โดย: เว็บมาสเตอร์มะเหมี่ยว
ครั้งแรกในไทย กับการฝึกน้องหมานักบำบัดมาตรฐานระดับโลก!!
ไปติดตามกันว่า กว่าจะเป็นน้องหมานักบำบัดได้ ทั้งเจ้าของและน้องหมาต้องผ่านการฝึกอะไรบ้าง
18 มีนาคม 2564 · · อ่าน (5,983)- ที่ผ่านมาเราคงจะเคยได้ยินคำว่า "น้องหมาบำบัด" กันจนชินและไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ คิดว่าการได้กอดได้สัมผัสน้องหมาคือการได้รับการบำบัดแล้ว แต่ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือ น้องหมาบำบัด มีความแตกต่างกับ น้องหมานักบำบัด และการที่จะเป็นน้องหมานักบำบัดได้นั้นในทางสากลต้องมีการฝึกและการสอบจนได้ใบรับรองเท่านั้น น้องหมาตัวนั้นถึงจะสามารถปฏิบัติงานในฐานะน้องหมานักบำบัดได้
- Therapy Dog Thailand เป็นผู้ริเริ่มหลักสูตร "สุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย" โดยได้นำเอาหลักสูตรของ Therapy Dog Association Switzerland VTHS มาเป็นแนวทางในการสร้างหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานสากล และมีการเปิดสอน ฝึก และจัดสอบ เพื่อให้ทั้งเจ้าของและน้องหมาจบหลักสูตรน้องหมานักบำบัด เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย
เรื่องของการใช้น้องหมาบำบัด เป็นเรื่องที่เราได้ยินกันมานานมาก ๆ แล้วว่าในต่างประเทศมีการใช้น้องหมาเข้ามาเพื่อช่วยบำบัดสภาพจิตใจของผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความบกพร่องในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูให้สภาพจิตใจแข็งแรงขึ้นและพร้อมเปิดรับการรักษาด้วยวิธีอื่นต่อไป ... ในบ้านเราเอง ก็เริ่มมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้น้องหมาเข้ามาบำบัดผู้ที่มีอาการของโรคซึมเศร้าและในกลุ่มเด็กพิเศษ ซึ่งหลายคนยังเข้าใจว่าไม่ว่าจะเป็นน้องหมาตัวไหน ถ้ามีอุปนิสัยไม่ดุร้ายและชอบอยู่กับคนก็จะสามารถทำหน้าที่หมาบำบัดได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่น้องหมาตัวหนึ่งจะเป็นน้องหมาบำบัดได้นั้นต้องผ่านการทดสอบในหลาย ๆ ด้านเลยทีเดียว
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ "น้องหมานักบำบัด" วันนี้ด็อกไอไลก์ มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ "Therapy Dog Thailand" องค์กรที่เป็นผู้ริเริ่มหลักสูตร "สุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย" เป็นที่แรกในประเทศไทย มาฝากกันค่ะ
Therapy Dog Thailand คืออะไร?
