เพื่อน ๆ คนรักน้องหมาที่เป็นคอภาพยนตร์มาทางนี้เลยค่ะ !! ... เพราะวันนี้ Dogilike Ranking  ได้นำฉากซึ้ง ๆ จากภาพยนตร์ที่มีน้องหมาร่วมแสดงมารวมเอาไว้  กับการจัดอันดับ " 5 ฉากสุดซึ้งจากภาพยนตร์น้องหมา ที่คนรักสัตว์ต้องหามาดู" จะมีภาพยนตร์เรื่องไหนบ้าง เราไปติดตามกันค่ะ

Hachi ฮาชิ ... หัวใจพูดได้

ฉากเจ้าฮาชิ นั่งรอเจ้านายที่สถานีรถไฟ
 

 
      ไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เพราะเป็นภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่า เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจของคนรักสุนัขและคอหนังไปทั่วโลกเลยทีเดียว โดยเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างมาจากเรื่องจริงของเจ้าฮาชิ สุนัขพันธุ์น้องหมาพันธุ์อาคิตะของญี่ปุ่นที่ทุกวัน มันจะคอยเดินตามไปส่งเจ้านายที่สถานีรถไฟเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้า และทุก ๆ เย็น มันก็จะไปรอรับเจ้านายอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ตั้งหน้าตั้งตารอ เพื่อให้ได้เห็นคนที่รักและเพื่อได้มีช่วงเวลาที่ดีเดินกลับบ้านด้วยกันทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้านายของมันก็ไม่ได้เดินทางกลับมาอย่างที่ควรจะเป็น แต่การรอคอยของฮาชิก็ไม่เคยสิ้นสุดเพราะฮาชิยังคงรอคอยเจ้านายของมันทุกวันตราบจนนาทีสุดท้ายของชีวิต

      โดยฉากที่ซึ้งที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ฉากการรอคอยอย่างจดจ่อ อดทนและมีความหวังของฮาชิ หลังจากวันที่เจ้านายจากไป ซึ่งฉากนี้เป็นฉากที่ดูเรียบง่าย แต่สร้างความประทับใจได้ไม่น้อย เพราะเจ้าฮาชิรอคอยมองประตูสถานีรถไฟท่ามกลางหิมะ ในขณะที่ผู้คนเดินขวักไขว่แต่ไร้เงาของเจ้านายผู้เป็นที่รัก ซึ่งสร้างความสะเทือนใจให้แก่คนดูที่รู้ความจริงว่าอะไรเกิดขึ้น และทำให้หลายคนน้ำตาไหลไปตาม ๆ กัน

       สำหรับเรื่องนี้ หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ใช้น้องหมาเป็นนักแสดงนำเพียงตัวเดียว แต่บอกเลยค่ะว่า สุนัขที่ได้รับบทเจ้าฮาชิที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจมีถึง 3 ตัวเลยทีเดียว นั่นก็คือ เจ้า Chico, Layla, และ Forrest ค่ะ

 

เจ้า Chico, Layla, และ Forrest

 

ชมคลิปตัวอย่าง

A tale of Mari and three puppies เพื่อนซื่อ ชื่อ “มาริ”

ฉากมาริวิ่งตามเจ้าของที่อยู่บนเครื่องบิน
 

     เป็นอีกหนึ่งเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่จังหวัดนิงาตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2004 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสุนัขสายพันธุ์ชิบะชื่อ “มาริ” ได้ช่วยชีวิตผู้เป็นเจ้าของเอาไว้ รวมถึงลูกของมาริเองอีกจำนวน 3 ตัวเอาไว้ โดยมาริได้นำทางให้ทหารตามไปช่วยคุณปู่กับหลานสาวที่อยู่ใต้ซากปรักหักพังของบ้าน ก่อนที่ทหารจะพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทหารและหลานสาวต้องตัดสินใจว่า จะพามาริและลูก ๆ ไปด้วยหรือไม่ แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องทิ้งมาริและลูก ๆ ของมันเอาไว้เพราะเฮลิคอปเตอร์ไม่มีที่พอสำหรับมาริและลูก ๆ

      ฉากการจากลาในครั้งนี้เป็นฉากที่สะเทือนใจที่สุดฉากหนึ่งของภาพยนตร์เพราะเสียงของเด็กหญิงที่ร้องไห้ขณะถูกเชือกดึงขึ้นเฮลิคอปเตอร์กับเสียงเห่าเรียกของมาริสร้างความเศร้าสะเทือนใจอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่มาริวิ่งตามเฮลิคอปเตอร์ แล้วเด็กหญิงร้องไห้จนพลอยให้เด็กคนอื่นที่เห็นเสียใจร้องตามไปด้วยก็เป็นอีกฉากที่ทำให้คนดูต่างหลั่งน้ำตา ...
 

