ช่วงนี้ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเปิดเฟสบุ๊คจะเห็นว่ามีรูปน้องหมาบ้านๆ จากศูนย์พักพิงสุนัข หรือสถานสงเคราะห์สัตว์ มองกล้องทำตาแป๋วเรียกคะแนนความสงสารขอให้ผู้มีใครมารับเลี้ยงที ซึ่งหนึ่งในน้องหมาเหล่าก็มีน้องหมาหน้าตาวาไรตี้ จากโครงการ Just share for home “ขอเพียงหนึ่งแชร์ ให้เพื่อนแท้ได้มีบ้าน” ของเว็บไซต์ด็อกไอไลค์ดอทคอม (Dogilike.com) รวมอยู่ด้วย ถือว่าเป็นโชคดีของน้องหมาที่เริ่มมีคนหันมาสนใจเลือกที่จะรับเลี้ยงน้องหมาไร้บ้านกันมากขึ้น พวกเขาจะได้เปลี่ยนชีวิตไปสู่ครอบครัวใหม่ที่แสนอบอุ่นเสียที ^^

     อย่างไรก็ตาม น้องหมาที่รับมาเลี้ยงก็มักมีชื่อเดิมของเขาอยู่ก่อนแล้ว เหล่าคนใจดีที่ืรับน้องหมาเหล่านั้นไปเลี้ยงก็คงอยากจะเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ถูกใจ หรือเปลี่ยนให้เข้ากับน้องหมาตัวอื่นๆ ในบ้าน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าน้องหมาเหล่านั้นจะจำชื่อใหม่ของตัวเองได้หรือไม่ ... พริกขอตอบเลยนะคะว่า เราสามารถเปลี่ยนชื่อให้น้องหมาได้แน่นอน แต่อาจจะต้องมีเทคนิคในการตั้งชื่อสักเล็กน้อย เพื่อให้น้องหมาจำได้ง่าย ถูกใจชื่อใหม่ทั้งเจ้าของและน้องหมาค่ะ ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่าต้องมีเทคนิคการเปลี่ยนชื่ออย่างไร ไปดูกันเลยยยย .....

 

1. การเปลี่ยนชื่อใหม่ควรออกเสียงไม่ต่างจากเดิม


     เปลี่ยนชื่อน้องหมาที่อายุมาก  เขาติดกับเสียงเรียกของชื่อเดิมไปแล้ว จะเปลี่ยนก็ยากค่ะ ... ทั้งนี้ โดยแล้วน้องหมาจะจับโทนเสียงของสระมากกว่าพยัญชนะ ถ้าจะเปลี่ยนชื่อแนะนำว่าควรจะเลือกชื่อที่มีเสียง “สระ” ใกล้เคียงกับเสียงของชื่อเดิมค่ะ อย่างเช่น  ลิลลี่ เปลี่ยนมาเป็น คิดตี้ เป็นต้น ค่ะ



2. การตั้งชื่อน้องหมา บางครั้งภาษาศาตร์ก็จำเป็น ^^
  

     - เสียงสระ หากเพื่อนๆ ลองสังเกตดูจะเห็นว่า น้องหมาจะตอบสนองกับชื่อที่มีเสียงสูง และเสียงยาว มากกว่าเสียงต่ำ หรือเสียงสั้นๆ  ใช่ไหมคะ นั่นเป็นเพราะน้องหมารับรู้ชื่อได้โดยลักษณะของเสียง หากเราตั้งชื่อน้องหมาด้วยเสียงสั้นๆ ว่า "คิโนะ" น้องหมาก็จะได้ยินเป็นเสียง โอะๆ โนะๆ พอได้ยินไม่ชัดเจน ก็ไม่แน่ใจว่า เรียกชื่อของเขาอยู่หรือเปล่า ก็เลยไม่วิ่งไปหา ในทางตรงกันข้ามถ้าตั้งชื่อที่ลงท้ายด้วยสระเสียงยาว น้องหมาจะจำได้ง่ายกว่า และตอบรับได้ดีกว่า ด้วยเหตุนี้เองในต่างประเทศจึงมีน้องหมาชื่อลงท้ายด้วยเสียง อี เช่น เบ็ตตี้ ซิมมี่ เสียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

 

     - เสียงพยางค์แรกของชื่อ ควรเป็นพยัญชะที่มีเสียงหนักแน่นชัดเจน เช่น  ท, ด, ก, บ ควรหลีกเลี่ยงเสียงพยัญชนะที่ออกมาเพียงครึ่งเสียง หรือมีเสียงลมออกมามาก เช่น ฉ ช พ ม ค เพราะน้องหมาจะได้ยินเฉพาะพยางค์สุดท้ายของชื่อค่ะ แต่ถ้าเป็นชื่อพยางค์เดียว เขาก็จะได้ยินแต่เสียงสระแทน อย่างไรก็ตาม ลักษณะการออกเสียงของภาษาไทย ค่อนข้างชัดเจน ชัดถ้อยชัดคำ จึงจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แม้จะตั้งเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ^^

