“ก็ผมชอบหม่ำขนมนี่ แล้วที่สำคัญผมแค่อวบ(ระยะสุดท้าย) ไม่ได้อ้วนซะหน่อย!!!” เจ้า HipHop เริ่มประท้วงแล้วล่ะค่ะ

     … แหม ทำเป็นประท้วง ก็จะไม่ให้อ้วนได้ยังไงล่ะคะ ก็ดูของที่เจ้า HipHop ชอบกินสิคะ ไม่ว่าจะเป็น ไก่ทอด ไส้กรอกรมควัน ปาท่องโก๋ หรือแม้กระทั่งพิซซ่า เห็นเหมี่ยวกินทีไร เป็นต้องมากสะกิดๆ แล้วทำหน้าตา “หนูขอกินบ้าง” ทุกที

     น้องหมาที่มีอาการแบบนี้ ยิ่งมาเจอเจ้าของใจอ่อนแล้วด้วยล่ะก็ รับรองเลยว่าน้องหมาคงกลายเป็นน้องหมูไปได้ในระยะเวลาอันใกล้แน่นอน จริงๆ แล้วหมาอ้วนปุ๊กลุกก็ดูน่ารักดีอยู่หรอกนะคะ แต่ว่าบางครั้งถ้าอ้วนมากเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพเหมือนกัน

     สำหรับเรื่องของน้องหมาที่มีน้ำหนักส่วนเกินนั้น ในประเทศอเมริกาถือว่าเป็นเลี้ยงที่ประชาชนผู้เลี้ยงสุนัขต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก กิจกรรมยามว่างระหว่างคุณผู้เลี้ยงกับน้องหมาอย่าง การพาหมาวิ่ง ค่ายฝึก เซสชันฟิตเนส และโปรแกรมอื่นๆ กำลังแพร่หลายทั่วสหรัฐฯ เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยป้องกันและต่อสู้กับโรคอ้วนที่มีสาเหตุเช่นเดียวกับโรคอ้วนของคนคือ การนั่งๆ นอนๆ และกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ (เจ้า HipHop นี่ล่ะค่ะตัวอย่างของหมาที่ นั่งๆ นอนๆ และกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ )

     ในประเทศสหรัฐอเมริกาถือว่าโรคอ้วนหรือการที่น้องหมามีน้ำหนักส่วนเกิน เป็นอาการที่อยู่ในสภาวะระบาดที่เกิดขึ้นมากกับสัตว์เลี้ยง ผลการศึกษาของศูนย์ควบคุมโรคในปี 2006 สรุปว่าสุนัขในอเมริกา 23-41% น้ำหนักเกิน แต่คนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับน้องหมาเชื่อว่าตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านั้น

     และจากสภาวะดังกล่าวนี้เองทำให้ โปรแกรมฟิตเนสและ ‘ค่ายฝึก’ น้องหมาในประเทศสหรัฐฯพยายามต่อสู้กับสถานการณ์นี้โดยการส่งเสริมให้เจ้าของและน้องหมาจับคู่กันออกกำลังกาย … เอ๊ะ แล้วทำไมต้องจับคู่กันออกกำลังกายด้วยล่ะ?

      เจพี ดิลลอน หนึ่งในผู้เลี้ยงน้องหมาเล่าให้ฟังว่าเจ้านีนา พันธุ์บูลด็อก-พิตบูลของเธอ ถือเป็นหนึ่งในหมาที่ขี้เกียจที่สุดในโลก แต่เมื่อเธอมาเจ้านีนามาเข้าคอร์สออกกำลังกายรีดน้ำหนัก การมีหมาตัวอื่นๆ อยู่ด้วยช่วยกระตุ้นนีนาอยากออกกำลังกายมากขึ้น (เจ้า HipHop พยักหน้าเห็นด้วย “หมาก็อยากมีเพื่อนเหมือนกันนะฮับ”)

     นอกจากนี้ จิลล์ โบเวอร์ส ผู้ก่อตั้งแธงค์ ด็อก บูต แคมป์ในแอลเอ บอกว่าสุนัขต้องออกกำลังกายทุกวัน และการออกกำลังกายด้วยกันเป็นผลดีทั้งต่อน้องหมาและเจ้าของ แต่ในความเป็นจริงนั้นมีเจ้าของมากมายที่มีความจำเป็นต้องทิ้งเจ้าตูบไว้ที่บ้านทั้งวัน ทำให้มันไม่ได้ออกกำลังกาย

     และที่แย่กว่านั้นเมื่อกลับบ้านในสภาพเหน็ดเหนื่อยจากงาน เจ้าของมักให้ขนมหมาเพื่อคลายความรู้สึกผิดของตัวเองอีกด้วย … อ้าว แบบนี้ก็ยิ่งอ้วนกันเข้าไปใหญ่เลยสิเนี่ย !!!

     เออร์นี วอร์ด สัตวแพทย์ในนอร์ธแคโรไลนา และเทรนเนอร์ส่วนตัวที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับโรคอ้วนของสุนัข รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมป้องกันโรคอ้วนในสัตว์เลี้ยง บอกว่าปัญหานี้จำเป็นต้องใช้ความพยายามในหลายด้าน คือทั้งออกกำลังกายและควบคุมอาหารเจ้าตูบไปพร้อมๆ กัน

     ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจและเชื่อว่าคุณผู้เลี้ยงทุกคนอาจจะยังไม่รู้กันก็คือ เจ้ากระดูกของเล่นที่ชอบซื้อมาให้น้องหมาแทะกันนั้น ปัจจุบันนี้ผู้ผลิตได้ใส่ไขมันและน้ำตาลลงไปด้วย ซึ่งสำหรับข้อเท็จจริงนี้ถือว่าเป็นปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่ในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่กำลังระบาดในเอเชีย ยุโรป และแคนาดา ซึ่งถ้าพิจารณาถึงการเป็นผู้ผลิตอาหารและขนมสำหรับสุนัขแล้ว ต้องบอกว่าสหรัฐฯ เป็นผู้ส่งออกโรคอ้วนในสุนัขด้วย

     โรคอ้วนที่เกิดขึ้นกับน้องหมานั้น อาจทำให้น้องหมามีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ข้อกระดูกอักเสบ และมะเร็งชนิดต่างๆ … ฟังดูแล้วน่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยนะคะ

     แบบนี้เห็นทีเหมี่ยวคงจะปล่อยให้เจ้า HipHop อร่อยตามใจปากไม่ได้ซะแล้ว ต้องจัดการจับเข้าคอร์สรีดไขมันสูตรเร่งด่วนทันทีเลย “เย็นนี้งดขนมได้ยินมั๊ย HipHop”

     … “โหย หมาเซ็งเลยอ่ะ แง่งงงง”

ข้อมูลอ้างอิง : http://www.afp.com/ 

ภาพประกอบบางส่วน : petsdog-story.blogspot.com , www.bowwowcenter.com