เรื่องของพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ ของน้องหมา เป็นปัญหาใกล้ตัวของเหล่าคนรักคนเลี้ยงน้องหมาที่หลายคนพยายามหาวิธีทางจัดการเท่าไหร่ ก็จัดการกับปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ซักที จนทำเอาคุณผู้เลี้ยงถอดใจ เลิกล้มความตั้งใจในการปรับพฤติกรรมน้องหมา เพราะคิดว่าคงจะยากเย็นเกินจะเยียวยา

     ส่วนใหญ่แล้วปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมของน้องหมาที่พบนั้นจะมีความแตกต่างกันไปตามสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวน้องหมา และวิธีการเลี้ยงของผู้เลี้ยง ทำให้ในการแก้ปัญหาด้านพฤติกรรมน้องหมานั้น นอกจากจะผู้เลี้ยงจะต้องพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของน้องหมาแล้ว ผู้เลี้ยงเองก็ยังต้องปรับพฤติกรรมในการเลี้ยงสุนัขด้วย

     และเพื่อให้เพื่อนๆ ชาว Dogilike ได้เห็นถึงปัญหาด้านพฤติกรรมของน้องหมาชัดขึ้น วันนี้มะเหมี่ยวก็ได้รวบรวมเอา "5 พฤติกรรมน้องหมาที่เป็นปัญหากับผู้เลี้ยงมากที่สุดในปี 2012" มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ
 

1. น้องหมาขับถ่ายไม่เป็นที่

     เริ่มต้นกันที่ปัญหาใหญ่ใกล้ตัวผู้เลี้ยงน้องหมามากที่สุด ... พฤติกรรมการขับถ่ายที่ไม่เป็นที่เป็นทางของน้องหมานั้น สามารถบ่งบอกถึงปัญหาหลายๆ อย่าง ทั้งในด้านการเลี้ยงดู และในด้านสุขภาพของน้องหมา โดยในมุมของการเลี้ยงดูนั้นการที่น้องหมามีพฤติกรรมขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทางนั้นอาจจะมาจากการที่น้องหมาไม่ได้รับการฝึกอย่างถูกวิธี ประกอบกับผู้เลี้ยงไม่หมั่นสังเกตนาฬิกาชีวิตของน้องหมาว่า เขามักจะขับถ่ายเวลาไหน จึงส่งผลให้น้องหมามีปัญหาเรื่องการขับถ่ายที่ไม่เป็นระเบียบ

     หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้องหมาขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทางอยู่ตลอดเวลา คือ น้องหมาต้องการแสดงอาณาเขตของตัวเองโดยใช้การขับถ่ายเป็นการทำเครื่องหมาย แสดงถึงความเป็นเจ้าของที่บริเวณนั้น

     นอกจากนี้ ยังพบว่าในน้องหมาบางตัวมีพฤติกรรมชอบรื้อทำลายบริเวณที่ตนเองขับถ่าย หรือกินอุจจาระหรือปัสสาวะของตัวเอง พฤติกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางด้านจิตใจของน้องหมาว่าน้องหมาอาจจะตกอยู่ในภาวะเครียดจากการถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวบ่อยๆ เป็นเวลานานๆ  ต้องการเรียกร้องความสนใจ ส่วนในมุมของสุขภาพนั้นการที่น้องหมามีพฤติกรรมดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางร่างกาย ระบบย่อยอาหารของน้องหมาอาจจะทำงานผิดปกติ ทำให้ย่อยสารอาหารได้ไม่หมด เมื่อขับถ่ายออกมาน้องหมายังได้กลิ่นของอาหารอยู่เลยกินสิ่งที่ตัวเองขับถ่ายออกมา
 

     ปัญหาเรื่องการขับถ่ายไม่เป็นที่นั้น เป็นปัญหาที่ผู้เลี้ยงเองสามารถป้องกันไม่ได้เกิดขึ้นได้โดยการหมั่นฝึกสุนัขให้ขับถ่ายในที่ที่ผู้เลี้ยงกำหนดเสมอ (ไม่ว่าจะเป็นบริเวณนอกบ้านหรือในบ้านก็ตาม) โดยในช่วงแรกผู้เลี้ยงจะต้องใช้ความอดทนในการสังเกตพฤติกรรมการขับถ่ายของน้องหมาในแต่ละวัน ว่าเขาขับถ่ายตอนไหนบ้าง และทุกๆ วันก็ควรพาน้องหมาไปขับถ่ายในช่วงเวลาเดิมๆ และสถานที่เดิม ถ้าหากทำอย่างสม่ำเสมอ วิธีนี้จะเป็นการตั้งนาฬิกาชีวิตให้น้องหมา ทำให้น้องหมามีพฤติกรรมขับถ่ายอย่างเป็นระบบ

