โดย: พริกขี้หนู
6 เรื่องจริงสุดสะเทือนใจ ที่เกิดขึ้นกับน้องหมาขาสั้น!
น้องหมาขาสั้นที่หลายคนอาจมองว่าพวกเขาดูไม่สมประกอบ แท้จริงแล้ว เป็นชีวิตที่พวกเขาเลือกเองไม่ได้
20 ตุลาคม 2557 · · อ่าน (22,975)
น้องหมาสายพันธุ์ขาสั้นที่คนส่วนใหญ่รู้จักมีอยู่เพียง 4-5 สายพันธุ์ เช่น ดัชชุน คอร์กี้ บาสเซ็ต ฮาวนด์ และ เวสตี้ เป็นต้น ที่ไม่นับรวมว่าเป็นน้องหมาที่แคระจากความเป็นปกติของยีนส์ ซึ่งหลายคนที่ไม่รู้จักน้องหมาว่าเป็นหมาแคระ ดูเหมือนพิการทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาต้องผ่านอะไรมามากกว่าจะมีเป็นน้องหมาสายพันธุ์ขาสั้นที่ชื่อดังก้องโลก มาดูกันค่ะว่า ชีวิตขาสั้นนั้นเกิดมาได้อย่างไร และ จะเกิดอะไรเมื่อต้องอยู่อย่างน้องหมาขาสั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันขาสั้น ๆ ของพวกเขานั้น ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตมากขึ้นทุกที
1. ขาสั้นของน้องหมา ... การพัฒนาที่ผิดปกติของยีนส์
ผู้ที่เลี้ยงคอร์กี้ หรือ ดัชชุนอาจจะชื่นชอบความน่าของของขาสั้น ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของพวกเขา แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ขาที่สั้นถือได้ว่าเป็นความบกพร่องทางร่างกายที่เติบโตมาอย่างผิดปกติ แล้วมีการนำไปผสมกันต่อไปเรื่อย ๆ หลายร้อยปี แปลงยีนส์ผิดปกติชั่วคราวกลายเป็นยีนส์ผิดปกติถาวร จนในที่สุดก็ได้ออกมาเป็นสุนัขสายพันธุ์สุดพิเศษ ขาสั้น น่ารัก มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอย่าง ดัชชุน คอร์กี้ ที่มีข้อขาท่อนล่างที่สั้นกุดนั่นเอง
โดยสาเหตุที่ทำให้ยีนส์ของพวกเขามีความผิดปกตินั้นเกิดจากร่างกายของน้องหมาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ทารกมีการผลิตโปรตีนมากเกินความต้องการ ส่งผลให้ไปรบกวนการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์จนนำไปสู่ความผิดปกติของร่างกายของลูกในเวลาต่อมา แล้วความผิดปกติของน้องหมาขาสั้นนี้เองได้ถูกนักพัฒนาสายพันธุ์คัดเลือกสร้างสรรค์จนได้มาเป็นน้องหมาตัวเตี้ย (Down-sized dog) ที่ใช้ในการไล่ล่าเหล่าศัตรูพืชที่ขุดรูอยู่ใต้ดิน
ในส่วนของนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่รู้ถึงการนำเอาความผิดปกติของสุนัขมาสร้างประโยชน์ของมนุษย์ จึงไม่ค่อยเห็นด้วยกับการพัฒนาและขยายสายพันธุ์น้องหมาขาสั้นสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขาเชื่อว่าสุนัขทุกตัวมีบรรพบุรุษเดียวกันคือหมาป่า ดังนั้น การที่น้องหมาน้องหมาถูกปรับหรือพัฒนาให้กลายเป็นน้องหมาขาสั้น ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางร่างกาย จึงเป็นการทารุณกรรมสัตว์และฝืนกฏธรรมชาติอย่างไม่สามารถยอมรับได้
2. ดัชชุน ... ได้รับการพัฒนาให้กลายมาเป็นน้องหมารู
น้องหมาไส้กรอกหรือดัชชุน เป็นน้องหมาขาสั้นสายพันธุ์ที่โดดเด่นโด่งดังมานานมากที่สุด พวกเขาได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีลำตัวที่ยาว ขาสั้น กระดูกสันหลังมีความยืดหยุ่นหลังที่ดีเยี่ยม เพื่อสามารถมุดเข้าไปในรู ในโพรงของตัวแบดเจอร์ หรือ เหล่าศัตรูพืชทั้งหลาย ไม่ให้มารบกวนไร่นา อย่างไรก็ตาม การถูกพัฒนาให้พวกเขามีสรีระเช่นนั้นเพื่อการใช้งานโดยไม่คิดถึงผลเสียที่จะตามหานำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความถูกต้อง โดยเฉพาะนักพัฒนาสายพันธุ์ที่พยายามปรับสายพันธุ์ให้ดัชชุนมีเอกลักษณ์พิเศษยิ่งขาสั้นเท่าไหร่ยิ่งดี จึงเพาะพันธุ์ให้ขาพวกเขาสั้นจนลำตัวแทบแทบติดดิน เพาะพันธุ์จนผิดรูปร่าง ซึ่งมีลักษณะที่ผิดรูปอย่างแรงและส่งผลเสียต่อสรีระของสุนัขอย่างมาก
