เราอาจจะเคยเห็นข่าวหรือเรื่องราวดราม่าเกี่ยวกับการเลี้ยงน้องหมาโดยไม่ใส่สายจูงกันใช่ไหมคะ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าไม่เกิดผลดีกับใครทั้งนั้น นอกจากจะต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลแล้ว อาจจะยังต้องเสียค่าปรับอีกด้วย !! ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 6 ประเทศที่ออกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สายจูงน้องหมาอย่างจริงจังพร้อมกับค่าปรับสุดโหดให้ได้รู้กันค่ะ


          เจ้าของน้องหมาบางคนอาจมีความเข้าใจผิดว่าการใส่สายจูงให้น้องหมาเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังให้น้องหมาไม่มีอิสระ หรือมั่นใจว่าน้องหมานั้นเชื่องและเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริงแล้วการฝึกให้น้องหมารู้จักอยู่ภายใต้สายจูงทุกครั้งที่ พาออกไปในที่สาธารณะจะเป็นการช่วยป้องกันให้น้องหมาปลอดภัยจากอันตรายและอุบัติเหตุต่างๆ และแสดงถึงการมีมารยาทในการพาน้องหมาเข้าสังคมในที่สาธารณะอีกด้วยค่ะ

          การใส่สายจูงถึงแม้ว่าจะเป็นการแสดงถึงการเลี้ยงน้องหมาอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมแต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการที่จะพาน้องหมาไปในสถานที่ที่ห้ามน้องหมาเข้านะคะ เราควรเคารพกฎอย่างเคร่งครัด เพราะนอกจากจะทำให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังต้องรู้จักวิธีจับสายจูงที่ถูกต้องด้วยนะคะ เพื่อให้สายจูงทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเองค่ะ

 

          สำหรับประเทศไทยของเราก็ได้มีการออกข้อบัญญัติเรื่องการใช้สายจูงไว้นะคะ แต่อาจจะยังไม่ได้ให้ความสำคัญมาก ส่งผลให้ผู้เลี้ยงหลายคนไม่ตื่นตัวกับเรื่องนี้เท่าไหร่ค่ะ ในไทยการพาน้องหมาออกจากบ้านหรือสถานที่เลี้ยงจะต้องผูกสายลากจูงที่แข็งแรงและจับสายลากจูงตลอดเวลาค่ะ และในกรณีที่เป็นสุนัขควบคุมพิเศษ อย่างเจ้าพิทบูลเทอเรีย หรือรอทไวเลอร์ จะต้องใส่อุปกรณ์ครอบปากและจับสายลากจูงห่างจากตัวน้องหมาไม่เกิน 50 เซนติเมตรตลอดเวลาเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งถ้าใครฝ่าฝืนจะโดนปรับไม่เกิน 5,000 บาทค่ะ คนทั่วไปถ้าพบเห็นสามารถให้ความร่วมมือโดยการแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ด้วยแต่ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเท่านั้นนะคะ

 

          เป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เลี้ยงน้องหมาถึงร้อยละ 30 หรือประมาณ 683,000 ตัวเลยทีเดียวค่ะ โดยนิวซีแลนด์มี Dog Control Act 1996 เป็นกฎหมายที่มีเจตนารมณ์เพื่อการควบคมุการเลี้ยงน้องหมาโดยตรง ในการพาน้องหมาออกมายังที่สาธารณะนั้นเจ้าของจะต้องนำสายจูงไปด้วยเสมอค่ะ ถ้าฝ่าฝืนจะโดนปรับไม่เกิน 500 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ 11,300 บาท) โดยที่นี่จะมีการกำหนดพื้นที่สำหรับน้องหมาไว้ค่ะ แบ่งเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่น้องหมาจะผ่านเข้าไปไม่ได้เด็ดขาด เช่น สนามเด็กเล่น สนามกีฬา ห้องสมุด ต่อมาคือพื้นที่ที่ต้องผูกลากสายจูงค่ะ เช่น ถนนทางเท้าสวนสาธารณะ หรือชายหาดบางแห่งค่ะ สุดท้ายคือพื้นที่ออกกำลังกายสำหรับสุนัข เป็นพื้นที่ที่น้องหมาสามารถผ่านเข้าไปออกกำลังกายโดยไม่ต้องผูกสายจูงไว้ค่ะ แต่เจ้าของจะต้องสามารถควบคุมเขาได้นะคะ 

 

          ประเทศที่มีความเข้มงวด เอาจริงเอาจังในกฏหมายที่เกี่ยวกับสิทธิสัตว์เป็นอย่างมาก จนปัจจุบันเป็นประเทศที่ไม่มีสุนัขจรจัดหลงเหลืออยู่แม้แต่ตัวเดียว สำหรับที่นี่เจ้าของจะต้องศึกษากฎระเบียบในแต่ละเขตพื้นที่ว่าพื้นที่ดังกล่าวสามารถปลดสายจูงได้หรือไม่ ถ้าพาน้องหมาไปเดินเล่นแต่ไม่มีสายจูงในเขตที่กำหนดจะถูกปรับ 90 ยูโรเลยค่ะ (ประมาณ 3,500 บาท) 

 

