เข้าใจปัญหาพฤติกรรมของ 3 สายพันธุ์น้องหมาสุดแสบ

3 สายพันธุ์น้องหมาสุดแสบที่ใครเลี้ยงก็ต้องเจอปัญหาพฤติกรรม แต่ไม่ต้องห่วงปัญหาแค่นี้ถ้ารู้วิธีแก้ไขก็เอาอยู่!!

7 ตุลาคม 2559 · ชอบ  (0) · แสดงความคิดเห็น (1) · อ่าน (15,095)
1,359

SHARES


1,359 shares

Dogilike.com :: เข้าใจปัญหาพฤติกรรมของ 3 สายพันธุ์น้องหมาสุดแสบ


     น้องหมาแต่ละสายพันธุ์มีความน่ารักในรูปแบบที่แตกต่างกันไป น้องหมาบางตัวดูน่ารักกอด บางตัวหน้าตาดูตลกเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ บางตัวดูหน้าแปลก ๆ แต่ดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน (ฮาาาาา)  ... แต่ความน่ารักตามแบบฉบับของน้องหมาแต่ละสายพันธุ์นั้นก็มักจะมาพร้อมกับพฤติกรรมแสบ ๆ  หลายอย่างที่ทำให้เจ้าของอย่างเราต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว เช่น ขุดดิน พังสวน , เห่าหอนเสียงดัง , ไม่เชื่อฟังคำสั่ง , กัดแทะข้าวของ ฯลฯ

     แต่ถึงแม้น้องหมาจะมีพฤติกรรมซุกซนแสบซ่าแค่ไหน แต่ก็อย่าเพิ่งไปตัดสินพวกเขาว่าเป็นน้องหมาที่นิสัยไม่ดีนะคะ เพราะบางครั้งพฤติกรรมแสบ ๆ ของพวกเขาก็เป็นพฤติกรรมที่ติดตัวมาตามสายพันธุ์ เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณตามธรรมชาติ ที่ผู้เลี้ยงอย่างเราต้องทำความเข้าใจ และรู้จักวิธีการปรับแก้พฤติกรรมแสบ ๆ ของน้องหมาอย่างถูกต้องค่ะ ...

     เอ๊ะ ว่าจะแต่จะมีน้องหมาสายพันธุ์ไหนบ้างนะที่เข้าข่ายมีพฤติกรรมสุดแสบ แล้วเจ้าของอย่างเราจะมีวิธีรับมือยังไงบ้าง วันนี้ Dogilike มีคำตอบมาให้ทุกคนค่ะ

 

1. บีเกิ้ล ... กับพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็น จนถึงขั้นพังบ้าน!!

 

Dogilike.com :: เข้าใจปัญหาพฤติกรรมของ 3 สายพันธุ์น้องหมาสุดแสบ
 

     สำหรับคนรักคนเลี้ยงน้องหมาคงจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ความแสบซนของเจ้าบีเกิ้ลเป็นอย่างดี พวกเขาเป็นน้องหมาที่ฉลาด อยากรู้อยากเห็น ชอบสำรวจ และรักอิสระ บางทีรักอิสระจนถึงขั้นไม่ฟังคำสั่งเจ้าของเลยทีเดียว!! ... บ้านไหนที่เลี้ยงน้องหมาบีเกิ้ลรับรองเลยค่ะว่าคุณจะมีคนช่วยทำสวนแน่นอน พวกเขาจะช่วยขุดช่วยคุ้ยดึงเอาต้นไม้ออกจากระถาง และถ้าวันไหนไม่ได้ออกไปเล่นนอกบ้าน และคุณปล่อยให้เขาอยู่บ้านตัวเดียวขอให้คุณเตรียมตัวรับมือกับสภาพบ้านได้เลยค่ะ เพราะเจ้าบีเกิ้ลจะช่วยกันรื้อ ช่วยกันแทะ ข้าวของในบ้าน ตั้งแต่ข้าวของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนกระทั่งเฟอร์นิเจอร์ ...

