ทุกครั้งที่ได้รับรู้เรื่องราวข่าวสารเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความไม่สงบต่างๆ รวมไปถึงการเข้าจับกุมยาเสพติด และการเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย เราจะเห็นว่าการทำงานของเจ้าหน้าทหารนั้นเต็มไปด้วยอันตราย เรียกได้ว่าต้องลุ้นกันวินาทีต่อวินาที ...

     และท่ามกลางสถานการณ์อันตึงเครียดนั้น เราก็จะพบว่านอกจากจะมีทหารกล้าที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องความสงบสุขของประชาชนแล้ว ก็ยังมี "สุนัขทหาร" ที่เป็นอีกหนึ่งแรงกำลังสำคัญที่ร่วมทำงานอยู่เคียงข้างทหารในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงอันตราย

     ถ้าหากปฏิบัติภารกิจสำเร็จทั้งทหารและสุนัขทหารก็จะปลอดภัย แต่ถ้าหากปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ นั่นก็อาจหมายถึง "การสูญเสีย" ...

     เมื่อทุกวินาทีของการปฏิบัติภารกิจหมายถึงชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน ดังนั้นทั้งทหารและสุนัขทหารจึงต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักก่อนที่จะลงสนามปฏิบัติภารกิจจริง ... วันนี้ Dogilike จะพาทุกคนไปติดตามเรื่องราวชีวิตของ "นักรบสายจูงผู้กล้า" ผ่านคำบอกเล่าของ เจ้าหน้าที่กองพันสุนัขทหาร ค่ะ
 

จุดเริ่มต้นของ "กองพันสุนัขทหาร" เกิดขึ้นจากอะไร?

     จุดเริ่มต้นของกองพันสุนัขทหารเกิดจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพิจารณาเห็นว่า การปฏิบัติการทางการทหารของหน่วยกำลังรบในการกวาดล้างกองกำลังผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ฝ่ายกองกำลังทหารของเรามักเกิดการสูญเสียเนื่องจากสงครามทุ่นระเบิด หรือจากการซุ่มโจมตีอยู่เสมอ ด้วยแนวคิดดังกล่าวจึงได้โปรดเกล้าให้ กรมสัตว์ทหารบก ได้จัดทำโครงการสุนัขสงครามขึ้น โดยเมื่อปี พ.ศ.2512 ได้ทรงพระราชทานสุนัขสงครามให้กับกรมการสัตว์ทหารบก จำนวน 15 ตัว และพัฒนาเป็นกองร้อยสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก

     และต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2538 กองทัพบกได้มีการพิจารณาให้มีการแปรสภาพเป็น กองพันสุนัขทหารขึ้น ซึ่งมีที่ตั้งหน่วยอยู่ที่ เลขที่ 300 หมู่ 4 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
 

กองพันสุนัขทหาร มีภารกิจอะไรที่ต้องรับผิดชอบบ้าง?

     สำหรับภารกิจหลักของเหล่านักรบสายจูงผู้กล้านั้น โดยภารกิจหลักก็คือการสนับสนุนหน่วยทหารในการรบด้วยการลาดตระเวน สะกดรอย ค้นหาทุ่นระเบิดหรือกับระเบิด ตรวจค้นยาเสพติดให้โทษและเพิ่มขีดความสามารถให้กับหน่วยทหารในการรักษาความปลอดภัยในที่ตั้งทางทหารและคลังยุทโธปกรณ์

     ในส่วนของภารกิจป้องกันชายแดน ทางกองพันสุนัขทหารจะจัดกำลังพลแบ่งออกเป็น 7 กอง คือ
     - หมวดสุนัขทหาร กองกำลังบูรพา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๑
     - หมวดสุนัขทหาร กองกำลังสุรสีห์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๑
     - หมวดสุนัขทหาร กองกำลังสุรนารี ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒
     - หมวดสุนัขทหาร กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒
     - หมวดสุนัขทหาร กองกำลังนเรศวร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๓
     - หมวดสุนัขทหาร กองกำลังผาเมือง ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๓
     - หมวดสุนัขทหาร กองกำลังเทพสตรี ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๔

