เชื่อว่าคนรักหมาหลายๆคนน่าจะเคยมีโอกาสได้ดูการประกวดน้องหมากันมาบ้างใช่ไหมคะ นอกจากจะตื่นเต้นกับความสวยงามและความสามารถของน้องหมาในสนามแล้ว ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือคนจูงน้องหมาเหล่านั้นนั่นเองค่ะ เราอาจจะเข้าใจว่าคนใส่สูทสุดเนี้ยบนั้นเป็นเจ้าของน้องหมา … แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ใช่เจ้าของน้องหมาหรอกค่ะ แต่พวกเขาคือผู้ที่ทำอาชีพ “คนจูงสุนัขประกวด” หรือที่เรียกว่า DOG HANDLER นั่นเองค่ะ อาชีพนี้อาจจะเป็นอาชีพที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก แต่ขอบอกเลยนะคะว่าเป็นอาชีพที่น่าสนใจและต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมาก ๆ เลยทีเดียวล่ะค่ะ


          เราได้มีโอากาสพูดคุยกับคุณมายด์ ศุภสิน ขจรประภาสันต์ แฮนด์เลอร์หนุ่มอายุ 21 ปี ที่ได้รับรางวัลการันตีความสามารถมาแล้วทั่วโลก  เริ่มต้นในปี 2009 ปีแรกของการลงแข่งได้ตำแหน่ง Junior Handler และ Best of Breed จากการจูงสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานในการประกวด World Dogs Show  ที่ประเทศสาธารณรัฐสโลวัก  หรือในปี 2013 กับตำแหน่ง Best in Show งาน Geneva Dog Show และในปี  2014 กับรางวัล Handler อันดับที่ 3 จากงาน Crufts Dog Show ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นการประกวดที่เป็นที่รู้จักและยอมรับกันในระดับโลก 

          กว่าคุณมายด์จะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ เรามาลองทำความรู้จักอาชีพแฮนด์เลอร์ไปพร้อมๆกันผ่านมุมมองของคุณมายด์ที่มีความผูกพันกับอาชีพนี้กว่า 10 ปีกันค่ะ

กว่าจะมีวันนี้ … ต้องกล้าที่จะเริ่มต้นทำตามฝัน

          คุณมายด์บอกกับเราว่าจุดเริ่มต้นของเขามาจากการที่มีคุณพ่อเป็นแฮนด์เลอร์ และเขาเองได้ซึมซับและอยากจะเรียนรู้การเป็นแฮนด์เลอร์แบบคุณพ่อ จากวันนั้นก็ได้เริ่มฝึกฝนและเรียนรู้อย่างจริงจัง จากเด็กธรรมดาที่แค่จูงหมาได้กลายเป็นแฮนด์เลอร์ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน


          “ตอนอายุ 6 ขวบ เราเริ่มเรียนรู้ด้วยเบสิค การอ่านหนังสือเกี่ยวกับแฮนด์เลอร์ของอเมริกา การดูคลิปของเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ แล้วฝึนฝนอย่างหนัก เพราะคุณพ่อจะจริงจังมาก เนื่องจากเราอยากจะทำเลยต้องเจอบททดสอบที่ค่อนข้างหนักและทำติดต่อกันทุกวันๆ จนได้รับโอกาสไปแข่งชิงแชมป์โลกในนามตัวแทนประเทศไทย เป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศการแข่งขัน junior handling คือจะมีเฉพาะรุ่นไม่เกิน 18 ปี เป็นการแข่งจูงหรือการแข่งแฮนด์เลอร์กันโดยเฉพาะ และหลังจากนั้นโอกาสเราได้ไปเกือบทุกปีจนอายุ18 ได้คว้าตำแหน่งมากมายในทุกปีที่ได้ไปครับ “ คุณมายด์เล่าให้ฟังถึงที่มาของความสำเร็จในการเป็นแฮนด์เลอร์ของเขา

แฮนด์เลอร์ที่ดี ต้องพร้อมทั้งคนและสุนัข

           การประกวดหมามีอยู่หลายประเภท แบ่งเป็นหลายรอบ ถ้าชนะก็จะเข้าชิงไปเรื่อยๆจนจะมีผู้ชนะสูงสุดแค่หนึ่งคนในงานหนึ่ง ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นแฮนด์เลอร์จะต้องใช้เวลาเตรียมตัว ฝึก และซ้อมในทุกๆวันเช่นเดียวกับนักกีฬาทั่วไป


           แฮนด์เลอร์ จะทำหน้าที่ดึงจุดเด่น ความสามารถ และควบคุมให้กรรมการเห็นว่าน้องหมาแต่ละตัวเหมาะสมจะได้รับตำแหน่ง แม้จะยาก เพราะแฮนด์เลอร์ส่วนใหญ่ไม่ใช่เจ้าของ แต่ด้วยความรักและคลุกคลีกับน้องหมามาเป็นเวลานาน จึงทำให้มีความเข้าใจธรรมชาติและนิสัยของแต่ละสายพันธุ์ เป็นอย่างดี จึงสามารถควบคุมให้สุนัขยอมทำตามคำสั่งได้ ในวันก่อนประกวดจะต้องมีการอาบน้ำ ตัดแต่งทรงขน หมาทุกตัวที่จะลงประกวด ในวันงานก่อนจะเริ่มประกวด จะต้องเซ็ทขนแต่ละตัว ในแต่ละพันธุ์ก็จะแตกต่างกันออกไป

           “การประกวดหมาก็คือการแข่งขัน ความกดดันความเครียดคือสิ่งที่ต้องเจออยู่เสมอ ทุกวินาทีบนสนามมีค่าเป็นคะแนน ต้องมีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำ “ คุณมายด์บอกเราอย่างจริงจัง

อาชีพนี้ต้องรักเท่านั้นถึงทำได้

           “เป็นงานที่จะต้องใช้ใจในการรักหมาก่อน นั่นสำคัญที่สุด แต่ละชีวิตที่อยู่ในมือเรา ถ้าไม่ได้รักเขา จะจูงยังไง มันก็ไม่ดี” คุณมายด์ตอบหลังจากที่เราถามถึงการเปลี่ยนแปลงของอาชีพนี้ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร


           แม้ในปัจจุบันอาชีพแฮนด์เลอร์อาจจะยังไม่ได้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย หรือมีโรงเรียนฝึกสอนอย่างจริงจัง แต่คุณมายด์บอกว่าอาชีพนี้ถือว่าดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ในทางกลับกันถ้าอาชีพนี้เป็นที่รู้จักแล้ว คนที่จะมาเป็นแฮนด์เลอร์อาจไม่ได้ทำด้วยใจรักจริง อาจจะหวังทำเพื่อเงิน หรือเพื่อความสะใจในการแข่งขันเท่านั้น



          หลังจากการพูดคุยกับคุณมายด์ เราสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจกับการเป็นแฮนด์เลอร์จากตัวเขาอย่างมากมายเลยล่ะค่ะ เพราะตัวเขาหลงรักอาชีพนี้ตั้งแต่เด็กๆและทำด้วยใจรักมาตลอด ซึ่งถ้าใครรู้ตัวว่ารักหรือชอบที่จะทำอะไรแล้วก็อย่าลังเลที่จะลงมือทำนะคะ DOGILIKE เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