Eight Below ปฏิบัติการ 8 พันธุ์อึดสุดขั้วโลก

ฉากการกลับมาเจอกันอีกครั้ง
 

       ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงในปี 1957 เมื่อสุนัขลากเลื่อนของทีมงานนักวิจัย จำนวน 8 ตัว ถูกทิ้งให้เอาชีวิตรอดแผ่นดินน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติก และในเรื่องนี้ยังได้ดาราผู้ล่วงลับอย่างพอล วอคเกอร์ มาร่วมแสดงอีกด้วย ... สำหรับเรื่องราวของภาพยนตร์เริ่มจากการสำรวจที่ต้องมีนักนำทางและน้องหมาลากเลื่อน 8 ตัวคอยนำทางให้นักวิทยาศาสตร์ แต่ในระหว่างนั้นได้เกิดพายุเลวร้าย ทำให้ต้องรีบอพยพ ทำให้จำเป็นต้องทิ้งสุนัขทั้ง 8 ตัวไว้ และโชคร้ายเมื่อเกิดพายุหิมะครั้งใหญ่ที่ได้ตัดขาดเส้นทาง สุนัขทั้งหมดจึงถูกทิ้งไว้เบื้องหลังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ จนกระทั่งต่อมา นักนำทางกับเพื่อนที่เคยทำงานที่สถานีนั้นได้รวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อออกตามหาสุนัขลากเลื่อน โดยหวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง

     ซึ่งฉากที่ประทับใจและน่าจดจำที่สุดคือ ฉากที่ทีมของพระเอกพบว่า น้องหมายังมีชีวิตอยู่หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้าย ทำให้ทั้งคู่ต่างก็วิ่งเข้าหากัน เป็นฉากที่เรียกทั้งน้ำตาและรอยยิ้มได้ไปพร้อม ๆ กัน

ชมคลิปตัวอย่าง

Lassie

ฉากแลสซี่ฟันฝ่าอุปสรรคกลับไปหาเจ้าของเดิม
 
 

       แลสซี่ เป็นเรื่องราวความจงรักภักดีที่สุนัขมีต่อนายอันเป็นที่รัก โดยเรื่องราวระดับตำนานนี้ถูกสร้างมาเป็นภาพยนตร์แล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง การเดินทางของสุนัขเลี้ยงแกะพันธุ์คอลลี่ แสนสวยและฉลาด ที่ออกเดินทางมากกว่า 1,000 ไมล์เพื่อตามหาเจ้านายที่แท้จริงของมัน หลังจากครอบครัวเกิดประสบปัญหาทางการเงินจึงต้องขายแลสซี่ให้กับเศรษฐีที่อยู่ไกลออกไปหลายไมล์ แต่แลสซี่ก็ได้พยายามหาทางหนีเพื่อกลับไปพบเจ้าของ ระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมายที่จะทำให้คนดูประทับใจจนไม่รู้ลืม 

     โดยฉากที่ตราตรึงอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนคือ ฉากในวันที่แลสซี่ได้ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาจนร่างกายบอบช้ำเดินทางมาจนถึงหน้าบ้านของเจ้าของเดิมภายใต้ความหนาบเหน็บของหิมะวันคริสต์มาส แต่สุดท้ายบ้านกลับมืดมิดเพราะครอบครัวเดิมของแลสซี่ได้ไปเลี้ยงฉลองเทศกาลกันที่โบสถ์ สีหน้าของแลสซี่แสดงความหดหู่ ความหวังพังทลาย และหวาดกลัวว่าจะไม่มีใครต้องการเพราะมีน้องหมาอีกตัวอยู่ที่บ้านแล้ว 
 

มะหมา 4 ขาครับ ภาค 1
 

 
     ถ้าไม่เอ่ยถึงภาพยนตร์ไทยก็คงไม่ได้ เพราะเราก็มีภาพยนตร์หมาที่โด่งดัง การันตีฝีมือได้ไม่น้อยหน้าใคร มะหมา4 ขาครับภาค 1 ได้รับการตอบรับอย่างสวยงามของคนรักภาพยนตร์และรักน้องหมาของเมืองไทย ว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยของเหล่าน้องหมาวัด น้องหมาบ้าน ที่สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ น้ำตา และแรงบันดาลใจได้อย่างน่ารัก อีกทั้งยังเป็นการแจ้งเกิดของน้องหมานักแสดงมากหน้าหลายตาของเมืองไทย อย่างน้องริชาร์ด ที่หลายคนรู้จักนั่นเอง

      ฉากที่ซาบซึ้ง กินใจมาก ๆ คงหนีไม่พ้นฉากน้องหมาทุก ๆ ตัวไม่ทิ้งกันแถมยังฮึดสู้ ช่วยกันทั้งดึง ทั้งเข็นพาคุณลุงกาแฟ น้องหมาอาวุโสข้ามฟากถนนเพื่อไปถึง สุนัขวดี สวรรค์ในตำนานของหมา ๆ เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่และทำให้เห็นถึงพลังของน้องหมาทุกตัวที่ต้องการช่วยเหลือคุณลุงกาแฟ ซึ่งทำให้คนที่ผ่านไปเห็นต่างตื่นเต้นกับภาพที่เกิดขึ้น สำหรับฉากนี้ใช้น้องหมาแสดงพร้อมกันถึง 6 ตัว สามารถพิสูจน์ฝีมือการกำกับน้องหมาได้อย่างยอดเยี่ยม และน่าประทับใจมากจริง ๆ ค่ะ

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ข้อมูลและภาพประกอบจาก :
https://moviemusicuk.us/2006/09/01/lassie-adrian-johnston/
http://www.hmv.co.jp/en/artist_Soundtrack_000000000000041/item_A-Tale-Of-Mari-And-Three-Puppies-Original-Motion-Picture-Soundtrack_2645635
https://shibasenji.wordpress.com/2013/03/04/film-the-tale-of-mari-and-her-three-puppies/