 

2. น้องหมาปากเปราะ เห่าตลอดเวลา

     เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุดฮอตที่พบในหลายๆ ครอบครัว ... ส่วนใหญ่แล้วผู้เลี้ยงที่ประสบปัญหานี้มักจะเป็นผู้เลี้ยงที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กที่มีอุปนิสัยตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะดูว่าไม่ใช่เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ หรือเป็นพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอันตราย แต่การเห่าพร่ำเพรื่อ เห่าตลอดเวลา เห่าไม่ดูตาม้าตาเรือ ของน้องหมานี่เองเป็นฉนวนสำคัญที่จะสร้างความรำคาญให้กับทั้งตัวผู้เลี้ยงเองและเพื่อนบ้านใกล้เคียง

     สิ่งที่สำคัญในการที่จะแก้ไขพฤติกรรมนี้ของน้องหมาก็คือ ผู้เลี้ยงจะต้องหาถึงสาเหตุของการเห่าของน้องหมาให้ได้ เช่น เห่าเมื่อเห็นคนแปลกหน้า , เห่าเพื่อขอของกิน , เห่าเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ ฯลฯ และเมื่อหาสาเหตุเจอแล้ว ผู้เลี้ยงก็จะต้องไม่ส่งเสริมให้น้องหมาทำพฤติกรรมดังกล่าว โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือ เมื่อน้องหมาเริ่มมีพฤติกรรมเห่าพร่ำเพรื่อมากๆ ให้ผู้เลี้ยงใช้วิธีนิ่งเฉย ไม่สนใจต่อการทำพฤติกรรมนั้น วิธีเป็นการดัดนิสัยให้น้องหมาเรียนรู้ว่าพฤติกรรมที่เขาทำไม่มีประโยชน์และไม่ได้ทำให้เจ้าของสนใจเขา

     หรืออีกวิธีก็คือ การดึงความสนใจของน้องหมาออกจากสิ่งเร้าที่ทำให้เขาเห่า เช่น เมื่อน้องหมาเริ่มเห่าคนแปลกหน้าได้ครั้งสองครั้งให้ผู้เลี้ยงดึงความสนใจของน้องหมามาที่ผู้เลี้ยงโดยเคาะประตู (ถ้าอยู่ที่ประตู) หรือเคาะสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เมื่อน้องหมาหยุดเห่าให้พูดคำว่า "พอแล้ว" และเอ่ยชม เช่น “ดีมาก” และให้ตบที่ต้นคอน้องหมาเบาๆ จากนั้นควรให้รางวัลกับเค้า เช่น ขนมหรือของกินที่เค้าชอบ

 

3. น้องหมาวางตัวเหนือเจ้าของ

     เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เลี้ยงที่มักจะใจอ่อน ยอมอ่อนข้อให้น้องหมา ด้วยเหตุผลที่ว่า "กล้วน้องหมาจะไม่รัก" ... การเลี้ยงสุนัขแบบตามใจ ไม่บังคับ ไม่ฝึกให้อยู่ในระเบียบ ตอบสนองความต้องการเมื่อน้องหมาแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว จะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้น้องหมารู้สึกว่าเขามีอำนาจอยู่เหนือผู้เลี้ยง สามารถบังคับให้ผู้เลี้ยงทำให้สิ่งที่ตนเองต้องการได้ และในที่สุดน้องหมาก็จะแต่งตั้งตัวเองให้เป็น "จ่าฝูง" ของบ้านไปโดยปริยาย ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ผู้เลี้ยงก็จะพบว่ามีปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย เพราะผู้เลี้ยงจะไม่สามารถควบคุมได้เมื่อเขามีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์

     ดังนั้นวิธีทึ่ดีทึ่สุดที่จะป้องกันไม่ให้น้องหมายึดอำนาจความเป็นจ่าฝูงภายใจบ้าน และแสดงอำนาจอยู่เหนือเจ้าของ ก็คือ การฝึกให้น้องหมาเรียนรู้ว่าเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ในอันดับต่ำที่สุดของบ้าน ไม่สามารถออกคำสั่งกับผู้เลี้ยงได้ ทำได้เพียงรับคำสั่งและทำตามที่ผู้เลี้ยงต้องการเท่านั้น หรือเรียกง่ายๆ ว่า ผู้เลี้ยงต้องทำตัวเองให้เป็น "จ่าฝูง" นั่นเอง