     และอีกหนึ่งภาระกิจสำคัญของเหล่านักรบสายจูงก็คือ ถวายความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัย โดยจะมีชุดสุนัขรักษาความปลอดภัยสนับสนุนกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยวังไกลกังวล , ชุดสุนัขทหารสนับสนุนกองพันทหารราบที่๔ กรมทหารราบที่๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ , หมวดสุนัขรักษาความปลอดภัยกองบัญชาการกองทัพบก , หมวดสุนัขรักษาความปลอดภัยกองบัญชาการช่วยรบที่ ๒ และหมวดสุนัขสนับสนุนกองพันป้องกันฐานบิน ศูนย์การบินทหารบก

     ในส่วนของการรักษาความมั่นคงภายใน ก็จะมีกองร้อยสุนัขทหารอโณทัย หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย ที่จะปฏบัติภารกิจในพื้นที่สีแดงบริเวณจังหวัดชายแดนภาคใต้

     และภารกิจที่ประชาชนพบได้บ่อยก็คือ สุนัขทหารที่ทำหน้าที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

 

ในปัจจุบันมีสุนัขที่อยู่ในสังกัดทั้งหมดกี่ตัว และเป็นสายพันธุ์ใดบ้าง?

     ณ ปัจจุบัน จำนวนสุนัขทหารในอัตราของกองพันสุนัขทหารมีจำนวน ๓๒๔ ตัว โดยสายพันธุ์เลือกนำมาฝึกฝนและใช้งานมีอยู่ 4 สายพันธุ์ คือ พันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด , พันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ , พันธุ์ร็อตไวเลอร์ , พันธุ์โดเบอร์แมนพินซ์เชอร์ โดยสุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีจุดเด่นที่เหมาะกับนำมาปฏิบัติภารกิจในรูปแบบที่แตกต่างกัน

     สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด มีนิสัย กระตือรือร้น กล้าหาญ เชื้อฟังเจ้านาย และกระหายที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และมีความฉลาดสูงมาก(ฉลาดเป็นอันดับ 3 ของโลก) ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถปฏิบัตภารกิจได้ทุกหน้าที่

     สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ มีนิสัยรักสนุก ขี้เล่น ชอบเอาอกเอาใจเจ้าของ มีความฉลาดหลักแหลมและมีความสามารถในการดมกลิ่นที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้งาน จากความสามารถพิเศษของพวกทำ ทำให้หน้าที่ส่วนใหญ่ของพวกเขาคือการถูกฝึกให้ใช้ความสามารถในการดมกลิ่น เช่น ฝึกให้เป็นสุนัขสะกดรอย , ฝึกให้เป็นสุนัขตรวจค้นพัสดุภัณฑ์ระเบิด และ ฝึกให้เป็นสุนัขตรวจค้ายาเสพติด

     สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ พวกเขามีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดสูง มีร่างกายที่แข็งแกร่ง อดทน ฉลาด ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ กล้าหาญและแฝงไปด้วยความดุร้าย แต่ก็ชอบที่จะให้เจ้าของสัมผัสร่างกายอย่างทะนุถนอม พวกเขาสามารถเรียนรู้คำสั่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้หน้าที่ที่เหมาะสมกับพวกเขาคือ การถูกฝึกมาให้เป็นสุนัขเฝ้ายามและสุนัขสายตรวจ

     สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนพินซ์เชอร์ มีนิสัยตื่นตัว เชื่อฟังคำสั่งเจ้าของ มีสัญชาตญาณในการระวังภัยสูงมากและมีความชาญฉลาด พวกเขาถูกจัดให้เป็นสุนัขอารักขาที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้นหน้าที่หลักของพวกเขาคือ ถูกฝึกมาให้เป็นสุนัขเฝ้ายามและสุนัขยามสายตรวจ ในหน่วยทหารอเมริกันมารีนส์ ขนานนามพวกเขาว่า "สุนัขปีศาจ"

หนึ่งวันของสุนัขทหาร พวกเขาต้องทำอะไรบ้าง?

     ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขทหาร แน่นอนว่าพวกเขาต้องได้รับการฝึกอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกับทหาร โดยในช่วงเช้าเวลา 5.30 - 6.30 น. สุนัขทหารที่อยู่ในการฝึกจะต้องวิ่งออกกำลังกายพร้อมกับทหารผู้ควบคุม หลังจากนั้นในช่วง 9.00 - 12.00 น. จะเป็นช่วงเวลาของการฝึกทักษะต่าง ๆ ตามหน้าที่ให้กับสุนัขทหาร ไม่ว่าจะเป็น การฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งพื้นฐาน การฝึกการควบคุมร่วมกับทหารผู้ควบคุม การฝึกเฉพาะหน้าที่ (ฝึกดมกลิ่นกาวัตถุแปลกปลอม , ฝึกระวังภัย , ฝึกลาดตระเวน ฯลฯ)

     ส่วนช่วงเวลาในการให้อาหารจะอยู่ในช่วง 15.00 - 16.00 น. หลังจากนั้นก็จะปล่อยให้สุนัขพักผ่อน จะทำอย่างนี้เป็นประจำทุกวันและเพิ่มศักยภาพในการฝึกฝนของสุนัขที่อยู่ในการฝึกขึ้นไปเรื่อย ๆ

 

สุนัขที่จะเข้ามาอยู่ในกองพันสุนัขทหารจะต้องมีคุณสมบัติเด่นอะไรบ้าง

     สิ่งแรกที่จะต้องมีเลยคือ "ความฉลาด" สุนัขจะต้องสามารถเข้าใจคำพูดมนุษย์และปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องไม่น้อยกว่า 100 คำ ซึ่งถ้าเทียบกับมนุษย์ก็จะเท่ากับเด็กอายุ 8 ขวบ ซึ่งเพียงพอในสื่อสารระหว่างทหารผู้ฝึกและสุนัขที่จะต้องทำงานร่วมกัน

     คุณสมบัติที่สองคือ จะต้อง "มีประสาทสัมผัสพิเศษ" เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้วประสาทสัมผัสดีกว่าหลายเท่า หู สามารถรับคลื่นเสียงดีกว่ามนุษย์ 6 เท่า ทำให้ได้รับฟังได้ดีกว่า 20 เท่า จมูกดีเป็นพิเศษสามารถแยกกลิ่นออกมากมายดีกว่ามนุษย์ 40 เท่า มองเห็นดีกว่า 10 เท่า ทำให้สามารถใช้ในการพิสูจน์ทราบได้รวดเร็วและแน่นอน

     คุณสมบัติที่สามคือ ต้อง "มีความดุและความกล้า" ซึ่งสุนัขมีสัญชาตญาณในการต่อสู้อยู่แล้วเมื่อได้นำมาฝึกเพิ่มเติมจะมีคุณสมบัติในการต่อสู้เหมาะสมกับภารกิจที่ต้องปฏิบัติ

     คุณสมบัติที่สี่คือ ต้อง "หวงอาณาเขตของตัวเอง" ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้จะมีประโยชน์ในการฝึกให้สุนัขทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ได้ดีมาก

     คุณสมบัติที่ห้าคือ จะต้อง "มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดี" เพราะเมื่อสุนัขมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของแล้วก็ย่อมที่จะหวงแหนและระวังป้องกันภัยผู้เป็นเจ้านาย

     คุณสมบัติที่หกคือ จะต้อง "มีร่างกายที่แข็งแรงมาก ๆ" และต้องมีความอดทนสูง ต้องสามารถทนต่อสภาพภูมิประเทศและสภาพดินฟ้าอากาศได้ทุกรูแบบ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อการปฏิบัติภารกิจ

     นอกจากนี้ก็ยังมีคุณสมบัติเกี่ยวกับสีขน ซึ่งถ้าสังเกตจะพบว่าสุนัขทหารทั้งหมดจะมีสีที่ค่อนข้างเข้มเพราะจะสามารถพรางตาในขณะภารกิจได้
 

เรื่องราวที่น่าประทับใจ และภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของสุนัขในกองพันสุนัขทหาร

     เรื่องราวที่รู้สึกประทับใจและรู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ก็คือ ทางกองพันสุนัขทหารได้รับมอบหมายภารกิจจัดชุดครูฝึกสุนัขหลวงเพื่อดูแลสุนัขทรงเลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประจำทุกปี

     ส่วนอีกภารกิจที่ถือเป็นเกียรติแก่กองพันสุนัขทหารก็คือได้รับมอบหมายให้จัดกำลังพลและสุนัขทหารสนับสนุนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน

     โดยในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายค่อนข้างสูง เนื่องจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้ง ทุกวินาทีจะหมายถึงชีวิต ของทั้งประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ทหาร การปฏิบัติงานจึงต้องเต็มไปด้วยความรอบคอบและรัดกุมมากที่สุด

     อย่างเช่นภารกิจเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 57 ที่ผ่านมานี้ ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น โดยมีผู้แจ้งว่ามีวัตถุต้องสงสัยอยู่บริเวณสวนยางพาราที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ สุนัขทหารชื่อว่า "กาบูม" ภายใต้การควบคุมของ "สิบเอก วุฒิพงษ์" ได้ตรวจพบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ซึ่งการตรวจพบในครั้งนี้สามารถช่วยชีวิตเพื่อนทหารและประชาชนในพื้นที่เอาไว้ได้หลายชีวิต

     *** อัพเดทข่าวล่าสุด***  "กาบูม" ได้เสียชีวิตแล้ว โดยได้ทำหน้าที่สุนัขทหารจนวาระสุดท้ายของชีวิต กาบูมสิ้นลมหายใจด้วยวัย 9 ปี ผลงานล่าสุดของกาบูม เมื่อวันที่ 19 ก.พ.57 ตรวจพบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมฝังไว้ในเส้นทางสวนยางพารา ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา สามารถช่วยชีวิตเพื่อนทหารและประชาชนในพื้นที่ได้อีกหลายชีวิต http://www.dogilike.com/board/view.php?id=10311

วาระสุดท้ายของชีวิต นักรบสายจูงผู้กล้า

     ถึงแม้ในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งจะมีการวางแผนอย่างรัดกุมเพียงใด แต่บางครั้งความสูญเสียก็ยังคงเกิดขึ้น ... อย่างเช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 56 เจ้าหน้าที่ทหารและสุนัขทหารได้ทำการเข้าตรวจค้นวัตถุระเบิดบริเวณพื้นที่จัดงานของดีเมืองระแงะ ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ในระหว่างลงจากยานพาหนะเพื่อทำการตรวจค้นพื้นที่รอบบริเวณดังกล่าว ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้จุดชนวนระเบิด ซึ่งซุกซ่อนในรถจักรยานยนต์บนถนนลานไทร ทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง

     และจากเหตุการณ์นี้เป็นผลให้กำลังพลที่ปฏิบัติงาน บาดเจ็บจำนวน 8 นาย ต่อมาได้เสียชีวิตลง จำนวน 2 นาย ซึ่งหนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต คือ "พ.ต.ปริญญา ปราบวิชิต" ผู้บังคับสุนัขทหารเจ้าของสุนัขคู่ใจ "ยูเบิร์น" สุนัขตรวจค้นวัตถุระเบิดที่ตายในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

 

     สำหรับสุนัขที่ปฏิบัติภารกิจในสังกัดกองพันสุนัขทหารนั้น เมื่อปลดประจำการแล้วทางกองพันสุนัขทหารจะนำสุนัขกลับมาดูแลที่หน่วย โดยไม่มีนโยบายให้ประชาชนรับสุนัขทหารไปเลี้ยงแต่อย่างใด

 

     ... เรียกได้ว่าเป็นชีวิตที่เสียสละเพื่อปกป้องความสงบสุขของประชาชนโดยแท้จริงเลยนะคะ สำหรับเหล่าสุนัขทหาร ถ้าหากไม่มีพวกเขาทั้งชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนก็อาจจะต้องเสี่ยงกับอันตรายมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ เลยนะคะ

     เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปทักทายและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารของกองพันสุนัขทหารได้ที่ แฟนเพจกองพันสุนัขทหาร ค่ะ ... ทีมงาน Dogilike ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารและสุนัขที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่อันตราย ขอให้เจ้าหน้าที่ทุก ๆ คน ปลอดภัยและนำความสงบสุขมาสู่ประเทศของเรานะคะ ^^
 

คำถามจากสมาชิก Dogilike
 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ข้อมูลสัมภาษณ์จาก หน่วยกองพันสุนัขทหาร  อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา