โดย: พริกขี้หนู
เมื่อน้องหมาตกที่นั่งลำบาก พ่อแม่เลิกกัน ต้องทำอย่างไร
ในวันที่ครอบครัวไม่เหมือนเดิม จะส่งผลต่อความรู้สึกน้องหมาอย่างไรบ้าง
25 กุมภาพันธ์ 2559 · · อ่าน (10,876)
เวลาเรามีความรัก เราก็อยากจะมีตัวแทนความรักระหว่างกัน ซึ่งน้องหมาก็มักเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ฮอตฮิตมากที่สุด! เพราะช่วยให้คู่รักได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน ได้แบ่งปันความรักให้แก่น้องหมา ได้เรียนรู้กันและกันผ่านการเลี้ยงดู ทำให้ชีวิตรักผูกพันแน่นแฟ้นมากขึ้น
แต่ทุกความสัมพันธ์ล้วนเปลี่ยนแปลง เมื่อรักไม่เหมือนเดิม ต้องแยกจาก แล้วน้องหมาล่ะ จะอยู่กับใคร...เพราะแค่เห็นหน้าน้องหมา ก็นึกถึงรักครั้งเก่าให้ต้องเจ็บปวด บางคนถึงกับตัดสินใจทิ้ง บางคนแย่งน้องหมามาเพื่อเป็นของตัว แต่มีใครจะเข้าใจความรู้สึกน้องหมาบ้างว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร.....ถึงเวลาแล้วนะคะที่เราจะมาทำความเข้าใจแล้วมองว่าน้องหมาก็มีชีวิต มีหัวใจเช่นกัน
น้องหมาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อพ่อแม่แยกกัน
โดยธรรมชาติของน้องหมาแล้ว พวกเขาไม่รู้ ไม่เข้าใจหรอกว่า พ่อแม่แยกทางกัน พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงไม่อยู่ด้วยกัน แต่สิ่งที่พวกเขารับรู้ได้ก็คือ พลังงานของเจ้าของทั้งสองคนข้างขุ่นมัว อึดอัด เศร้าซึม หรือไม่ก็เกรี้ยวกราด จนน้องหมารู้สึกไม่ผ่อนคลาย ไม่สงบ อยู่มาสักพักก็เจอหน้าใครคนใดคนหนึ่งน้อยลง หรือไม่เจอเลย เกิดเป็นความคิดถึงรอว่าเมื่อไหร่จะกลับมา
ถ้าโชคร้ายอาจถูกเจ้าของที่อยู่ด้วยเฉยเมยใส่น้องหมา ตวาด ทุบตีอย่างไร้เหตุผล เหตุจากความโกรธ เกลียดชังคนรักเก่า และอาจจบลงที่การทอดทิ้งน้องหมา ปล่อยให้อดตายไปอย่างไร้อดีตว่าครั้งหนึ่ง เราเลือกให้น้องหมาเข้ามาในชีวิต
ถ้าโชคร้ายอาจถูกเจ้าของที่อยู่ด้วยเฉยเมยใส่น้องหมา ตวาด ทุบตีอย่างไร้เหตุผล เหตุจากความโกรธ เกลียดชังคนรักเก่า และอาจจบลงที่การทอดทิ้งน้องหมา ปล่อยให้อดตายไปอย่างไร้อดีตว่าครั้งหนึ่ง เราเลือกให้น้องหมาเข้ามาในชีวิต
ซึ่งทั้งหมด ไม่ใช่ความผิดของน้องหมาเลย แต่พวกเขาต้องทนรองรับปัญหาและอารมณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ น้องหมาต้องอยู่ร่วมกับเจ้าของที่ไม่มีความสุข ไม่มีความมั่นคงในจิตใจ โศกเศร้า และรอคอยเจ้าของอีกคนกลับมาอย่างไม่มีจุดหมาย บางตัวอาจต้องเปลี่ยนที่อยู่ กิจกรรมเดิม ๆ เปลี่ยนแปลง หดหาย ออกกำลังกายหรือเที่ยวเล่นน้อยลง ไม่เหมือนเดิม ส่งผลให้สภาพจิตใจของพวกเขาไม่มีความมั่นคง ไม่มีความสุข ต้องจมอยู่กับความเศร้า ความแตกร้าวของจ่าฝูงที่อ่อนแอ
จัดการอย่างไรเพื่อให้น้องหมาไม่เป็นผู้ถูกทอดทิ้ง
