายๆ แต่ออกมาดูดีสามารถสื่อถึงอารมณ์ของน้องหมาได้ด้วยมุมกล้องมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ นอกจากนี้ยังมีเทคนิคน่ารู้เพื่อจัดการกับน้องหมาสุดเกรียน อย่างเช่น เจ้าคาวบอย นายแบบประจำเว็บไซต์ด็อกไอไลค์ (Dogilike) ให้กลายเป็นนายแบบ..... ว่าแต่เพื่อนๆ พร้อมถ่ายรูปน้องหมาคู่ซี้กันหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วเตรียมอาวุธประจำกาย แล้วไปถ่ายกันเลย!
กล้องถ่ายรูปคู่ใจไม่ว่าแบบไหนก็ถ่ายได้
เดี๋ยวนี้กล้องถ่ายรูปมีหลายประเภท และคุณภาพให้เราเลือกตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน และความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะกล้องมือถือ กล้องCompact ตัวเล็กๆ และกล้องDSLR ซึ่งกล้องแต่ละจะมีเกร็ดเล็กๆ ในการถ่ายภาพน้องหมาต่างกันไปค่ะ
สำหรับกล้องโทรศัพท์มือถือ เพื่อนๆ แทบทุกคนคงจะมีอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละเครื่องความละเอียดของกล้องก็จะแตกต่างกันไป ส่วนเรื่องการใช้งานก็ง่ายนิดเดียวเพียงแค่กดปุ่มถ่ายภาพก็เรียบร้อยแล้ว แต่การถ่ายรูปจากกล้องโทรศัพท์มือถือก็ไม่สามารถปรับโหมด หรือเร่งความเร็วชัตเตอร์ได้ ดังนั้นการถ่ายรูปน้องหมาด้วยโทรศัพท์มือถือให้ได้ภาพดีๆ ก็จะอยู่ที่การเลือกมุมกล้อง ซึ่งเดี๋ยวจะบอกให้เพื่อนๆ รู้ในส่วนถัดไปค่ะ ^^
แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนถนัดใช้กล้อง Compact ซึ่งเป็นกล้องดิจิตอลตัวเล็ก กระทัดรัด กระชับมือ เน้นการใช้งานระบบอัตโนมัติแต่ก็สามารถเปลี่ยนโหมดต่างๆ ได้ แนะนำว่าให้ปรับเป็นโหมด Sport เลยค่ะ โหมดนี้จะช่วยเรื่อง การปรับสปีดชัตเตอร์ (Speed Shutter) ให้เร็วพอที่จะหยุดภาพเคลื่อนไหวให้นิ่งได้ค่ะ
ส่วนกล้อง DSLR ด้วยคุณภาพและความละเอียดของรูปที่ถ่ายออกมาไม่ต้องพูดถึง ดีกว่าทั้งกล้องมือถือและกล้อง compact แน่นอนค่ะ อย่างไรก็ตามการถ่ายภาพน้องหมาถือต้องอาศัยจังหวะและความเร็ว จึงต้องปรับสปีด ชัตเตอร์ให้สูงขึ้นค่ะ แต่ถ้าใครมีโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องก็สามารถตั้งค่าไว้ได้เลยค่ะ จากนั้นปรับระยะเลนส์ให้ซูมออกมากว้างที่สุด เพื่อให้ทันการเคลื่อนไหวของน้องหมาค่ะ เพราะการถ่ายภาพน้องหมาให้ออกมาดีนั้น พลาดไม่ได้แม้เสี้ยววินาที ^^
มุมภาพช่วยสื่ออารมณ์
ปกติถ้าหากเราถ่ายภาพน้องหมาของเราเอง เราจะรู้ว่ามุมไหนของน้องหมาดูแล้วเป็นเอกลักษณ์ หรือมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร แล้ว เช่น ตาโต หางฟู ยิ้มสวย การที่เรารู้มุมในการถ่ายภาพจะช่วยสร้างมิติของภาพน้องหมาให้มีความน่าสนใจมากขึ้น และช่วยสื่ออารมณ์ของน้องหมาและของภาพได้อีกด้วยค่ะ
มุมกด (Shoot down)