     การที่ผู้เลี้ยงจะแสดงตนให้เป็นจ่าฝูงได้นั้น ผู้เลี้ยงจะต้องรู้จักใช้หลักจิตวิทยากับน้องหมาของตนเอง เช่น ในแง่จิตวิทยาของการอยู่รวมกันเป็นฝูงของน้องหมา น้องหมาตัวที่เป็นจ่าฝูงจะได้กินอาหารก่อนตัวอื่นๆ เมื่อเข้าใจหลักจิตวิทยาในส่วนนี้แล้ว ผู้เลี้ยงก็สามารถนำมาปรับใช้กับน้องหมาของตัวเองได้โดยการที่ก่อนจะให้อาหารน้องหมา ผู้เลี้ยงและสมาชิกในบ้านจะต้องกินอาหารให้เรียบร้อยก่อน หรืออย่างน้อย ก็ควรจะกินของว่าง หรือขนม ให้น้องหมาเห็นก่อนว่า จ่าฝูงกินแล้ว ต่อไปลูกฝูงถึงจะได้กิน เป็นต้น

 

4. น้องหมาเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ

     ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม ร้องครางตลอดเวลา , ทำลายข้าวของเมื่อผู้เลี้ยงไม่อยู่บ้าน , อาเจียน หรือขับถ่าย เลอะเทอะ ฯลฯ  ตามหลักจิตวิทยาสุนัขแล้ว พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น ต้องการให้เจ้าของเล่นด้วย , อิจฉาสุนัขตัวใหม่ , ต้องการบอกให้รู้ว่ากำลังเบื่อ ฯ ...

     การแก้ไขพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจของน้องหมานั้น วิธีที่ดีทึ่สุดก็คือ  "ต้องไม่ใส่ใจการเรียกร้องใดๆ ของน้องหมา" วางเฉย นิ่ง ไม่ให้ความสนใจเมื่อน้องหมาแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในช่วงเริ่มต้นถ้าหากเราใช้วิธีการไม่สนใจ น้องหมาอาจจะยิ่งมีอาการเรียกร้องความสนใจมากขึ้น แต่อาการนั้นก็จะเป็นอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วอาการเรียกร้องความสนใจจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

     แต่ในทางกลับกันถ้าน้องหมาเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีต่างๆ แล้วผู้เลี้ยงให้ความสนใจต่อสิ่งที่สุนัขเรียกร้องมากเกินขอบเขต พฤติกรรมบางอย่างที่น่ารำคาญจะมีมามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกระบวนการเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของอย่างต่อเนื่องของน้องหมานั้นก็สอดคล้องกับทฤษฎี Positive Reinforcemen หรือ ทฤษฎีการเสริมแรงบวก  ซึ่งมีหลักการคือ การใช้สิ่งเร้า (การเห่า รื้อ กัดแทะสิ่งของ ฯ) เสริมแรงผลักดันให้อีกฝ่ายมีพฤติกรรมตอบกลับที่ทำให้ตนเองพอใจ (เห่าดัง ดังขึ้น ดังมากๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าของดุหรือพูดด้วย)

 

5. น้องหมากินเก่ง / กินยาก เกินไป

     อีกหนึ่งปัญหาสุดฮอตที่สร้างความปวดหัวให้กับผู้เลี้ยง เนื่องจากอาหารนั้นเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของน้องหมา ดังนั้นการที่น้องหมากินยาก หรือกินง่ายเกินไปนั้น ย่อมไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพของน้องหมาทั้งนั้น ... เพราะการที่ร่างกายน้องหมาได้รับอาหารมากหรือน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายขาดความสมดุล ได้รับสารอาหารในปริมาณที่ไม่เหมาะสม และอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ค่ะ

     ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะป้องกันปัญหาน้องหมากินอาหารยากหรือง่ายเกินไปนั้นก็คือ การฝึกให้น้องหมามีพฤติกรรมการกินที่เป็นระบบระเบียบ โดยอาจเริ่มจากการที่ผู้เลี้ยงเลือกอาหารที่เหมาะสม มีสารอาหารที่เพียงพอและเป็นประโยชน์ให้กับน้องหมาของตัวเอง โดยผู้เลี้ยงอาจจฝึกให้น้องหมากินอาหารเม็ดตั้งแต่ยังเล็กๆ การให้อาหารเม็ดกับลูกสุนัขที่ยังไม่หย่านม เราควรนำอาหารเม็ดแช่ในนมให้นิ่ม จากนั้นให้ค่อยๆ ลดปริมาณนมลงไปเรื่อยๆ ทีละนิด จนกลายเป็นอาหารเม็ดเพียวๆ และสุนัขก็จะเลิกนมได้อย่างถาวรค่ะ

     ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อควรให้ในปริมาณน้อยๆ ก่อน เพราะถ้าเยอะเกินไปน้องหมาจะกินอาหารไม่ครบมื้อ ซึ่งถ้าให้อาหาร 3 มื้อต่อวัน ผู้เลี้ยงควรจะต้องมีเวลาอยู่ดูเขากินอาหารด้วย ไม่ควรเทอาหารทิ้งไว้ ... การที่ไม่แนะนำให้เทอาหารทิ้งไว้ก็เพราะว่า  ถ้าอยากฝึกน้องหมาให้กินง่ายและกินตรงเวลาครบทุกมื้อ เราไม่ควรเทอาหารทิ้งไว้โดยเด็ดขาด เพราะถ้าเราเทอาหารทิ้งไว้ให้เขากิน น้องหมาก็จะกินตลอดทั้งวันแบบไม่รู้เวลา ไม่รู้ว่าถึงมื้ออาหารหรือยัง ทำให้เขาไม่รู้จักระเบียบในการกินอาหาร

     นอกจากนี้แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงควรคำนึงถึงก็คือ เรื่องของปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ ผู้เลี้ยงต้องให้อาหารแก่น้องหมาในปริมาณที่เหมาะสม โดยวิธีเช็คปริมาณอาหารที่เหมาะสม ให้เราเริ่มจากให้อาหารน้องหมาในปริมาณน้อยก่อน ถ้าน้องหมากินหมดก็ไม่ต้องเติมให้ใหม่ แต่ให้เราเติมให้เขาในมื้อต่อไป จากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มที่ละนิด จนเราทราบปริมาณที่น้องหมาของเรากินได้อิ่มในปริมาณที่พอดี (ปริมาณอาหารที่เหมาะสมคือ ปริมาณอาหารที่น้องหมาสามารถกินหมดได้ภายใน 10 นาที) ถ้าน้องหมากินอาหารไม่หมด ให้เรายกออกทันที อย่าวางอาหารทิ้งไว้เพราะทำให้น้องหมาเคยตัว ในมื้อต่อไปก็ให้ลดปริมาณอาหารลงด้วย น้องหมาจะได้ไม่กินอาหารเหลืออีก

     และนี่ก็คือ 5 พฤติกรรมน้องหมาที่เป็นปัญหากับผู้เลี้ยงมากที่สุดในปีนะคะ ... จากปัญหาทั้งหมดที่มะเหมี่ยวไล่เรียงมาให้เพื่อนๆ ฟัง เมื่อดูถึงสาเหตุที่มาที่ไปของปัญหาพฤติกรรมแล้วจะพบว่าผู้เลี้ยงเองก็มีส่วนสำคัญที่จะเป็นสาเหตุให้น้องหมามีพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ หรือในทางกลับกันก็เป็นผู้ที่จะป้องกันไม่ให้น้องหมามีพฤติกรรมเหล่านั้นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความใส่ใจในการฝึกให้น้องหมาอยู่ในกฏระเบียบที่เจ้าของวางไว้ให้หรือไม่ เพราะถ้าหากเจ้าของเลี้ยงน้องหมาโดยไม่มีการวางแผนในการเลี้ยง ไม่มีการฝึกน้องหมาให้เชื่อฟังและอยู่ภายใต้คำสั่งแล้ว เชื่อได้เลยค่ะว่าร้อยทั้งร้อย ยังไงซะ น้องหมาก็ต้องมีปัญหาด้านพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน

     ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาด้านพฤติกรรมของน้องหมา การฝึกให้เขาอยู่ภายใต้คำสั่ง และทำตามกฏระเบียบที่เจ้าของวางไว้ให้ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้คุณผู้เลี้ยงไม่ต้องมาปวดหัวกับพฤติกรรมป่วนๆ ของน้องหมาในภายหลังค่ะ




 

บทความโดย : Dogilike.com

ภาพประกอบ :
http://trainingdog.tumblr.com/post/27942171826/dog-training-for-practicing-proper-dog-behavior
http://www.goodhousekeeping.com/family/pet-advice/dog-behavior-urinating
http://xxiamkristinxx.wordpress.com/2009/11/09/dogs-or-puppies-eating-poop/
http://www.foster-tails.com/2012/08/you-are-reason-your-dog-barks.html
http://www.dogobediencetrainingusa.com/category/dog-obedience-tips/
http://dogercise.blogspot.com/
http://weheartit.com/chavezceline
http://dogs.lovetoknow.com/blogs/dog-behavior