          ด้วยความที่อเมริกาเป็นประเทศใหญ่ ดังนั้นแต่ละรัฐแต่ละเมืองก็จะมีระเบียบข้อบังคับเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกันออกไปค่ะ อย่างนิวยอร์คข้องบังคับคือสายจูงน้องหมาจะต้องยาวไม่เกิน 6 ฟุต หรือในชิคาโก้ เมืองท่องเที่ยวที่หลายๆคนรู้จักกันดี เป็นหนึ่งเมืองที่ให้ความสำคัญกับกฎหมายและระบบการจัดการที่เข้มงวดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากค่ะ และการพาน้องหมาไปเดินเล่นนั้นถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตสำหรับชาวเมืองนี้เลย โดยการพาน้องหมาออกไปเดินเล่นข้างนอกจะต้องมีสายจูงน้องหมาตลอดเวลาถ้าไม่ทำตามอาจถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐได้ (ประมาณ 9,900 บาท) ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากเลยทีเดียวค่ะ

 

         ในช่วงที่ผ่านมาเกาหลีใต้ได้ดำเนินมาตรการคุมเข้มกฎหมายเกี่ยวกับน้องหมามากขึ้นค่ะ เนื่องมาจากกรณีน้องหมาของของชเวชีวอน ไอดอลวง Super Junior ได้ไปกัดชายวัย 53 ปี และชายคนดังกล่าวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางภาครัฐจึงได้ออกมาตรการใหม่ เพิ่มค่าปรับจากเดิม 4-5 เท่าเลยล่ะค่ะ สำหรับการพาน้อหงมาเดินเล่นโดยไม่มีสายจูงในเกาหลีใต้ จะถูกปรับตั้งแต่ 200,000 วอน จนถึง 500,000 วอน (ประมาณ 5,900 – 14,800 บาท)   นอกจากนี้จะมีการมอบรางวัลสำหรับผู้ที่แจ้งเมื่อพบเห็นน้องหมาในที่สาธารณะที่ไม่มีสายจูง ซึ่งรางวัลคิดเป็น 20% ของค่าปรับค่ะ

 

         ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่สะอาดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แน่นอนว่าที่นี่ให้ความสำคัญเรื่องน้องหมาเป็นอย่างดีค่ะ และการบังคับใช้กฎหมายที่นี่ก็จริงจังมากทีเดียวค่ะ โดยถ้าจะพาน้องหมาไปในที่สาธารณะจะต้องจูงด้วยสายจูงเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาหาย และไม่สร้างความรำคาญอื่นๆค่ะ ถ้าฝ่าฝืนจะถูกปรับสูงสุดที่ 5,000 ดอลลาร์สิงค์โปร์ (ประมาณ 120,000 บาท) เป็นค่าปรับที่สูงจนไม่ควรจะฝ่าฝืนเลยค่ะ  นอกจากนี้ในบางสถานที่จะระบุไว้ชัดเจนเลยค่ะว่าห้ามนำน้องหมาเข้า โดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ  แต่ก็ยังมีอีกหลายสถานที่ในสิงคโปร์ที่ต้อนรับน้องหมานะคะ เช่น สวนสาธารณะ ชายหาด หรือร้านอาหารบางร้านค่ะ



          ค่าปรับแต่ละประเทศไม่ใช่น้อยๆเลยใช่ไหมคะ เห็นอย่างนี้แล้วเวลาพาน้องหมาไปเดินเล่นก็ห้ามลืมสายจูงเด็ดขาดเลยนะคะ ด้วยสิ่งแวดล้อมที่น้องหมาไม่คุ้นเคย บรรยากาศค่อนข้างวุ่นวาย อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ค่ะ ในบทความหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^^




 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/



ข้อมูลอ้างอิง :
www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/59504?utm_source=line&utm_medium=linetoday_original&utm_campaign=news8086
digi.library.tu.ac.th/thesis/la/1883/title-biography.pdf
www.legislation.govt.nz/act/public/1996/0013/latest/DLM375403.html
penkonthai.com/แชร์/โอ้วมีน้องหมาต้องเสียภ/
www.korseries.com/korean-gov-strengthens-punishment-on-unleashed-dogs-following-siwons-dog-controversy/
dayinus.com/dog-life-usa/
www.ava.gov.sg/docs/default-source/tools-and-resources/public-education/leashing-amp-muzzling_poster_0710.pdf?sfvrsn=2
www.ditp.go.th/contents_attach/203768/203768.pdf
thestandard.co/dog-cat-tax-in-foreign-countries/

ภาพประกอบ :
www.life-rhythm.net/wp-content/uploads/2016/06/ThinkstockPhotos-508593284.jpg
bk-cdn.asia-city.com/sites/default/files/u142882/ozono.jpg
penkonthai.com/wp-content/uploads/2017/11/IMG_0385-696x464.jpg
kellywolfephotography.co.nz/wp-content/uploads/2018/01/Dog_Photographer_Hamilton_NZ_0017-1024x683(pp_w768_h512).jpg
static.siamdara.com/files/images/06(408).jpg
vanillapup.com/wp-content/uploads/2015/02/mg_9418-1024x683.jpg
media.chicagomag.com//images/cache/cache_2/cache_a/cache_5/IMG_2066-785fc5a2.jpeg?ver=1482340404&aspectratio=1.4761904761905