โดย: Tonvet
ทำความรู้จักกับ 5 น้องหมาพันธุ์ควบคุมพิเศษ
มาดูกันว่า มีสุนัขพันธุ์ใดบ้างที่ถูกประกาศให้เป็นสุนัขที่ต้องควบคุมพิเศษและห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร
11 มิถุนายน 2561 · · อ่าน (18,906)
- ปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายห้ามนำเข้าสุนัขบางพันธุ์มาในราชอาณาจักร เช่น สุนัขพันธุ์ Pit bull terrier สุนัขพันธุ์ American Staffordshire Terrier สุนัขพันธุ์ Fila Brasileiro
- มีกฎหมายควบคุมสุนัขพันธุ์ควบคุมพิเศษอย่างเคร่งครัด โดยต้องเลี้ยงในพื้นที่ที่มีรั้วกั้นมิดชิด ต้องควบคุมไม่ให้ออกนอกสถานที่โดยไม่มีผู้ควบคุม หากจะนำออกนอกสถานที่เลี้ยงจะต้องมีเครื่องควบคุมที่แข็งแรง ต้องสวมใส่อุปกรณ์ครอบปากตลอดเวลา ต้องมีสายจูงโดยที่ผู้ควบคุมจะต้องจูงห่างตัวได้ไม่เกิน 50 เซนติเมตร
- สุนัขบูลเทอร์เรียที่หน้าตาดูน่ารักและเป็นมิตร แต่พวกเขาเป็นหนึ่งในน้องหมาสายพันธุ์ควบคุมพิเศษ ในอดีตถูกเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อใช้ในกีฬาต่อสู้ระหว่างสุนัขกับวัว หรือระหว่างสุนัขด้วยกัน

สุนัขเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัว ลักษณะขน หรือแม้แต่นิสัย สุนัขบางพันธุ์มีความเป็นมิตร เนื่องจากถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อให้เป็นเพื่อนมนุษย์ ในขณะที่สุนัขบางพันธุ์กลับมีนิสัยดุร้าย เนื่องจากถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อใช้ในการต่อสู้ ซึ่งเป็นเกมกีฬาที่ได้รับความนิยมในอดีตของคนบางกลุ่ม นิสัยเหล่านี้ยังคงถ่ายทอดสืบมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ผู้ที่จะนำสุนัขมาเลี้ยง จำเป็นจะต้องศึกษาลักษณะนิสัยของสุนัขแต่ละพันธุ์ให้ดีก่อน
ปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายห้ามนำเข้าสุนัขบางพันธุ์มาในราชอาณาจักร เช่น สุนัขพันธุ์ Pit bull terrier สุนัขพันธุ์ American Staffordshire Terrier สุนัขพันธุ์ Fila Brasileiro เป็นต้น ที่เห็นมีเลี้ยงอยู่ส่วนมากเป็นตัวที่เกิดขึ้นในประเทศ หรือลักลอบนำเข้ามา ไม่ได้รับการจดทะเบียนกัยสมาคมใดๆ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายควบคุมการเลี้ยงสุนัขบางพันธุ์อย่างเคร่งครัด โดยจะต้องเลี้ยงในพื้นที่ที่มีรั้วกั้นมิดชิด ต้องควบคุมไม่ให้ออกนอกสถานที่โดยไม่มีผู้ควบคุมหากจะนำออกนอกสถานที่เลี้ยงจะต้องมีเครื่องควบคุมที่มั่นคงแข็งแรง ต้องสวมใส่อุปกรณ์ครอบปากตลอดเวลา ต้องมีสายจูงโดยที่ผู้ควบคุมจะต้องจูงห่างตัวได้ไม่เกิน 50 เซนติเมตร เพื่อน ๆ คงอยากรู้แล้วใช่หรือไม่ครับว่า สุนัขพันธุ์ควบคุมพิเศษนี้จะมีพันธุ์ใดบ้าง เรามาดูกันครับ
1 ฟิล่า บราเซิลเรียโร (Fila Brasileiro)
