ใกล้ช่วงสิ้นปีแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องวางแพลนเที่ยวเอาไว้แล้ว และสำหรับคนรักน้องหมาอย่างเราก็ต้องพาน้องหมาไปเที่ยวด้วยอยู่แล้ว แต่การที่จะพาน้องหมาเที่ยวแบบสมูท ๆ แฮปปี้ทั้งคนทั้งน้องหมา ก็จำเป็นจำต้องมีการวางแผนให้พร้อมทั้งในเรื่องของที่พักที่จะต้องพร้อมต้อนรับน้องหมา เรื่องของสถานที่ต้องเที่ยวที่ต้องหาข้อมูลว่าจะไหนที่สามารถพาน้องหมาไปเที่ยวด้วยได้บ้าง และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญเช่นกัน นั่นก็คือการเตรียมน้องหมาให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกลในทริปนี้ค่ะ
 
     ถ้านับจากวันนี้ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 10 วัน จะถึงวันที่จะพาน้องหมาเดินทาง ... เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า 10 วันที่เหลือนี้เราจะเตรียมตัวน้องหมายังไงให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกลในทริปสิ้นปีค่ะ

>> ตรวจสุขภาพให้ฟิตเต็มร้อย

     สุขภาพของน้องหมาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ... สิ่งที่เจ้าของอย่างเราควรทำทุกครั้งก่อนพาน้องหมาเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางไกลเป็นระยะเวลาหลาย ๆ วัน นั่นก็คือการพาน้องหมาไปตรวจเช็กสุขภาพว่าน้องหมาแข็งแรงดีหรือไม่ มีอาการป่วยอะไรแฝงหรือเปล่า หรือถ้าถึงกำหนดทำวัคซีนแล้วก็ควรทำทันที ไม่ลืมที่จะหยดหรือฉีดยาป้องกันเห็บหมัด เพราะการเดินทางไปเที่ยวโดยเฉพาะน้องหมาสายลุยสายรักธรรมชาติมีความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับเห็บหมัดที่อยู่ตามสิ่งแวดล้อม ถ้าไม่ได้หยดหรือฉีดยาป้องกันไปก็อาจจะได้ของฝากเป็นเห็บหมัดกลับมาวิ่งเล่นที่บ้านได้ ดังนั้นเราสามารถเซฟความปลอดภัยของน้องหมาได้ด้วยการพาไปตรวจสุขภาพ ทำวัคซีน และหยดหรือฉีดยาป้องกันเห็บหมัดให้เรียบร้อยค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้

     และถ้าน้องหมาใครมีปัญหาเรื่องเมารถก็อาจจะขอคำปรึกษาจากคุณหมอได้ค่ะว่าควรจะต้องดูแลน้องหมายังไง น้องหมาถึงจะสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและไม่มีปัญหาสุขภาพตามมา

 

>> พาออกกำลังกาย

     เพิ่มความฟิตให้น้องหมาด้วยการพาไปเดิน หรือวิ่งเพื่อให้น้องหมาได้ปลดปล่อยพลังงาน ลดความตื่นเต้นเวลาเจอสิ่งแวดล้อมรวมไปถึงผู้คนใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย โดยอาจจะเพิ่มการออกกำลังกายให้มากขึ้นเล็กน้อยรอบละ 10-15 นาที เพราะในการเดินทางท่องเที่ยว น้องหมาอาจจะต้องใช้กำลังมากกว่าปกติ เพราะต้องเดิน ต้องอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้นถ้าน้องหมาไม่ได้ออกกำลังกายเลยก็อาจจะทำให้เกิดอาการอ่อนล้าได้นั่นเองค่ะ
 

>> ซ้อมนั่งรถ

     สำหรับน้องหมาที่ไม่ได้นั่งรถบ่อย ๆ การฝึกนั่งรถเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเดินทางค่ะ เพราะน้องหมาบางตัวอาจจะมีอาการตื่นเต้น ไม่มั่นคง กระวนกระวาย บางตัวอาจจะเมารถ ดังนั้นการซ้อมนั่งรถจะเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้น้องหมาก่อนการเดินทางค่ะ โดยวิธีการก็คือ เริ่มจากใช้เวลาน้อยๆ ซัก 10- 20 นาที อาจจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ในการสร้างความคุ้นเคย จากนั้นให้เพิ่มระยะเวลาเป็น 30 นาที หรือหนึ่งชั่วโมง เพื่อทดสอบว่าลูกสุนัขจะสามารถทนต่อการอยู่บนยานพาหนะที่เคลื่อนที่ไปมาได้มากน้อยแค่ไหน (แนะนำนะคะว่าถ้าไม่อยากเสี่ยงต้องมาเช็ดอ้วกน้องหมา ให้หาผ้ายางพลาสติกมาคลุมเบาะไว้ก่อน) และที่สำคัญก่อนขึ้นรถห้ามให้น้องหมากินอะไรเด็ดขาด เพราะนั่นอาจจะทำให้น้องหมาอาเจียนได้ ... เมื่อฝึกได้ในระยะเวลาหนึ่งแล้วน้องหมาของเราก็จะชินแล้วก็ชื่นชอบกับการเดินทางไปเองล่ะค่ะ
 