    - ชื่อควรมี 2 พยางค์ ในต่างประเทศเขามีสถิติศึกษาเรื่องตั้งชื่อของน้องหมา ผลออกมาว่า น้องหมาจะตอบสนองได้ดีมากที่สุดกับชื่อที่มี 2 พยางค์ โดยเฉพาะชื่อที่มีการซ้ำคำ หรือ การใช้คำที่ออกเสียงใกล้เคียงกันมาผสมเป็นชื่อ อย่างเช่น ดีดี้ มี่มี่ ซูซี่ กุ๊บกิ๊บ บูบู้ ชิชิ เป็นต้นค่ะ  เพราะการไล่โทนเสียงจะช่วยให้น้องหมาจดจำได้ง่ายขึ้น คุ้นหู และมีการตอบสนองฉับพลัน กระตือรือร้นได้ดีกว่า ชื่อหลายพยางค์ หรือ ชื่อพยางค์เดียวค่ะ ถ้าสังเกตอีกนิดจะเห็นว่า เวลาเราเรียกชื่อน้องหมาเราจะเรียกชื่อเขา ซ้ำไปซ้ำมา แม้จะชื่อพยางค์เดียว พวกเขาถึงจะมาหา นั่นก็เป็นผลมาจากการเรียกซ้ำ หรือใช้เสียงซ้ำนั่นเองค่ะ

     ส่วนชื่อ 3 พยางค์ก็สามารถตั้งได้นะคะ แต่ไม่ควรเกินมากกว่านั้น ซึ่งน้องหมาจะตอบรับได้ดีมากๆ  ถ้ามีเสียงสระ เสียงพยัญชนะเชื่อมโยงกัน ที่สำคัญควรจบด้วยสระเสียงยาวค่ะ เช่น ทีโมที่ รณพีร์ เป็นต้น  แต่ถ้าตั้งว่า ปวรรุจ เสียงจะต่ำลง สั้นลง น้องหมาจะไม่ตื่นตัวเมื่อได้ยิน เพราะจะอาจจะได้ยินเป็น รุดๆ อุ๊ดๆ ก็เลยไม่หัน ออกคำสั่งอะไรก็ไม่สนใจจะทำตามค่ะ ^___^

 
 

3.  ไม่ควรตั้งชื่อน้องหมาใกล้เคียงกับประโยคคำสั่ง


     อีกสิ่งที่ตั้งระวังก็คือ การตั้งชื่อน้องหมาใกล้เคียงกับประโยคคำสั่ง เช่น ลูกปืน – ยืน,  ใยไหม - ไม่ เป็นต้นค่ะ  เพราะชื่อที่ใกล้เคียงกับคำสั่งจะทำให้น้องหมาสับสนว่า อันไหนเป็นชื่อ อันไหนเป็นคำสั่งเป็นคำสั่ง ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร แยกแยะไม่ออกทำให้เกิดความสับสน  จนส่งผลต่อการฝึกวินัยได้ค่ะ  



4. ชื่อควรมีความหมายในแง่บวก


     ถึงแม้น้องหมาจะไม่สามารถเข้าใจความหมายของชื่อที่เราตั้งให้ได้ แต่ลักษณะน้ำเสียงของเราเวลาเรียกชื่อนั้น จะมีความรู้สึก หรือทัศนคติที่มีต่อชื่อที่กำลังเรียกอยู่ด้วย น้องหมาจะสามารถรับรู้อารมณ์ ความรู้สึก ได้จากเสียงที่เราเรียกชื่อของพวกเขาค่ะ เหมือนกับเวลาที่เราเรียกเขาว่า เด็กดี พลังงานของเราก็จะเป็นบวก เราจะยิ้มให้น้องหมา แต่ถ้าบอกว่า เด็กดื้อ หน้าของเราจะขมวดเล็กน้อย เสียงแข็งขึ้น มีความรู้สึกไม่พอใจปนอยู่ในน้ำเสียงนั่นเองค่ะ

     ดังนั้นใครที่ชอบตั้งชื่อน้องหมาตามคาร์แร็กเตอร์เฉพาะตัวของพวกเขา ให้ตลกๆ หรือตั้งจากปมด้อยของพวกเขา เช่น เป๋, ด้วน, เหล่, เหยิน,อ้วน  ก็ควรจะเลือกคาร์แรกเตอร์ในแง่บวกให้แทนนะคะ ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะสูญเสียความมั่นใจ รู้สึกไม่ดีเมื่อมีคนมาหัวเราะ หรือเสียดสี เวลาเรียกชื่อพวกเขาค่ะ