อย่างในปัจจุบันนี้ ที่สรีระของพวกเขาไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไร พลังงานไม่ได้รับการเผาผลาญ ทำให้อ้วนง่าย จึงนำโรคต่าง ๆ พ่วงมาด้วยอย่างมากมาย และถึงแม้ดัชชุนมีช่วงอายุที่ยืนยาวได้ถึง 20 ปีก็จริง แต่ด้วยปัญหาของสรีระส่งผลให้เกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานจาก โรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ข้อกระดูก และโรคอ้วน เป็นต้น ดังนั้น ถ้าคิดจะเลี้ยงพวกเขา ควรดูแลเรื่องสุขภาพมากเป็นพิเศษนะคะ
3. บาสเซ็ต ฮาวด์ ... ได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นนักดมกลิ่นภาคพื้นดิน
บาสเซ็ตต์ ฮาวนด์ น้องหมานักดมกลิ่น หน้ามึนสายพันธุ์นี้ เดิมทีไม่ได้อ้วนย้อยยานขนาดที่เห็น หากเป็นน้องหมานักล่ากลุ่มฮาวนด์เช่นเดียวกับบีเกิ้ลที่มีมีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ จึงมีนักพัฒนาสายพันธุ์เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าน่าจะดีถ้าจะช่วยย่นระดับความสูงให้พวกเขาดมกลิ่นที่พื้นได้ง่ายมากขึ้น ก็เลยจัดการปรับปรุงสายพันธุ์ให้เตี้ยใกล้กับพื้นดินจะได้ดมกลิ่นเหล่าสัตว์ทั้งหลายไว้ใช้สำหรับงานไล่ล่า อย่างไรก็ตาม บางกลุ่มคนมีความเชื่อเรื่องขายิ่งสั้นยิ่งดี เพื่อเคลื่อนไหว หรือ เดินได้ช้าลง ดมกลิ่นได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้เอง จากที่สั้นพอประมาณก็กลายเป็นสั้นมากขึ้น ๆ จนเกือบจะติดดิน ส่งผลให้พวกเขามีปัญหาเรื่องข้อเท้าในการรับน้ำหนัก เคลื่อนไหวได้ยากยิ่งขึ้น จมูกอยู่ใกล้พื้นดินตลอดเวลาทำให้สนใจจดจ่ออยู่แต่กับพื้น กลายเป็นน้องหมาหูบอด เรียกไม่หัน เหมือนไม่ได้ยิน โยนของเล่นให้วิ่งตามก็ไม่ค่อยวิ่ง ได้แต่เดินดมไปดมมา ยิ่งในปัจจุบันพวกเขาไม่ได้ทำหน้าที่ไล่ล่าสัตว์แล้ว ร่างกายจึงไม่ได้รับการเผาผลาญอย่างเพียงพอ กล้ามเนื้อ ผิวหนังไม่เฟิร์มเช่นเดิม ย่วยยานดูเป็นน้องหมาสุขภาพไม่ดี ... ประกอบกับความพิเศษของร่างกายพวกเขาจึงไม่มีประโยชน์หรือความจำเป็นเท่าไหร่ อีกทั้งร่างกายยังมีปัญหาเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย ความนิยมในการเลี้ยงจึงลดลง จะมีก็เพียงวงการตำรวจหรือทหารที่นำไปผึกเพื่อตรวจหาสารเสพติด และ วัตถุระเบิดเสียเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
4. กระดูกขาหน้าสั้น ... ความแปลกที่อาจทำให้ป่วย
หลายคนคงสงสัยว่าขาสั้น ๆ ของพวกเขาจะมีผลอย่างไรต่อร่างกายในอนาคตบ้างหรือไม่ในกรณีที่น้องหมาขาสั้นแต่ไม่ได้หลังยาว ซึ่งจากการเก็บรวบรวมข้อมูลอาการป่วยหรือบาดเจ็บของเหล่าน้องหมาขาสั้นโดยสัตวแพทย์พบว่า ปกติแล้วน้องหมาขาสั้นจะมีท่อนขาสั้นทั้งท่อนบนและล่าง ขาโก่งออกเล็กน้อยตามธรรมชาติอยู่ก่อนบ้างแล้ว แต่น้ำหนักที่มากจึงไปกดยังข้อกระดูกข้อต่าง ๆ อีกทั้งท่อนขาที่จะช่วยรับน้ำหนักค่อนข้างสั้น ช่วยรับแรงกดไม่ได้มาก จึงนำไปสู่ปัญหาเรื้อรังของความผิดปกติของท่อนขาหน้าที่จะมีความโก่ง งอผิดปกติ ข้อศอกเคลื่อนผิดตำแหน่ง ยิ่งถ้าผู้เลี้ยงไม่สามารถคุมน้ำหนักน้องหมาได้ก็จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาที่ข้อขาและท่อนขาได้เร็วมากขึ้น โดยเฉพาะน้องหมาขาสั้นลำตัวยาว จะเสี่ยงต่อการมีปัญหากระดูกสันหลังที่ต้องรองรับน้ำหนักตัวจนแอ่น สุขภาพของพวกเขาจึงย่ำแย่มากขึ้น เจ็บปวดทั้งตัว และอาจพิการได้ในที่สุดค่ะ
ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ให้กินจนมีน้ำหนักเกิน ควรพาไปออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่หนัก การกระโดดที่จะกระทบกระเทือนต่อกระดูดท่อนขาและกระดูกสันหลัง ให้คอยสังเกตความผิดปกติที่ท่อนขา หรือหลังของพวกเขา เมื่อใดที่พบความผิดปกติควรพาไปพบสัตวแพทย์ เอ็กซ์เรย์ หาหนทางป้องกันและแก้ไขให้เร็วที่สุดก่อนที่ปัญหาจะลุกลามแก้ยากค่ะ
5. ดัชชุนเคยถูกนำไปใช้เป็นประเด็นทางการเมืองจนมีจำนวนลดลง
ปัญหาทางการเมืองไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตเล็ก ๆ ของน้องหมาได้เช่นเดียวกันกับคน โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศเยอรมันเป็นฝ่ายอำนาจกลางอยู่ตรงกันข้ามกับฝ่ายพันธมิตร ซึ่งในช่วงระหว่างนั้นหลายประเทศในยุโรปที่อยู่ตรงข้ามกับเยอรมัน ต่างออกมาต่อต้านสินค้า ผลิตภัณฑ์รวมไปถึงสายพันธุ์น้องหมาที่มีถิ่นกำเนิดจากเยอรมัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ดัชชุน พวกเขาได้รับการต่อต้านอย่างหนักถึงขั้นที่ส่งผลให้ปริมาณ และการเพาะพันธุ์ดัชชุนลดลงอย่างน่าใจหาย อย่างไรก็ตาม หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงได้เริ่มกลับมาขยายพันธุ์ดัชชุนใหม่อีกครั้ง และเป็นที่นิยมเลี้ยงมากขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ได้มีการรณรงค์ไม่ใช้สุนัขเป็นตัวแทนทางการเมืองเช่นที่เคยเกิดมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมีดัชชุนเป็นสัญลักษณ์น้องหมาที่ใช้ในการรณรงค์ในครั้งนี้ ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
การบอกเล่าชีวิตที่น่าสงสารน่าเห็นใจของน้องหมาขาสั้นไม่ได้เป็นการชี้นำว่าไม่ควรเลี้ยงน้องหมาพันธุ์ขาสั้นนะคะ แต่เป็นการบอกให้เพื่อน ๆ ได้รู้ว่า ชีวิตของพวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องเสียสละบางสิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การทำมาให้กินของมนุษย์ ผู้เลี้ยงจึงควรดูแลพวกเขาอย่างดีและถูกวิธีเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพที่อาจจะตามมานั่นเองค่ะ....พวกเขาไม่สามารถเลือกที่เกิดมาเป็นน้องหมาขาสั้นได้ แต่สำหรับผู้เลี้ยงแล้ว ถ้าเลือกเลี้ยงพวกเขา ต้องดูแลให้ดีนะคะ ^^
บทความโดย : Dogilike.com
http://www.dogilike.com/
ข้อมูลอ้างอิง :
http://youtu.be/p0Gkk239JUk
http://www.janedogs.com/short-legged-terriers/
http://tierneylab.blogs.nytimes.com/2009/07/17/the-origin-of-the-short-legged-dog/?_php=true&_type=blogs&_r=0
ภาพประกอบ :
www.dachshundgifts.org
www.healthrelatedinfos.com
retrieverman.net
ligirodogtraining.wordpress.com
jumpstoneblog.com
houndwelfare.wordpress.com
www.pets4homes.co.uk
www.kthanna.com
SHARES