     พฤติกรรมเหล่านี้ของเจ้าบีเกิ้ลทำให้ผู้เลี้ยงหลายคนถึงกับต้องยอมใจ ซึ่งสาเหตุของพฤติกรรมสุดแสบของเจ้าบีเกิ้ลนี้ ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมตามธรรมชาติของสายพันธุ์ โดยน้องหมาบีเกิ้ลเป็นน้องหมาในกลุ่ม Hound เป็นน้องหมาในกลุ่มที่ใช้ไล่ล่าสัตว์ค้นหาตำแหน่ง  ดังนั้นพวกเขาจึงมีพลังงานสูง ความคล่องแคล่วปราดเปรียว มีความอยากรู้อยากเห็นและไวต่อสิ่งเร้าอยู่ในสายเลือด เป็นนิสัยที่ติดตัวมาและสืบทอดกันมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่สมัยก่อนที่บีเกิ้ลยังเป็นน้องหมาสำหรับใช้งาน มาจนถึงปัจจุบันที่น้องหมาบีเกิ้ลกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่าไม่ว่าเลี้ยงบีเกิ้ลตัวไหนก็จะต้องเจอพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งถ้าหากผู้เลี้ยงไม่อยากให้เกิดปัญหาน่าปวดหัวในระยะยาวก็ควรที่จะต้องรู้จักวิธีควบคุมพฤติกรรมของเจ้าบีเกิ้ลค่ะ

     วิธีการแก้ปัญหาพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็นและซุกซนของบีเกิ้ล สามารถควบคุมได้ด้วยการฝึกตั้งแต่ยังเล็กค่ะ โดยสิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องรู้คือ น้องหมาสายพันธุ์นี้สามารถวิ่งหนีจากคุณได้ตลอดเวลา ดังนั้นในการฝึกโดยเฉพาะการฝึกนอกสถานที่ ควรให้น้องหมาใส่สายจูงทุกครั้งเพื่อที่จะควบคุมให้อยู่ภายใต้คำสั่งได้ง่าย และป้องกันอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงด้วยค่ะ

     อย่างที่บอกไปแล้วว่าน้องหมาบีเกิ้ลเป็นน้องหมาพลังงานสูง ดังนั้นการพาบีเกิ้ลไปออกกำลังกายเพื่อปลดปล่อยพลังงานจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการที่จะควบคุมบีเกิ้ลให้ทำตามคำสั่งได้ง่ายขึ้น และการเดินเล่นนอกจากจะทำให้น้องหมาได้ออกกำลังกายแล้วยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะฝึกให้เขาเดินอยู่ในสายจูงภายใต้คำสั่งเจ้าของ ฝึกให้น้องหมารู้จักการเข้าสังคม และสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ให้เขาได้สำรวจสิ่งต่าง ๆ บ้าง โดยควรพาน้องหมาบีเกิ้ลไปออกกำลังกายอย่างน้องวันละ 2 ครั้ง เช้ากับเย็น ... ส่วนเรื่องของการฝึกวินัยและคำสั่งพื้นฐานก็เป็นสิ่งจำต่อน้องหมาบีเกิ้ลเช่นกันค่ะ ถึงแม้น้องหมาสายพันธุ์นี้จะขึ้นชื่อเรื่องฝึกยาก แต่ผู้เลี้ยงก็สามารถจัดการได้เพียงแค่ต้องหาสิ่งที่ดึงดูดใจ เช่น ขนม หรือของเล่น มาใช้ร่วมในการฝึกแค่นั้นเองค่ะ

     ส่วนปัญหาเรื่องการรื้อหรือกัดของในบ้านนั้น การกำจัดพื้นที่ให้กับเจ้าบีเกิ้ล และการจัดเก็บของใช้ทุกอย่างให้เป็นระเบียบก็สามารถช่วยลดปัญหาได้ค่ะ โดยการจำกัดพื้นที่ให้เจ้าบีเกิ้ลนั้นไม่ได้หมายถึงการให้เขาอยู่แต่ในกรงอย่างเดียว แต่อาจทำได้ด้วยการจัดโซน หรือกั้นคอก ให้อยู่เฉพาะที่ และเวลาออกจากบ้าน ก็ไม่ควรแสดงอาหาร หรือส่งเสียงให้เขารู้ว่าเราจะออกจากบ้านและเขาต้องอยู่เพียงลำพัง เพราะจะยิ่งทำให้รู้สึกเครียดมและวิตกกังวลค่ะ