หากเรานึกถึงใจน้องหมามากกว่าใจเรา เราอาจจะช่วยให้ทั้งตัวเราและน้องหมาก้าวผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายได้รวดเร็ว เพราะเราต้องเข้มแข็ง สร้างพลังงานที่ดี พาไปทำกิจกรรมหรือ กิจวัตรตามปกติ และที่สำคัญต้องไม่ทำร้ายน้องหมาเพียงเพราะเขาเคยเป็นอดีตหนึ่งของคนที่เรารัก แต่ให้มองว่าพวกเขาเคยสิ่งมีชีวิตที่โศกเศร้าได้เมื่อรับรู้ถึงความแตกแยกของ “ฝูง” และของ “ครอบครัว” เช่นเดียวกับเด็ก ๆ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงไม่ควรยื้อที่จะเลี้ยงหรือทิ้งน้องหมาเพื่อเอาชนะ หรือเพื่อความสะใจนะคะ
โดยในต่างประเทศได้มีวิธีการจัดการเมื่อคู่รักต้องเลิกกันแล้วมีน้องหมาอยู่ในครอบครัว ลักษณะเดียวกับพ่อแม่ที่แยกกันแล้วมีลูก ๆ ค่ะ ซึ่งจะมีการจัดการแตกต่างกันไปดังนี้
1. จัดสรรแบ่งเวลาให้น้องหมาได้อยู่กับทั้งพ่อและแม่ ในกรณีทั้ง 2 ฝ่ายต่างต้องการเลี้ยงหรือไม่ต้องการเลี้ยงน้องหมา ความรับผิดชอบต่ออีกหนึ่งชีวิตสำคัญมากกว่าการเอาชนะกันนะคะ แนะนำให้ทั้ง 2 ฝ่ายคุยตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้รับเลี้ยงดูน้องหมา ใครมีความพร้อมมากกว่ากัน ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ให้ใช้วิธีสลับกันดูแลคนละสามถึง 4 วันต่อสัปดาห์ หรือฝ่ายหนึ่งเลี้ยงแต่ให้อีกคนมาเยี่ยมน้องหมา พาไปเที่ยวเล่นได้ เป็นต้น แต่ถ้าอีกฝ่ายยอมสละจะตัดขาดเลยก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ฝ่ายรับเลี้ยงจะต้องดูแลเป็นอย่างดี ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยนะคะ
2. ผู้ที่สามารถจัดการค่าใช้จ่ายน้องหมาได้เป็นฝ่ายดูแล ถึงเราจะรักน้องหมาขนาดไหน ถ้าไม่มีรายได้คอยดูแลให้น้องหมามีข้าวกินทุกมื้อ พาไปอาบน้ำตัดขน พาไปฉีดวัคซีน รักษายามป่วยไข้ก็ยากที่จะอาสาเป็นฝ่ายรับเลี้ยงน้องหมานะคะ เพราะในฐานะผู้เลี้ยงน้องหมา ความสามารถรับผิดชอบต่ออีกชีวิตหนึ่งจำเป็นไม่น้อยไปกว่าความรัก ความผูกพันค่ะ
3. ให้น้องหมาอยู่กับคนที่มีรสนิยม รูปแบบชีวิตเหมาะกับการเลี้ยงน้องหมา ถึงจะเป็นคู่รักกันแต่ก็ไม่ได้หมายถึงไลฟ์สไตล์เหมือนกันเป๊ะ ๆ ทั้งคู่ เช่น ตอนคบกันก็อยู่บ้าน พอแยกกันอีกคนอาจต้องย้ายไปอยู่คอนโด อพาร์ตเม้นท์ ก็ไม่สามารถเลี้ยงดูน้องหมาได้สะดวก หรือถ้าบางฝ่ายอาจเป็นคนชอบคนชอบอยู่นิ่ง ๆ ไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่ชอบฝึกน้องหมา รูปแบบชีวิตไร้ระเบียบวินัย ทำงานดึกหรือกลับถึงเช้า ก็ไม่ควรเลี้ยงน้องหมานะคะ เพราะน้องหมามีนาฬิกาชีวตที่เป๊ะมาก ต้องการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวสม่ำเสมอ หากปล่อยให้ต้องอยู่ลำพังก็จะเกิดความวิตกกังวล เฝ้ารอเจ้าของ มีปัญหาพฤติกรรมตามมาได้ค่ะ