สุนัขพันธุ์ฟิล่า บราเซิลเรียโร เป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่าดุที่สุดในโลก เท่าที่พอจะมีหลักฐานบันทึกในยุคต้นปี ค.ศ.1671 ชาวยุโรปนำมายังบราซิล ใช้เป็นสุนัขล่าเนื้อ และถูกเลี้ยงในไร่ขนาดใหญ่ เพื่อขับไล่เสือในประเทศบราชิล จึงจำเป็นต้องเลี้ยงให้ดุเพื่อต่อสู้กับสัตว์ร้าย สุนัขพันธุ์นี้ เกิดจากการผสมกันของสุนัข 3 พันธุ์หลัก ได้แก่ โอลด์อิงลิช บลูด็อก (Ancient Bulldog) มาสทีฟ (Mastifsfs) และบลัดฮาวน์ (Bloodhounds) อีกทฤษฎีหนึ่งคาดว่า เกิดจากการผสมกันระหว่าง บลัด ฮาวน์ มาสทิฟฟ์ บูลด็อก แล้วนำไปผสมกับหมาป่าประเทศเทศบราซิล จึงมีขนาดตัวที่ใหญ่และมีพละกำลังมหาสาน ในภาษาโปรตุเกส คำว่า “ฟิล่า” หมายถึง การจับแล้วยึดไว้อย่างมั่นคง นั่นก็คือ ถ้าเกิดไปปได้กัดอะไรไว้ในปากแล้ว โอกาสที่มันจะปล่อยนั้นยากมาก ไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า อีกทั้งยังอาจทำร้ายสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้านได้ หากเกิดการไม่ชอบใจ ปัจจุบันจึงใช้เป็นสุนัขเฝ้าบ้านชั้นเยี่ยม โดยพร้อมที่จะปกป้องเจ้านายด้วยชีวิตเสมอ
2 พิตบูลเทอร์เรีย (Pit bull terrier)
สุนัขพันธุ์พิตบูลเทอร์เรีย หรือ สุนัขพันธุ์อเมริกันพิทบูล มีขนาดรูปร่างปานกลาง มีสัดส่วนที่พอดี ขนสั้นเรียบ เป็นมันเงางามและมีกล้ามเนื้อที่เด่นชัดมาก สุนัขสายพันธุ์นี้เต็มไปด้วยพละกำลังและมีความปราดเปรียวเป็นอย่างมาก ในช่วงศตวรรษที่19 ผู้ที่นิยมสุนัขในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ และสก๊อตแลนด์ ได้เริ่มที่จะผสมข้ามพันธุ์ระหว่างบูลด๊อกตัวที่เหนียวที่สุด กับ สุนัขเทอร์เรียตัวที่กล้าหาญ ที่สุด และดีที่สุดเข้าด้วยกัน ผลจากการผสมข้ามสายนี้ในไม่ช้าก็รู้กันว่าพวกมันคือ สุนัข บูล แอนด์ เทอร์เรีย (Bull-and-Terrier) หรือ อเมริกันพิทบูล นั่นเอง เพื่อต้องการที่จะได้สุนัขที่มีลักษณะของการล่าเหยื่อของสุนัขพันธุ์เทอร์เรีย กับ ความแข็งแกร่ง และความปราดเปรียวที่เหมือนกับสุนัขพันธุ์บูลด๊อก ผลที่ออกมานั้นก็คือสุนัขที่ประกอบไป ด้วยความเป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ แข็งแรง ทรหด อดทน และอ่อนโยนกับคนที่มันรัก ผลของการอพยพปรากฏว่ามีคนได้นำสุนัข บูล แอนด์ เทอร์เรีย นี้ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนที่เป็นเกษตรกรและเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ได้มองเห็นความสามารถ ของสุนัขพันธุ์ อเมริกันพิทบูลและได้ใช้มันในการปกป้องทรัพย์สิน
พิตบูลเป็นสุนัขที่มีความกระฉับกระเฉง เต็มไปด้วยพละกำลัง ว่องไว ฉลาด ซื่อสัตย์ เกิดมาเพื่อเป็นสุนัขอารักษ์ขา มีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาชอบให้คนดูแลเอาใจใส่ และมีความกระตือรือร้นมาก เป็นมิตรกับคนในครอบครัว และรักเด็ก อย่างไรก็ตาม พวกเขามักแสดงความก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่นๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง และมีอำนาจเหนือ ดังนั้นจึงจำเป็นที่พวกเขาต้องมีเจ้าของที่สามารถอบรมหรือฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ มีความเป็นจ่าฝูง เพื่อควบคุมให้พวกเขาอยู่ในโอวาท มีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวทำร้ายผู้คน หรือ สุนัขตัวอื่น