2. แจ็ครัซเซลล์ เทอร์เรีย ... กับพฤติกรรมนักล่าสุดไฮเปอร์ บ้าพลัง
 

 

Dogilike.com :: เข้าใจปัญหาพฤติกรรมของ 3 สายพันธุ์น้องหมาสุดแสบ
 

     หากจะหาคำจำกัดความให้น้องหมาแจ็ครัสเซลล์ เทอร์เรียล่ะก็ ... "เล็กพริกขี้หนู" คงเป็นคำที่อธิบายความเป็นแจ็ครัซเซลล์ได้ดีที่สุด เพราะหากดูรูปลักษณ์ภายนอกของแจ็ครัสเซลล์แล้ว พวกเขาดูเป็นน้องหมาตัวเล็ก ๆ ขาสั้น ๆ ไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ใครจะรู้คะว่าใต้ความตัวเล็กขาสั้นของเจ้าแจ็คจะเต็มไปด้วยพลังอย่างที่คาดไม่ถึง เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้ แจ็ครัสเซลล์มีพลังในการทำลายล้างสูงสุดไม่ว่าจะเป็น ขุดดิน กัดแทะสิ่งของ ไล่จับสัตว์ตัวเล็ก ๆ กิจกรรมแอดเวนเจอร์แค่ไหนแจ็คไม่เคยหวั่นยิ่งลุยยิ่งชอบ ยิ่งถ้าเลี้ยงเป็นคู่หรือเป็นฝูง บอกเลยค่ะว่าไม่ต่างอะไรกับการเลี้ยงไดโนเสาร์แรพเตอร์เลยทีเดียว พละกำลังของแจ็คเยอะแค่ไหน ลองสังเกตเวลาคนจูงแจ็ครัสเซลล์ออกนอกสถานที่ น้องหมาตัวเล็กนิดเดียวแต่สายจูงเส้นใหญ่มาก นั่นก็เป็นเพราะว่าพลังงานร้อยแรงม้าของเจ้าแจ็คนั่นเองค่ะ

     โดยธรรมชาติของสายพันธุ์แล้วแจ็ครัสเซลล์เป็นน้องหมาที่ถูกเพาะพันธุ์มาให้เป็นนักล่า นักฆ่าสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่คอยทำลายไร่นาของชาวสวน เช่น หนู กระต่าย เป็นต้น ด้วยความเป็นนักล่าทำให้แจ็ครัสเซลล์เป็นน้องหมาที่ว่องไว กล้าหาญ ตื่นตัว มีพลังงานสูง สามารถตามล่าเหยื่อได้แม้กระทั่งเหยื่อที่มีรังอยู่ใต้ดิน แจ็ครัสเซลล์จึงเป็นน้องหมาที่ขุดดินเก่งมาก และร่างกายของเขายังยืดหยุ่นได้ดีสามารถกลับตัวในโพรงใต้ดินได้ และด้วยสัญชาตญาณตามธรรมชาติของแจ็ครัสเซลล์นี่เอง ทำให้พวกเขาติดนิสัยชอบการขุดคุ้ยมาจนถึงปัจจุบันนี้ และด้วยความเป็นนักล่าทำให้น้องหมาแจ็ครัสเซลล์มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้

     วิธีการแก้ปัญหาพฤติกรรมไฮเปอร์ บ้าพลัง และลดความเป็นนักล่าในตัวน้องหมาแจ็ครัสเซลล์ ทำได้ด้วยการให้เขาระบายพลังงานออกให้หมด โดยการออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การพาออกวิ่งทุกเช้าเย็น , ว่ายน้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง , เล่นกิจกรรมปาบอลเก็บบอล , เล่นซ่อนแอบ หรือฝึกให้ทำตามคำสั่งและมีของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เมื่อทำตามคำสั่งได้ วิธีการเหล่านี้จะทำให้น้องหมาแจ็ครัสเซลล์ได้ปลอดปล่อยพลังงานที่มากมายออกไป ทำให้ร่างกายสมดุล ซึ่งเป็นผลดีคือทำให้พวกเขามีสุขภาพจิตที่ดี และง่ายต่อการที่ผู้เลี้ยงจะควบคุม

