นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศจากสถาบันอุตุนิยมวิทยาเดนมาร์ก เผยภาพของน้องหมาลากเลื่อนลุยน้ำที่เกิดจากการละลายอย่างรวดเร็วของน้ำแข็งในกรีนแลนด์จนกลายเป็นทะเลสาบขนาดย่อม ๆ

     เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ผ่าน BBC News ... เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา Steffen Olsen เป็นนักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Danish Meteorological Institute ของเดนมาร์ก อยู่ระหว่างเดินทางไปยังแถบทางเหนือของกรีนแลนด์เพื่อไปเก็บเครื่องมือตรวจสอบสภาพอากาศและมหาสมุทรที่เพื่อนในทีมได้ติดตั้งเอาไว้ ซึ่งในการเดินทางก็ใช้น้องหมาลากเลื่อนอย่างเช่นเคย แต่ครั้งนี้เขาต้องพบกับสิ่้งที่ทำให้เขาต้องตกใจ

     ด้วยความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอันรวดเร็ว เขาพบว่าแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ซึ่งเป็นแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่เคยปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ตอนนี้มันได้กลายเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งไปแล้ว ... หลายคนฟังแล้วอาจจะคิดว่าคำว่าทะเลสาบนั้นดูเกินจริงไปหรือเปล่า

     ภาพของทะเลสาบที่เกิดจากน้ำแข็งที่ละลาย ถูกสะท้อนผ่านภาพของเหล่าน้องหมาลากเลื่อนที่ปกติแล้วจะต้องลากเลื่อนอยู่บนหิมะ แต่ตอนนี้กลับต้องลากเลื่อนลุยน้ำที่มีความลึกประมาณ 4 ฟุต แทน!!

     Steffen ได้ถ่ายวิดีโอระหว่างที่ฝูงน้องหมาของเขากำลังลากเลื่อนผ่านทะเลสาบที่เกิดจากน้ำแข็งที่ละลายและโพสต์ลงไปในทวิตเตอร์ ... หลังจากนั้นไม่นานโพสต์นี้ก็ได้กลายเป็นไวรัลทันที

Set out to recover #climate monitoring stations on #seaice, warm days, Inglefield Fjord #Greenland 13 Jun. Could not push through here, but made it before breakup days later. Back @DMIdk, huge thanks to the team; Ângît, Paulus, Aksel, @BG10BlueAction @ICEARCEU @SalienSeas #H2020 pic.twitter.com/eGvfoTg7gC

— Steffen M. Olsen (@SteffenMalskaer) July 5, 2019

     โดยปกติแล้วช่วงที่น้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม โดยจะมีการละลายของน้ำแข็งจำนวนมากในเดือนกรกฎาคมซึ่งถือเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของกรีนแลนด์ แต่ในปีนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าน้ำแข็งมีการละลายเป็นจำนวนมากและมีการละลายที่เร็วกว่าเดิม เพียงแค่ในวันที่ 13 มิถุนายน ที่ Steffen ถ่ายภาพก็คาดว่ามีการละลายของน้ำแข็งเป็นจำนวน 2 พันตันเลยทีเดียว

     ปรากฎการณ์นี้จะยิ่งเร่งให้เกิดสภาวะโลกร้อนรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะแผ่นน้ำแข็งสีขาวบริเวณขั้วโลกเป็นตัวสะท้อนความร้อนกลับออกไป สู่ชั้นบรรยากาศแต่เมื่อแผ่นน้ำแข็งละลายไปหมดแล้ว ความร้อนที่ส่องเข้ามาก็จะสะสมอยู่ในมหาสมุทร ทำให้น้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้นก็จะกลับมามีผลทำให้น้ำแข็งละลายมากขึ้นไปอีกเป็นวัฏจักรไม่มีที่สิ้นสุดจนกว่าจะเข้าหน้าหนาวอีกครั้งวงจรนี้ถึงจะหยุดลง แต่ก็อย่างที่เราทราบกันดีกว่าปัจจุบันหน้าหนาวก็มีอาการร้อนขึ้นเรื่อย ๆ (ซึ่งก็เกิดจากสภาวะโลกร้อนเช่นกัน) วัฏจักรที่เคยหยุดลงในหน้าหนาวก็อาจจะดำเนินต่อไป ในไม่ช้าน้ำแข็งในบริเวณขั้วโลกก็จะละลายทั้งปีโดยไม่หยุด และในอนาคตบริเวณขั้วโลกอาจจะเปลี่ยนจากแผ่นน้ำแข็งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังส่งผลถึงระดับน้ำทะเลที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย ถ้าหากแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์ละลายลงทั้งหมดก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นถึง 7 เมตร ซึ่งนั่นก็จะมีผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่อาศัยตามแนวชายฝั่งหลายล้านคนก็ต้องประสบปัญหาและอาจต้องย้ายถิ่นฐานเพื่อไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น

     ไม่น่าเชื่อว่าวิดีโอเพียงไม่กี่วินาทีที่ Steffen ได้ถ่ายเอาไว้ ได้สะท้อนให้เราเห็นถึงภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากสภาวะโลกร้อนได้มากถึงขนาดนี้ ... ในอนาคตนอกจากเราอาจจะไม่ได้เห็นภาพของน้องหมาลากเลื่อนแล้ว แผ่นดินชายฝั่งหรือเกาะเล็กเกาะน้อยต่าง ๆ ก็อาจจะหายไปจากแผนที่โลกด้วยเช่นกัน


 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ข้อมูลและภาพประกอบ :
 twitter.com/SteffenMalskaer
www.bbc.com/news/world-europe-48674797