เป็นการถ่ายน้องหมาจากมุมสูง ให้เรานั่งหรือยืนอยู่เหนือน้องหมา กดตัวกล้องลงแล้วถ่าย ภาพมุมนี้จะได้รูปน้องหมาหัวโต ตัวเล็กค่ะ ยิ่งถ้าน้องหมาเงยหน้ามองกล้อง จะเห็นตาบ๊องแบ๊วแจ่มใส จมูกโตๆ ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกว่าน้องหมาตัวเล็ก น่ารักเหมือนตุ๊กตา ใจดี เหมาะเป็นเพื่อนไว้ข้างกาย น่าเอ็นดูสุดๆ เลยล่ะค่ะ (สำหรับเพื่อนๆ คนไหนเห็นน้องหมาไร้บ้าน แล้วอยากจะประกาศหาบ้านใหม่ให้พวกเขา สามารถนำเทคนิคการถ่ายภาพแบบนี้ไปใช้ได้นะคะ รับรองค่ะว่าภาพมุมนี้สามารถเรียกคะแนนสงสารไปได้เต็มๆ เลยล่ะค่ะ)
มุมเสย (Shoot Up)
การถ่ายภาพมุมนี้ ตัวเราจะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าน้องหมา แล้วแหงนกล้องขึ้นถ่าย ภาพนี้น้องหมาจะดูตัวโต หัวเล็ก แต่ดูมีอำนาจ มีความเป็นผู้นำ เป็นจ่าฝูง แสดงถึงความเด็ดเดี่ยว ซึ่งมุมภาพแบบนี้เรามักจะไม่ค่อยเห็นในชีวิตประจำวัน เพราะเราตัวสูงกว่านั่นเองค่ะ ลองปรับมุมมองดูบ้างก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ
มุมตรงระดับสายตา (Shoot at Eye Level)
มุมระดับสายตาในที่นี้หมายถึง มุมในระนาบเดียวกับสายตาน้องหมา (ไม่ใช่สายตาของเรานะคะ) ซึ่งเราจะนั่งอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับเขาค่ะ ภาพที่ได้ออกมา จะเห็นรูปร่างของน้องหมาตามสัดส่วนจริง ส่วนอารมณ์ของภาพมุมนี้ จะสื่อให้เห็นถึงความเสมอกันของตัวเราและเขา รู้จักตัวตนอย่างที่พวกเขาเป็น โดยเฉพาะระดับสายตาที่เสมอกับกล้อง จะทำให้เรารู้สึกสื่อสารกับน้องหมาได้ดีขึ้น เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ที่ตรงไปตรงมาค่ะ
มุมเอียง (Tilt It)
มุมภาพนี้เป็นการถ่ายเอียงกล้องอาจจะเสยขึ้น หรือกดลงนิดๆ เพื่อให้เกิดมิติใหม่ๆ ช่วยให้ภาพมีความหลากหลาย สร้างภาพให้ดูน่าสนใจ และมีความสร้างสรรค์มากขึ้นค่ะ ยิ่งถ้ามีแบล็คกราวด์สวยๆ ก็จะทำให้ภาพดูโดดเด่น มีเอกลักษณ์ และดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี
เทคนิคถ่ายภาพน้องหมาสุดเกรียน
น้องหมาแต่ละตัวมีบุคลิกที่แตกต่างกัน บางตัวนิ่งๆ สั่งให้ทำอะไรก็ทำ แถมยังชอบเป็นดาราหน้ากล้องอีกต่างหาก แต่บางตัวโดยเฉพาะพันธุ์เล็กๆ อยู่ไม่สุข เดินไปเดินมา กระโดดหย่องๆ แค่ยกกล้องขึ้นมาก็หนีหายไปจากเฟรม ส่วนน้องหมาตัวใหญ่ แม้จะนิ่งกว่า แต่พอกลัวกล้องขึ้นมาก็เอาเรื่อง ขู่บ้าง เดินหนีบ้าง หนักหน่อยก็ตัวสั่นเกร็ง ด้วยเหตุนี้เองการเตรียมความพร้อมน้องหมาก่อนถ่ายรูปจึงสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประสิทธิภาพของกล้องเลยล่ะค่ะ เพราะถ้าน้องหมาไม่ยอมให้ถ่ายซะอย่าง ถึงมีกล้องโปรแค่ไหนก็อดค่ะ อย่างคาวบอยถ้าหากปล่อยเข้าอยู่กับพื้นเขาจะอยู่ไม่นิ่ง เดินไปเดินมาตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องหาเก้าอี้ หรือโต๊ะให้เขานั่ง (เพราะกลัวความสูง อิๆ) ก็จะสามารถอยู่นิ่งได้เป็นระยะๆ ค่ะ แล้วค่อยเริ่มจัดการน้องหมาก่อนจับถ่ายรูป ดังนี้ค่ะ ^^