     สิ่งที่ผู้เลี้ยงจะละเลยไม่ได้เลยก็คือ การฝึกให้น้องหมาแจ็คอยู่ภายใต้คำสั่งตลอดเวลา เพราะพวกเขาเป็นน้องหมาตื่นตัวง่าย และสมาธิสั้น ทำให้ถ้ามีสิ่งเร้าก็จะตื่นตัวและอาจเตลิดได้ทุกเมื่อ ดังนั้นผู้เลี้ยงจะต้องฝึกให้น้องหมารู้จักคำสั่งที่จำเป็น เช่น นั่ง ชิด หมอบ คอย หยุด เมื่อเรียกชื่อต้องมา เพื่อเป็นการดึงสมาธิของน้องหมาเอาไว้ และทุกครั้งที่พาเขาออกนอกสถานที่ควรใส่สายสูงเสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวน้องหมา และทำให้ผู้เลี้ยงควบคุมน้องหมาได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

 

3. ไซบีเรียน ฮัสกี้ ... กับพฤติกรรมสุดติงต๊อง หอนได้หอนดีไม่หยุด
 

Dogilike.com :: เข้าใจปัญหาพฤติกรรมของ 3 สายพันธุ์น้องหมาสุดแสบ


     ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นน้องหมาในฝันของใครหลาย ๆ คน ด้วยคาแรคเตอร์ที่แสนเท่ห์แบบหมาป่า หน้าตาที่ดูสุขุม ถ้าเปรียบเป็นคนก็คงจะเป็นหนุ่มที่มีบุคลิกเท่เนี๊ยบ หรือถ้าเป็นสาวก็คงเป็นสาวสวยคมเห็นแล้วต้องเหลียวหลัง แต่ภายใต้คาแรคเตอร์เท่ห์ ๆ นี้ ในความเป็นจริงไซบีเรียนกลับเป็นน้องหมาที่ติงต๊องมาก ๆ อีกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว ไซบีเรียนจะมีนิสัยเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ซุกซน ดุก็ไม่ค่อยจะฟัง เรียกก็ไม่ค่อยจะมา ชอบหนีเที่ยว ทำความผิดแล้วก็ทำหน้าแบ๊ว ๆ ใส ๆ เหมือนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น และนอกจากความติงต๊องผิดกับภาพลักษณ์แล้ว อีกหนึ่งพฤติกรรมที่ไซบีเรียนมักทำให้เจ้าของปวดหัวก็คือ ไซบีเรียนเป็นน้องหมาเถียงเก่ง ทั้งร้องทั้งหอน โต้ตอบคนได้ และยังเป็นหมาที่ไม่เห่า แต่หอนเก่งมาก หลายครั้งที่พวกเขาทำเสียงดังจนเจ้าของต้องปวดหัว

     สำหรับพฤติกรรมการหอนของไซบีเรียนนั้นเรียกได้ว่าอยู่ในดีเอ็นเอเลยทีเดียว พวกเขาสืบทอดนิสัยนี้มาจากบรรพบุรุษหมาป่า พวกเขาใช้การหอนในการสื่อสารแทนการเห่า ใช้สื่อสารระหว่างฝูงที่อยู่ห่างไกลกันในป่ากว้างใหญ่ การหอนจึงเป็นเพียงวิธีเดียวที่พวกเขาสามารถสื่อสารต่อกันและกันได้ ซึ่งเสียงที่พวกเขาหอนออกมาจะเป็นเสียงโทนต่ำ ช่วงเสียงยาว ทำให้การเดินทางของเสียงสามารถเดินไปได้ในระยะไกลถึง 10 ไมล์เลยทีเดียวค่ะ

     การหอนของไซบีเรียนนอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่ใช้ในการสื่อสารแล้ว ในเชิงปัญหาพฤติกรรม การหอนของน้องหมาไซบีเรียนอาจมีสาเหตุมาจากความเครียดเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ต้องการเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ รวมไปถึงยังเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าพวกเจาอาจมีพลังงานหลงเหลือในร่างกายมากเกินไปอีกด้วย

     วิธีการแก้ปัญหาพฤติกรรมสุดติงต๊อง หอนได้หอนดีของน้องหมาไซบีเรียน สามารถทำได้โดยการจัดสรรพลังงานของเขาให้อยู่ในระดับที่สมดุลด้วยการพาไปออกกำลังกายเพื่อระบายพลังงานนั่นเองค่ะ โดยในหนึ่งวันผู้เลี้ยงควรพาน้องหมาไซบีเรียนออกกำลังกายโดยการพาวิ่งประมาณ 500 เมตร ถึง 1 กิโลเมตร ค่ะ ประมาณ 30 นาทีต่อวัน เช้ากับเย็น หรือพาออกไปทำกิจกรรม วิ่งเล่น คาบจานร่อนสัก  1 ชั่วโมง  ถึงจะเพียงพอสำหรับพวกเขาให้โชว์พลังเสียงน้อยลงได้ค่ะ  

     นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การฝึกให้ไซบีเรียนอยู่ในระเบียบที่เคร่งครัดก็สำคัญมาก ๆ เช่นเดียวกันค่ะ ถึงไซบีเรียนจะขึ้นชื่อว่าเป็นน้องหมาที่ดื้อขนาดไหน แต่ถ้าใครฝึกเขาได้ก็จะแปลงกายเป็นน้องหมาฉลาดแฝงอารมณ์ขัน ซึ่งการที่จะฝึกพวกเขาได้ก่อนอื่นเจ้าของจะต้องมีความสุขุม มั่นคงทางอารมณ์ ไม่ใช้ความรุนแรงในการฝึก และมีความทดทนต่อความดื้อของพวกเขาให้มาก ๆ เพื่อที่พวกเขาจะมองว่าเราเป็นจ่าฝูงที่พร้อมจะคุ้มครองป้องกัน รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ด้วย และให้ความเคารพนับถือ ถ้าสามารถเอาชนะใจเขาได้ การฝึกก็ไม่ใช่เรื่องยากนอกจากนี้ความมั่นคงของเรายังจะช่วยให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจแม้ยามที่เราไม่อยู่บ้าน  ความรู้สึกปลอดภัย และไว้ใจจึงจำเป็นต่อพวกเขามากๆ ค่ะ  โดยสาเหตุที่ต้องฝึกน้องหมาไซบีเรียนให้เชื่อฟัง ก็เพราะจะได้สั่งให้พวกเขาหยุดเมื่อหอน ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าเขาเชื่อฟังใคร บอกให้หยุดหอน เขาก็หยุดค่ะ ... แต่ก็ต้องกลับไปที่ “ทำให้เชื่อใจเรา” ก่อนนั่นเองค่ะ  ไม่ควรทำโทษหรือใช้ความรุนแรงกับพวกเขานะคะ ยิ่งตี ดุด่า เขายิ่งวิตกกังวล และหอนไม่แบบยั้งไม่อยู่เลยทีเดียวล่ะค่ะ


     น้องหมาทุกตัว ทุกสายพันธุ์ล้วนมีนิสัยที่ติดตัวมาตามธรรมชาติ ซึ่งหากเจ้าของไม่เข้าใจก็จะตัดสินว่าน้องหมาที่มีพฤติกรรมแบบนี้เป็นน้องหมานิสัยไม่ดีและไม่สามารถแก้ไขหรือปรับพฤติกรรมดังกล่าวได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ เราซึ่งเป็นผู้เลี้ยงต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้จัดการกับปัญหาพฤติกรรมได้อย่างเด็ดขาด และที่สำคัญยังเป็นการปรับพฤติกรรมน้องหมาในเชิงบวกที่ได้ผลในระยะยาวอีกด้วยล่ะค่ะ




 

บทความโดย : Dogilike.com
ภาพประกอบ :
https://pixabay.com/
https://www.pexels.com/