กลุ่ม Therapy Dog Thailand คือกลุ่มคนรักน้องหมาที่เชื่อในพลังการบำบัดของน้องหมาและหัวใจที่อยากช่วยเหลือคนอื่น โดยความตั้งใจที่เป็นเป็นหมายหลักของพวกเขาคือ อยากจะสร้างน้องหมานักบำบัดที่ได้มาตรฐานระดับโลกขึ้นในประเทศไทย
ที่ผ่านมาเราคงจะเคยได้ยินคำว่า "น้องหมาบำบัด" กันจนชินและไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่นัก แต่รู้ไหมคะว่า จริง ๆ แล้วในต่างประเทศนั้น การที่น้องหมาตัวหนึ่งจะเป็นน้องหมานักบำบัดได้จะต้องมีการเทรนและสอบเพื่อที่ได้ใบรับรอง (certificated) ที่ได้มาตรฐานในระดับสากลถึงจะสามารถปฏิบัติงานในตำแหน่ง "น้องหมานักบำบัด" ได้
ในประเทศไทยไม่เคยมีหน่วยงานหรือองค์กรไหนที่เปิดให้มีการเทรนนิ่งและสอบด้วยมาตรฐานระดับสากล นั่นทำให้กลุ่ม Therapy Dog Thailand เป็นผู้ริเริ่มหลักสูตร "สุนัขนักบำบัดแห่งประเทศไทย" โดยได้นำเอาหลักสูตรของ Therapy Dog Association Switzerland VTHS (องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีความเชี่ยวชาญในการฝึกน้องหมานักบำบัดมายาวนานถึง 21 ปี) มาเป็นแนวทางในการสร้างหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานสากล โดยมีจุดประสงค์เพื่อฝึกให้เจ้าของและน้องหมา เพื่อดึงศักยภาพของน้องหมาในการช่วยเหลือทุกคนให้มีความสุขผ่อนคลายทางกายและใจเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงวัย ผู้ป่วย ผู้ที่มีความต้องการพิเศษ และผู้พิการ การฝึกสอนไม่ใช่เพียงแค่การฝึก IQ หรือ EQ เท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือยังเป็นการฝึกเพื่อทำความเข้าใจ และรู้จักผู้ที่จะได้รับการดูแลและบำบัดอย่างแท้จริง เพื่อเกิดความมั่นใจ ปลอดภัย และได้ประโยชน์สูงสุดทั้งผู้ให้และผู้รับ
ประสบการณ์การเทรนนิ่งเป็น "นักบำบัด" ของ คุณสา และน้องซันเดย์
คุณสา มาริสา อานิต้า นางแบบและนักแสดงชื่อดัง คืออีกคนหนึ่งที่่รักน้องหมามาก ๆ อยากให้น้องหมาของตัวเองได้แบ่งปันความรักและพลังงานดี ๆ ที่จะช่วยเยียวยาให้คนที่กำลังมีความทุกข์ทั้งจากความเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจได้มีความสุขมากขึ้น คุณสาจึงได้ตัดสินใจพาน้องซันเดย์ น้องหมาพันธุ์บอร์เดอร์คอลลี่ เข้าไปเทรนกับกลุ่ม Therapy Dog Thailand
คุณสาเล่าให้ฟังว่า การได้เข้าฝึกในหลักสูตรนี้ทำให้ความเข้าใจหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป อย่างที่ผ่านมาเราอาจจะคิดว่าการเอาหมามากอด มาสัมผัสนั่นคือการที่น้องหมาได้บำบัดเราแล้ว แต่จริง ๆ แล้วน้องหมาของเรามีศักยภาพมากกว่านั้น การเข้าฝึกในหลักสูตรนี้จะทำให้เรามองก้าวข้ามจากความน่ารักของน้องหมามาเป็นนักบำบัดมืออาชีพ ที่สามารถทำงานคู่กับจ้าของที่ผ่านการฝึกมาตามหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน เมื่อเจ้าของอย่างเรารู้ว่าน้องหมาของเรามีพลังหรือศักยภาพอะไร ก็จะช่วยให้น้องหมาสามารถบำบัดคนผู้คนได้มากมายหลากหลายมากขึ้น
ในการฝึกทั้งเจ้าของและน้องหมาต้องเรียนไปด้วยกันทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 30 ชั่วโมง คุณสาบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เธอและซันเดย์ต้องเข้าเรียนภาคทฤษฎีกับคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ต้องเรียนจิตวิทยา โดยจะเรียนและฝึกในสถานที่จริง เพื่อสร้างประสบการณ์และความคุ้นเคย เนื่องจากน้องหมานักบำบัดต้องบำบัดกลุ่มคนที่หลากหลาย ตั้งแต่เด็ก ผู้สูงวัย ผู้ป่วยทางสมอง ผู้พิการรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต ดังนั้นจึงต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจในคนทุกกลุ่ม เพื่อที่จะได้บำบัดได้อย่างถูกต้อง
กว่าจะผ่านการฝึกมาได้ไม่ใช่ง่าย ๆ คุณสาบอกว่าในช่วงที่สอบนั้นทั้งเหนื่อยและลุ้นมาก ๆ แต่ในที่สุดการสอบก็ผ่านไปได้ด้วยดี มีเจ้าของและน้องหมาที่ผ่านการฝึกทั้งหมด 20 คู่ค่ะ ตอนนี้คุณสาและน้องซันเดย์อยู่ในช่วงฝึกงาน จะปฏิบัติงานแบบเต็มตัวในเดือนเมษายนนี้ค่ะ โดยจะปฏิบัติงานสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
สาเหตุที่น้องหมานักบำบัดทำงานได้เพียงสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ก็เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพจิตของน้องหมา เพราะในการปฏิบัติงานแต่ละครั้ง น้องหมานักบำบัดจะต้องเจอกลุ่มคนที่หลากหลาย บางครั้งอาจโดนสัมผัสแรง ๆ ต้องเจอเสียงดัง การถูกใช้งานมากเกินไปในระยะเวลายาว ๆ อาจจะทำให้น้องหมาเครียด ไม่มีความสุข เมื่อน้องหมาไม่มีความสุขก็จะไม่สามารถมอบความสุขให้กับผู้อื่นได้
ทุก ๆ ครั้งหลังการปฏิบัติงาน น้องหมานักบำบัดจะต้องได้รับการผ่อนคลายจากเจ้าของ โดยการปล่อยให้พวกเขาวิ่งเล่น หรือได้รับสัมผัสที่อบอุ่นจากเจ้าของเพื่อคลายความเครียด และเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับน้องหมา ทำให้น้องหมาไม่รู้สึกกังวลเมื่อต้องออกปฏิบัติงาน
อยากเป็นน้องหมานักบำบัดต้องทำยังไงบ้าง
คุณสมบัติของเจ้าของน้องหมาที่ต้องการเข้าอบรม :
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 65 ปี (=/+/-ได้ 5เดือน)
- เป็นเจ้าของที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับน้องหมาที่จะฝึก (อยู่ร่วมกันอย่างน้อย 1 ปี)
- มีเวลาที่สามารถจัดสรรให้เรียนได้ครบตามที่หลักสูตรกำหนด
- หากเจ้าของน้องหมาไม่สามารถจัดสรรเวลาเรียนให้ครบตามหลักสูตรได้สามารถสมัครเรียนแบบ Trio เพื่อมอบหมายบุคคลภายในบ้าน (ซึ่งอยู่ ร่วมกันกับสุนัขอย่างน้อย 1 ปี) เข้าเรียนและฝึกกับสุนัขได้
- เจ้าของน้องหมา หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้เข้าเรียนจะต้องมีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีโรคติดต่อ
คุณสมบัติของน้องหมาที่เข้าอบรม :
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 เดือน หรือ 1.5 ปี และ มีอายุไม่เกิน 7 ปี
- เข้าใจและฟังคำสั่งต่าง ๆ ได้ดี สามารถสื่อสารได้ และพร้อมเรียนรู้
- เข้าสังคมได้ ไม่กลัวผู้คน และไม่กลัวการใช้ชีวิตในสถานที่สาธารณะ
- เป็นมิตรกับคนและสัตว์
- สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคผิวหนังและโรคติดต่อสู่คน
- ได้รับวัคซีน และการหยอดยาครบตามมาตรฐานสัตวแพทย์
ขั้นตอนการสมัครและการอบรมตามนี้เลยค่ะ :
กรอกใบสมัคร > รอทีมงานติดต่อกลับ >ชำระค่าทดสอบสมรรถภาพสุนัขและการตรวจสุขภาพ > ชำระค่าสมัคร > การเรียน > การทดสอบ > การบำบัดจริง > รับประกาศนียบัตร (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.therapydogthailand.org/therapydogthailandcourse)
บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/
ภาพประกอบและข้อมูลบางส่วน :
www.facebook.com/therapydogthailand
SHARES