>> ลองพาเที่ยวนอกบ้าน

     เป็นการสร้างความคุ้นเคยก่อนเดินทางด้วยการพาน้องหมาออกจากบ้านไป จะเป็นการฝึกให้น้องหมาปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ลดการตื่นกลัวเมื่อต้องเจอผู้คนและน้องหมาตัวอื่น ๆ โดยเราอาจจะเริ่มจากการพาน้องหมาไปเดินเล่นใกล้ ๆ บ้าน หรือไปร่วมกิจกรรมเข้าฝูงเพื่อฝึกให้น้องหมารู้จักเข้าสังคม หัดทำความรู้จักกับน้องหมาตัวอื่น เราจะได้สังเกตพฤติกรรมของน้องหมาด้วยว่าน้องหมาของเรามีนิสัยขี้กลัว หรือว่าชอบเบ่งพลังข่มตัวอื่นรึเปล่า ถ้าพบว่ามีก็จะได้รีบทำการปรับนิสัยค่ะ เวลาพาออกไปไหนน้องหมาของเราจะได้เป็นน้องหมานิสัยดีที่สามารถเข้ากับทุกคนได้ยังไงล่ะคะ

 

>> ฝึกให้นั่งคอยนิ่ง ๆ และไม่เห่าคนแปลกหน้า

     นั่ง คอย หยุด คือคำสั่งที่ผู้เลี้ยงจำเป็นจะต้องฝึกให้น้องหมาทำตามให้ได้ เพราะว่าเมื่อของไปอยู่นอกบ้านคำสั่งพวกนี้จะช่วยให้ผู้เราควบคุมพฤติกรรมของน้องหมาได้ง่ายขึ้น เป็นการเซฟให้น้องหมาอยู่ในความสงบ ไม่ก่อความเดือดร้อนให้คนอื่น และไม่พาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย สำหรับน้องหมาที่ชอบเห่า ผู้เลี้ยงก็ควรฝึกให้น้องหมาอดทนต่อสิ่งเร้า ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ เพราะอาจจะทำให้เป็นการบกวนผู้อื่นทำให้เกิดความรำคาญได้ค่ะ โดยเราต้องฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยกับคนที่เป็นมิตรและสิ่งของที่มีการเคลื่อนไหว อย่างเวลาที่มีคนแปลกหน้าเดินผ่านหน้าบ้าน ในช่วงแรก ๆ ของการฝึกให้คอยสังเกตปฏิกิริยาของน้องหมา หากน้องหมาทำท่าจะเห่า หรือเห่าไปแล้วไม่นานให้รีบดุเตือนทันที เพื่อให้เขาหยุด หากเขาเริ่มมีอาการที่จะลุกและวิ่งไปเห่าที่หน้าประตู ให้รีบเตือนและห้ามน้องหมาลุกไปที่ประตูได้ เพราะหากน้องหมาไปที่หน้าประตูได้ ก็อาจจะสั่งให้น้องหมาหยุดเห่าได้ยาก แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น น้องหมาได้วิ่งไปเห่าที่หน้าประตูแล้ว ขณะที่น้องหมาเห่าอยู่นั้นให้เจ้าของรีบจับรวบปาก และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เงียบ” พร้อมกับจ้องตาเพื่อให้รู้ว่าเรากำลังพูดกับเขาอยู่ วิธีนี้ถ้าจะฝึกให้น้องหมาจำได้เร็ว ต้องสร้างสถานการณ์ให้เขาฝึกบ่อย ๆ ค่ะ

     เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วสำหรับทริปปีใหม่นี้ ยังไงลองเอาเทคนิคที่แนะนำไปเตรียมตัวน้องหมาให้พร้อมนะคะ ทริปเที่ยวปีใหม่นี้ของทั้งเพื่อน ๆ และน้องหมาจะได้ราบรื่นเที่ยวสนุกเฮฮาทั้งคนทั้งน้องหมายังไงล่ะคะ
 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/