1. ปล่อยให้น้องหมาคุ้นชินกับกล้องถ่ายรูป
ก่อนที่จะเริ่มถ่ายควรให้น้องหมาได้ทำความรู้จักกับกล้อง ปล่อยให้เขาดมกล้อง คุ้นกับเสียงชัตเตอร์ โดยการยื่นกล้องไปใกล้ๆ น้องหมา ( ไม่ต้องถ่ายน้องหมานะคะ) แล้วกดชัตเตอร์รัว ให้เขาชินกับเสียง ไม่รู้สึกตื่นกลัว ปล่อยให้เขาทำตัวตามธรรมชาติสักพักก่อนถ่ายรูป ไม่ควรเรียกน้องหมานะคะ เพราะจะยิ่งให้น้องหมาตื่นตัว และไม่ควรจ่อกล้องอยู่ในระยะประชิดนะคะ เพราะสำหรับน้องหมา กล้องก็เปรียบเสมือนดวงตาพวกเขาที่กำลังมองเขาอยู่ จึงรู้สึกอึดอัดและไม่มองกล้องค่ะ ควรทิ้งระยะออกมาเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายค่ะ
2. บอกให้เขานั่ง หรืออยู่นิ่งๆ
ปกติแล้วการให้น้องหมานิ่งยอมให้ถ่ายรูปต้องอาศัยเวลานาน หรือสำหรับบางตัวอาจเป็นไปแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ การฝึกน้องหมาของเราให้ทำตามคำสั่งขั้นพื้นฐานจึงจำเป็นมากๆ สำหรับการถ่ายภาพน้องหมาค่ะ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่าน
บทความฝึกน้องหมาให้นั่งลง และ
ฝึกน้องหมาให้อยู่นิ่ง ได้ที่เว็บไซต์ด็อกไอไลค์ด็อทคอม (
www.dogilike.com) นะคะ ซึ่งการบอกให้น้องหมาอยู่นิ่งๆ ขณะถ่ายรูปต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก น้องหมาเองก็อาจรู้สึกเครียดบ้าง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสัก 15 20 นาที พวกเขาจะรู้สึกเหนื่อย สงบลง และร่างกายผ่อนคลายลง ทีนี้แหละค่ะ การถ่ายภาพน้องหมาก็จะง่ายขึ้นมาทันที ^^
3. เริ่มถ่ายรูปด้วยการนั่งระดับเดียวกับน้องหมา
การเริ่มถ่ายรูปน้องหมา ก็คล้ายๆ กับการเริ่มทำความรู้จักน้องหมาค่ะ เราจะควรจะเริ่มถ่ายด้วยมุมตรงระดับสายตาน้องหมา คือ นั่งลงในระดับเดียวกับเขา เพื่อให้น้องหมารู้สึกถึงความเป็นมิตร และรู้สึกผ่อนคลายค่ะ ซึ่งการเริ่มถ่ายมุมกดจะทำให้น้องหมารู้สึกอึดอัด หรือถูกคุกคาม ส่วนมุมเสย เขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นจ่าฝูง และไม่ยินยอมทำตามคำสั่งของเราค่ะ
4. ดึงความสนใจให้มองกล้อง
หากเพื่อนๆ ลองสังเกตน้องหมาที่บ้านจะเห็นว่า พวกเขาไม่ค่อยชอบมองตา เพราะการมองตาสำหรับน้องหมาเป็นการแสดงความท้าทายและแสดงท่าทีมีอำนาจหนือกว่า (เพื่อนๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ
ถึงเวลาทำความเข้าใจ "ความรู้สึกน้องหมา" อย่างถูกต้อง) ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจถ้าเขาจะไม่ชอบมองกล้องค่ะ หรือถ้ามองก็มองได้แป๊บเดี๋ยว เราจึงต้องหาวิธีดึงความสนใจให้เขามองกล้อง โดยการเรียกชื่อ
ต้องหลีกเลี่ยงการใช้โทนเสียงสูงๆ เพราะจะทำให้เขาตื่นตัว รีบวิ่งไปหา ที่นี้ก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่ล่ะค่ะ หรือ อาจจะใช้วิธีโบกมือให้เขามองมาทางกล้อง หรือใช้ขนมเป็นตัวล่อให้หันมาค่ะ แล้วทันทีที่เขาหันมาให้รีบฉวยโอกาสกดชัตเตอร์ถ่ายทันทีค่ะ จากนั้นค่อยตบรางวัลด้วยขนมแสนอร่อยค่ะ ^^