5. ถ้าชื่อเก่ากับชื่อใหม่ต่างกันมากควรใช้วิธีเรียก 2 ชื่อ


     ในกรณีอยากตั้งชื่อน้องหมาใหม่แต่ว่าเสียงของชื่อใหม่กับชื่อเก่าต่างกัน  อาจจะต้องใช้วิธีเรียก 2 ชื่อพร้อมกัน เหมือนมีนามสกุลต่อท้ายไปสักประมาณ 1-2 อาทิตย์ จนน้องหมาเริ่มจำได้ แล้วค่อยตัดทอนชื่อเก่าออกให้เหลือแต่ชื่อใหม่ค่ะ เช่น  น้องหมาชื่อ ปื้ด แต่อยากเปลี่ยนอินเทรนด์เป็น โรเบิร์ต ก็ให้เรียก 2 ชื่อควบกันเป็น  “ปื้ด โรเบิร์ต” เป็นต้นค่ะ
 
 

6. เปลี่ยนชื่อใหม่ ความรักยิ่งจำเป็น


     ช่วงที่เปลี่ยนชื่อใหม่ เราอาจจะต้องมอบความรัก ความใส่ใจ ให้คำชม ใช้อำนาจในเชิงบวกกับน้องหมามากขึ้น หลีกเลี่ยงการดุว่า หรือทำโทษ ในช่วงนี้โดยเด็ดขาดค่ะ เพื่อให้น้องหมารู้สึกดีกับชื่อใหม่ พวกเขาจะจดจำน้ำเสียง ภาษากาย ในขณะที่เราเรียกชื่อ ถ้าเราใช้อำนาจในแง่ลบกับเขา ตี หรือ ทำร้าย ในขณะเรียกชื่อใหม่ น้องหมาจะจดจำทันทีว่าชื่อนั้นเท่ากับความผิด และการถูกลงโทษค่ะ



7. น้องหมาตอบรับชื่อใหม่ไม่ดีควรเปลี่ยน


     ถ้าเราเปลี่ยนชื่อใหม่ให้น้องหมาสัก 2 อาทิตย์ แต่การตอบสนองไม่ดีขึ้น ก็ควรจะกลับไปใช้ชื่อเดิม หรือเปลี่ยนชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อเดิมมากขึ้น ไม่ควรทู่ซี้ใช้ชื่อใหม่ที่น้องหมาไม่ใส่ใจไปเรื่อยๆ นะคะ เพราะจะมีผลต่อการฝึกวินัย การออกคำสั่ง แต่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากเราเรียกน้องหมาเพื่อเตือนภัยอันตรายแล้วน้องหมาไม่ตอบรับค่ะ



8. เปลี่ยนชื่อใหม่บ่อยๆ ไม่ดี


     ถึงแม้เราจะรู้เทคนิคการเปลี่ยนชื่อน้องหมาใหม่ให้เขาจำได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ควรเปลี่ยนชื่อน้องหมาบ่อยๆ นะคะ นอกจากนี้ควรจะตกลงกับทุกคนในครอบครัวว่าให้เรียกชื่อเดียวไม่ใช่พ่อเรียกชื่อใหม่ แม่เรียกชื่อเก่า ลูกเรียกชื่อเล่นเป็นฉายา  เพราะน้องหมาจะสับสน รู้สึกไม่มั่นคง แล้วท้ายที่สุดก็ไม่ให้ความสำคัญ ไม่ตอบรับ ไม่ใส่ใจไปเลย ทางที่ดีพยายามตั้งชื่อน้องหมาที่สามารถใช้ไปได้ตลอดชีวิตของพวกเขานะคะ
 
 

    การเปลี่ยนชื่อน้องหมาสามารถทำได้ไม่ว่าจะน้องหมาเด็กหรือน้องหมาโต แต่อาจจะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ในการตั้งชื่อน้องหมาสักหน่อย เพราะเมื่อชื่อจำง่าย กระตือรือร้นเมื่อได้ยิน จะส่งผลดีต่อเรื่องของการฝึกวินัย การเชื่อฟังตอบสนองต่อคำสั่ง ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ คนไหนคิดจะเปลี่ยนชื่อน้องหมาใหม่อย่างที่ใจเราต้องการ อาจต้องคำนึงเรื่องของการออกเสียงมากขึ้น แต่ถ้าเห็นว่าชื่อใหม่ไม่เข้าหูน้องหมา  ขอแนะนำว่า ... อาจจะต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ตามดั่งใจน้องหมาต้องการแล้วล่ะค่ะ ^^

    
    
    

บทความโดย : Dogilike.com


ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.wikihow.com/Rename-a-Dog
http://www.wikihow.com/Name-Your-New-Puppy-or-Dog
http://www.cesarsway.com/tips/trainingtips/Whats-in-a-Name
http://www.wikihow.com/Rename-a-Dog
http://www.petfinder.com/dogs/bringing-a-dog-home/changing-dog-name/


ภาพประกอบ :
images.yourdictionary.com
www.puplife.com
www.jewelinfo4u.com
trainertrishwamsat.wordpress.com
www.purina.com.au
dogs.thefuntimesguide.com