ช่วง work from home แบบนี้ ความชิลล์อย่างหนึ่งของการทำงานที่บ้านก็คือ ทำงานไป กินอะไรอร่อย ๆ ไป ดูซีรีส์ไป เล่นโซเชียลไป สองอย่างหลังนี่ล่ะค่ะเพลินสุด! ... บางคนติดจอยาวไปหลายชั่วโมงจนลืมไปเลยว่า เวลาที่เราอยู่กับบ้านแบบนี้น้องหมาเองก็อยากจะใช้เวลาร่วมกับเราเหมือนกัน

     เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องของปัญหาการติดสมาร์ทโฟน ติดโซเชียลจนมีผลกระทบกับความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว แต่จะบอกให้นะคะว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้มีผลกระทบแค่กับคนหรอกค่ะ แต่กับสัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

     lain Booth สัตวแพทย์ชาวอังกฤษผู้ก่อตั้ง VetUK ได้ออกมากล่าวถึงพฤติกรรมติดสมาร์ทโฟนและติดโซเชียลผู้เลี้ยงน้องหมาว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจจะส่งผลให้น้องหมามีปัญหาทั้งในด้านของอารมณ์และพฤติกรรม เนื่องจากน้องหมาเป็นสัตว์สังคม พวกเขาต้องการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสูงโดยเฉพาะกับจ่าฝูงหรือเจ้าของ น้องหมาต้องการการออกคำสั่ง การตอบรับกับการสื่อสารของพวกเขาเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือน้องหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการใส่ใจและพยายามที่จะทำให้จ่าฝูงหรือเจ้าของพอใจตลอดเวลา

     ลองสังเกตง่าย ๆ เวลาสั่งให้น้องหมาทำอะไรก็ตาม เพื่อเขาทำตามคำสั่งแล้วเขามักจะส่งสายตาสื่อสารกับเจ้าของด้วยความคาดหวัง บางครั้งพวกเขาอาจไม่ได้ต้องการขนมหรือของเล่น แต่เพียงแค่ต้องการคำชม หรือสัมผัสจากเจ้าของเป็นของรางวัลที่ทำให้เขามั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นทำได้ดีแล้ว

     ในทางกลับกัน เมื่อน้องหมาต้องการความสนใจจากเจ้าของ แต่เจ้าของกลับจ้องแต่หน้าจอโทรศัพท์ไม่สนใจในสิ่งทีพวกเขาต้องการสื่อสาร หากเป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ หลายครั้งแน่นอนว่าย่อมเป็นการลดทอนความมั่นใจของน้องหมา และยังมีผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและน้องหมาเองด้วย

     น้องหมาที่โดนละเลย ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของติดต่อกันหลาย ๆ ครั้ง พวกเขาอาจมีอาการซึมเศร้า สังเกตง่าย ๆ ได้จากการที่น้องหมาจะไม่สนใจอาหาร นอนเยอะกว่าปกติ เริ่มเมินเฉยต่อเจ้าของ บางตัวอาจแสดงพฤติกรรมเลียหรืออมเท้า แทะขนตัวเอง ซึ่งถ้าหากอาการรุนแรงมากจำเป็นต้องพาไปพบสัตวแพทย์ และสัตวแพทย์อาจจำเป็นต้องจ่ายยาต้านเศร้าให้น้องหมาไปตลอดชีวิต

     ในด้านของพฤติกรรมระยะยาว จากน้องหมาที่เคยมีนิสัยน่ารัก เชื่อฟังคำสั่ง เมื่อโดนเจ้าของเมินเฉย หรือไปสนใจอย่างอื่นมากกว่า พวกเขาก็จะแสดงพฤติกรรมต่อต้านโดยการทำตัวดื้อ ไม่ฟังคำสั่ง ทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ เช่น กัดแทะของ หรือขับถ่ายไม่เป็นที่ เป็นต้น

     ฟังมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนก็คงไม่อยากให้น้องหมาต้องตกอยู่ในสภาพ "เด็กมีปัญหา" ใช่ไหมล่ะคะ ... วิธีการป้องกันที่ง่ายที่สุดก็คือ ในแต่ละวันควรมีเวลาที่จะทำกิจกรรมร่วมกับน้องหมาอย่างชัดเจน เช่น ช่วงเช้าก่อนทำงานประมาณ 30-60 นาที พาน้องหมาออกไปเดินเล่น หรือเล่นเกมทำตามคำสั่ง ซึ่งของรางวัลอาจไม่จำเป็นต้องเป็นของกิน แต่อาจจะเป็นคำชม "ดีมาก"  "เก่งมาก" พร้อมกับการสัมผัส ลูบหัว ตบข้างลำตัว หรือเกาหลัง ก็ได้ ส่วนในช่วงเบรคระหว่างวัน ก็ควรเรียกน้องหมามาเล่นหรือพูดคุยทักทายบ้างเพื่อให้พวกเขารู้ว่าเราไม่ได้ลืมหรือละเลย

     เพียงแค่ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ก็จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและน้องหมาไม่ให้มีปัญหาได้แล้วล่ะค่ะ ท่องจำให้ขึ้นใจนะคะว่า น้องหมามีหัวใจอย่าปล่อยให้เจ้าอุปกรณ์จอสี่เหลี่ยมมาแย่งความรักของน้องหมาไป ซีรีส์ หรือโซเชียล จะดู จะเล่น เมื่อไหร่ก็ได้มันไม่มานั่งเฝ้านั่งรอเรา แต่สำหรับน้องหมาแล้วพวกเขาเฝ้ารอความรักจากเจ้าของอยู่ตลอดเวลานะคะ

 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/


ข้อมูลอ้างอิงบางส่วน :
metro.co.uk/2018/09/18/all-the-hours-you-spend-staring-at-your-phone-are-making-your-dog-sad-warns-expert-7956554/