5. ไม่ใช้แฟลชเพื่อให้ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติ
การใช้แสงธรรมชาติถ่ายภาพจะทำให้ภาพดูสดใส และอบอุ่น ช่วยให้น้องหมาดูมีชีวิตชีวาค่ะ เวลาที่แสงกำลังดี เหมาะแก่การถ่ายรูปคือช่วง 8 โมงเช้า และ5 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่แสงอ่อน หรือ ไม่แข็งกระด้างจนเกินไปค่ะ ส่วนภาพที่ถ่ายในอาคาร หรือในห้องก็ควรใช้แสงไฟภายในอาคารตามปกติ เพราะการใช้แฟลชจะทำให้ภาพดูแข็งกระด้าง ไม่นุ่มนวล แลดูไม่เป็นธรรมชาติค่ะ (พยายามหาสถานที่ที่มีแสงไฟสว่างเพียงพอนะคะ ไม่อย่างนั้นภาพอาจสั่นไหวได้) นอกจากนี้การปิดแฟลชยังช่วยถนอมดวงตาน้องหมา และไม่เป็นการเร่งปฏิกริยาตื่นตระหนกให้น้องหมาอีกด้วยค่ะ
6. รัวชัตเตอร์ไม่มียั้ง
การถ่ายภาพน้องหมาต้องอาศัยจังหวะที่ใช่ และกดรัวหลายๆ ช็อตทันทีไม่มียั้งค่ะ ยิ่งเราถ่ายภาพไว้มากก็จะมีโอกาสได้ภาพที่ดีมากขึ้น เพราะน้องหมาอยู่นิ่งๆ ได้ไม่นาน เราจึงต้องฉกฉวยโอกาสไว้ให้ได้เร็วที่สุด และมากที่สุดค่ะ แล้วอย่าลืมปรับเลนส์ให้กว้างที่สุด เวลาน้องหมาเคลื่อนไหวไปมาจะได้ไม่หลุดเฟรมบ่อยๆ แล้วค่อยครอปรูปทีหลัง ไม่แน่นะคะรูปที่เราไม่ตั้งใจถ่าย หรือไม่คาดหวังว่าจะได้ อาจจะกลายเป็นรูปที่ดีที่สุดก็ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตามให้เพื่อนๆ คอยสังเกตน้องหมานะคะว่าถ้าเขาเริ่มหาวบ่อยๆ หรือหลบสายตาถี่ขึ้น แสดงว่าเขาเกิดความเครียด ควรปล่อยให้น้องหมาพัก เว้นระยะในการถ่าย เพื่อให้เขาผ่อนคลายลงค่ะ ด้วยการปล่อยให้เขาเดินเล่น นวดผ่อนคลาย หรือจุ๊บให้รางวัลก็ได้ค่ะ ^^
นอกจากภาพเทคนิคต่างๆ แล้ว นี้พริกยังมีตัวอย่างภาพน้องหมาที่ถ่ายโดยการใช้เทคนิคจากบทความนี้ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันนะคะ ซึ่งสามารถถ่ายได้ทั้งน้องหมาพันธุ์เล็กและน้องหมาพันธุ์ใหญ่ ไม่ต่างกันค่ะ เพื่อนๆ ดูแล้ว ลองเอาไปถ่ายกับน้องหมาที่บ้านดูก็ได้นะคะ เผื่อจะมีรูปน้องหมาประจำครอบครัวเก็บไว้เป็นแกลลอรี่น่ารักๆ ค่ะ ^^
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เทคนิคการถ่ายภาพน้องหมาแบบง่ายๆ แต่ให้ออกมาดูดี ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เพื่อนๆ สามารถปรับมุมมองใหม่ๆ ใส่ไอเดียเก๋ๆ ได้ตามใจชอบเลยนะคะ แล้วอย่าลืมมาโพสต์ให้เพื่อนๆ ชาวด็อกไอไลค์ (Dogilike) ได้ดูกันใน Family Gallery น้องหมา นะคะ หากภาพไหนน่ารัก สวยใส ก็จะได้นำไปโพสต์ลงแฟนเพจด็อกไอไลค์ ให้เพื่อนๆ กด like กด share น่าสนใจมากๆ เลยใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นจะรออะไร หยิบกล้องคู่กายออกมา หามุมสวยๆ และ กดชัตเตอร์รัวๆ กันเลยค่ะ!!
บทความโดย : Dogilike.com
ภาพประกอบโดย : Dogilike.com
SHARES