4. ไม่เลี้ยงต้องช่วยกันเรื่องค่าใช้จ่าย อันนี้เป็นวิธีที่เป็นไปได้ยากมากในสังคมไทย แต่ในต่างประเทศมีการทำเป็นกฏหมายเลยค่ะ โดยเฉพาะคู่รักที่แต่งงานกันแล้วหย่ากัน น้องหมาจะเป็นเสมือนสินสมรสที่ต้องได้รับการจัดแบ่ง และได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายที่ไม่ได้รับเลี้ยงน้องหมาก็ใช่ว่าจะสบาย ๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรนะคะ แต่จะต้องแสดงความรักผิดชอบร่วมกันโดยการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเป็นประจำทุกเดือน ถ้าอีกฝ่ายเกิดต้องไปทำธุระไม่ว่างเลี้ยง ก็จะต้องรับดูแล เรียกได้ว่าเมื่อคิดจะเลี้ยงพวกเขาตั้งแต่แรกแล้วก็จะต้องรับผิดชอบร่วมกันไปตลอดชีวิตของน้องหมาค่ะ
5. ถ้าต่างฝ่ายต้องการน้องหมาแต่จะแยกกันโดยเด็ดขาดต้องดูกันที่กฏหมาย เช่น ดูว่าใครเป็นคนซื้อ ตอนซื้อมาถ้ามีการเซ็นใบรับรอง หรือมีใบชำระเงิน ใบเสนอซื้อให้แก่ทางฟาร์มเป็นชื่อของใคร แต่ถ้าในกรณีที่ซื้อมาเพื่อเป็นของอภินันทนาการก็จะเป็นของอีกฝ่ายหรือไม่ ถ้าฝ่ายหนึ่งซื้อแต่อีกฝ่ายหนึ่งดูแลก็จะเป็นสิทธิ์ของใคร อันนี้ถ้าตกลงกันไม่ได้อาจต้องเป็นเรื่องของกฏหมายแล้วล่ะค่ะ
“ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน” โบราณเขาว่าอย่างนั้น แต่พอเลิกรักกันนี่คนละเรื่องกันเลย ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ควรพาน้องหมามาร่วมปัญหาด้วย แต่ให้หาทางออกร่วมกันว่าจะจัดการอย่างไรให้น้องหมาของเราได้รับการเลี้ยงดูไม่ต่างจากที่เมืออยู่พร้อมหน้าพ่อกับแม่ที่เคยรักกัน
และที่สำคัญนะคะ น้องหมาไม่ใช่สิ่งของที่จะซื้อให้กันเป็นของขวัญวันสำคัญ หรือให้เป็นตัวแทนระหว่างกัน เพราะพวกเขามีชีวิต จิตใจ มีความผูกพันต่อเจ้าของ ไม่ใช่เป็น “ตัวแทนความรัก” ของใคร...ถ้าคิดจะเลี้ยงพวกเขา ควรเลี้ยงเพื่อเราพร้อมที่จะรับผิดชอบเพื่อให้พวกเขามีความสุข มีชีวิตที่ดีนะคะ
และที่สำคัญนะคะ น้องหมาไม่ใช่สิ่งของที่จะซื้อให้กันเป็นของขวัญวันสำคัญ หรือให้เป็นตัวแทนระหว่างกัน เพราะพวกเขามีชีวิต จิตใจ มีความผูกพันต่อเจ้าของ ไม่ใช่เป็น “ตัวแทนความรัก” ของใคร...ถ้าคิดจะเลี้ยงพวกเขา ควรเลี้ยงเพื่อเราพร้อมที่จะรับผิดชอบเพื่อให้พวกเขามีความสุข มีชีวิตที่ดีนะคะ
บทความโดย : Dogilike.com
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.cesarsway.com/dog-care/legal-issues/who-gets-the-dog-after-a-break-up
http://barkpost.com/dogs-and-breakups/
http://www.xojane.com/relationships/losing-your-pet-after-a-breakup
http://magazine.foxnews.com/love/7-worst-things-you-can-do-after-breakup
ภาพประกอบ :
http://barkpost.com/dogs-and-breakups/
http://www.thedailybeast.com/articles/2014/06/20/divorce-is-going-to-the-dogs-literally.html
http://www.dogingtonpost.com/who-keeps-the-dog-in-divorce/
http://www.itv.com/news/2014-01-10/more-and-more-dogs-are-caught-in-the-crossfire-of-their-owners-divorce/
- ส่งต่อให้เพื่อน:
- Categories : การฝึก การสื่อสาร ·
SHARES