พิตบูลเป็นสุนัขที่มีความกระฉับกระเฉง เต็มไปด้วยพละกำลัง ว่องไว ฉลาด ซื่อสัตย์ เกิดมาเพื่อเป็นสุนัขอารักษ์ขา มีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาชอบให้คนดูแลเอาใจใส่ และมีความกระตือรือร้นมาก เป็นมิตรกับคนในครอบครัว และรักเด็ก อย่างไรก็ตาม พวกเขามักแสดงความก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่นๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง และมีอำนาจเหนือ ดังนั้นจึงจำเป็นที่พวกเขาต้องมีเจ้าของที่สามารถอบรมหรือฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ มีความเป็นจ่าฝูง เพื่อควบคุมให้พวกเขาอยู่ในโอวาท มีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวทำร้ายผู้คน หรือ สุนัขตัวอื่น
3 ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ มีความเป็นนักสู้ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า สุนัขพันธุ์อเมริกัน พิทบูล ปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านและคุ้มกันทรัพย์สิน แม้จะไม่แข็งแรงเท่าพิทบูล แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นสุนัขอารักขาที่ซื่อสัตย์และน่าเกรงขาม อีกทั้งยังฝึกได้ไม่ยาก จึงเป็นหนึ่งในสุนัขยอดนิยมของราชการทหารตำรวจ เป็นสุนัขกู้ภัยที่ดี ทั้งนี้เจ้าของควรดูแล และให้ความรักและการเอาใจใส่อย่างดี สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่และมีโครงสร้างที่แข็งแรง มีความฉลาดและน่ารัก แต่แฝงด้วยความดุร้ายซึ่งอยู่ในสายเลือด ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคโรมันโบราณ ถูกฝึกใช้งานต้อนฝูงสัตว์ เลี้ยงแกะ เลี้ยงวัว เลี้ยงม้า หรือลากเกวียน สุนัขสายพันธุ์นี้เคยได้เดินทางมาพร้อมกองทหารโรมัน เพื่อเป็นยามรักษาการณ์ระหว่างเดินทัพด้วย ต้องเดินข้ามเทือกเขาแอลป์พร้อมกับกองทหารโรมันขนาดใหญ่ เพื่อคอยปกป้องคนและไล่ต้อนฝูงปศุสัตว์ ต้นของศตวรรษที่ 20 ได้มีการนำสุนัขสายพันธุ์ต่าง ๆ มาทดสอบเพื่อใช้ในงานของตำรวจและร็อตไวเลอร์ ก็เป็นที่ยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภาระกิจนี้และเพราะฉะนั้นสายพันธุ์นี้จึงได้รับการรับรองให้ใช้เป็นสุนัขตำรวจใน 1910 อย่างเป็นทางการ
4 สแตฟเฟิร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ (Staffordshire bull Terrier)
สุนัขพันธุ์สแตฟเฟิร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ กำเนิดขึ้นมาในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เป็นพันธุ์ผสมระหว่างบูลด็อกในปัจจุบัน และโอลด์ อิงลิช เทอร์เรีย ซึ่งตอนนี้สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความยาวของหัวให้มากกว่าพันธุ์บูลด็อก และรวมความแข็งแรงและว่องไวของทั้ง 2 พันธุ์ไว้ด้วยกัน ในช่วงแรกสุนัขพันธุ์นี้ จะไม่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากถูกใช้ในเกมการพนันกัดสุนัข หลังจากนั้น คนงานขุดเหมืองแร่และช่างตีเหล็กเริ่มฝึกสุนัข เพื่อให้เกมการแข่งขันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้สุนัขถูกพัฒนาความฉลาดและความซื่อสัตย์ตามไปด้วย สุนัขพันธุ์นี้มีขนาดตัวปานกลาง ไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้คล่องตัว อีกทั้งยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและทรงพลังมาก ฝึกอบรมก็ง่าย เพราะเป็นสุนัขที่มีความกระตือรือร้นสูง สุนัขพันธุ์นี้ถ้าได้รับการเลี้ยงดูและฝึกอบรมเป็นอย่างดีจะมีความจงรักภักดีกับเจ้าของอย่างมาก เหมาะกับคนที่มีเวลาให้กับสุนัขเยอะ ๆ และรักการออกกำลังกาย เพราะต้องพาไปออกกำลังทุกวัน
5 บูลเทอร์เรีย (Bull Terrier)
สุนัขพันธุ์บูลเทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มเทอร์เรีย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษราวปี ค.ศ.1835 เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง บูลด็อก (Bulldog) กับ อิงลิชเทอร์เรียสีขาว (English White Terrier ) ได้ออกมาเป็น บลแอนด์เทอร์เรีย แต่เนื่องจากตัวเล็กเกินไป สองสามปีต่อมาจึงมีคนเอา บูลแอนด์เทอร์เรีย ไปผสมกับ สแปนิช พอยน์เตอร์ (Spanish Pointer Blood) ทำให้ได้บูลเทอร์เรียที่ตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งการพัฒนาสายพันธุ์ก็มีมาเรื่อย ๆ กระทั่งในปี ค.ศ. 1850 มีการผสมพันธุ์ให้ขนสั้นลงมีสีขาวล้วน และเพิ่มพละกำลังเพื่อนำมาใช้ในกีฬาต่อสู้ระหว่างสุนัขกับวัว หรือระหว่างสุนัขด้วยกัน จึงได้หน้าตาที่แปลก ๆ จนเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งบูลเทอร์เรียเองก็จัดเป็นสุนัขที่ดุโดยกำเนิด เพราะมีสายเลือดนักสู้ที่ไม่สองลองใคร แต่ทว่ากลับมีความรักครอบครัวและอ่อนโยนต่อผู้เป็นเจ้าของ สามารถเข้ากับเด็กได้ดีด้วย สามารถทนพฤติกรรมของเด็ก ๆ ได้มาก แต่จะไม่ทนหากถูกแหย่และถูกทำให้โกรธอยู่เสมอ ๆ เจ้าของบูลเทอร์เรียร์ ต้องมีความรับผิดชอบสูงหากคิดจะนำมาเลี้ยง
สุนัขพันธุ์ทั้งหลายเหล่านี้ ก็เป็นพันธุ์ที่ประเทศเราประกาศห้ามนำเข้ามาในประเทศนะครับ แต่ก็ไม่ถึงกับห้ามเลี้ยง ซึ่งหากเป็นสุนัขที่เกิดภายในประเทศ ก็สามารถเลี้ยงได้ เพียงแต่ต้องคอยระมัดระวังเป็นพิเศษ และต้องควบคุมให้ดี เพื่อไม่ให้ไปทำอันตรายหรือสร้างความเดือนร้อนให้กับคนอื่นได้ ถึงแม้ว่าพันธุกรรมจะมีผลต่อนิสัยของสุนัข แต่ก็หาใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว ผมเชื่อว่าสุนัขจะดุหรือไม่นั้น ขึ้นกับการเลี้ยงดูของเจ้าของด้วย ถ้าเราเลี้ยงด้วยความรัก ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี และควบคุมให้ได้ตามที่กฎหมายระบุแล้ว ก็จะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากสุนัขได้ครับ
บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/
อ้างอิงบางส่วนจาก :
http://dcontrol.dld.go.th/index.php/pettop5.html
ภาพประกอบจาก :
http://www.dogilike.com/
อ้างอิงบางส่วนจาก :
http://dcontrol.dld.go.th/index.php/pettop5.html
ภาพประกอบจาก :
https://i.ytimg.com/vi/3irU3o5a4Fo/maxresdefault.jpg
http://dogsaholic.com/wp-content/uploads/2018/04/Fila-Brasileiro-walking-near-water-680x456.jpg
https://herepup.com/wp-content/uploads/2016/04/Boxer-vs-Pitbull.jpg
https://cbsnews1.cbsistatic.com/hub/i/r/2017/02/10/c04ac9c0-ebdf-4e3f-be5f-cec11a0d90f9/resize/620x465/c3d15b79f4f24be39aceafb8b4981762/istock-509296994.jpg
http://knowledgebase.lookseek.com/images/animals/dogs/Staffordshire-Bull-Terrier.jpeg
http://upic.me/i/rq/bull-terrier.jpg
SHARES