ใครกำลังเลี้ยงน้องหมาลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ มาดูกันค่ะว่า มีเรื่องอะไรของน้องที่เราต้องรู้บ้าง ...

 

 

ลาบราดอร์มีต้นกำเนิดมาจากเกาะนิวฟันด์แลนด์ จากประเทศแคนาดา ในอดีตน้องมีชื่อเก่าว่า เซนต์ จอนห์น (St. John’s) แต่ในปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนมาเป็นลบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ แต่ผู้คนก็นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า "แลป"

 

น้องหมาลาบราดอร์เป็นที่นิยมและรู้จักมากขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เนื่องจากมีน้องหมาลาบราดอร์ได้เข้าไปอยู่ในประเทศอังกฤษมากขึ้น แต่ในปีนั้นลาบราดอร์ยังต้องนำเข้าจากประเทศแคนาดา แต่เพราะกฎหมาย จึงทำให้การนำเข้าเจ้าลาบราดอร์ไปในประเทศอังกฤษต้องจ่ายค่าภาษีที่แพงมาก ทำให้ช่วงนั้นน้องหมาลาบราดอร์เกือบสูญพันธ์กันเลยทีเดียวล่ะค่ะ!  

 

แต่ในเวลาต่อมาก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังชื่นชอบน้องหมาลาบราดอร์อยู่ คนกลุ่มนี้จึงได้ทำการพัฒนาสายพันธุ์ ซึ่งลาบราดอร์ดั้งเดิมนั้นปกติมีแค่สีดำเท่านั้น แต่ภายหลังได้มีการพัฒนาสายพันธุ์โดยนำลาบราดอร์ไปผสมพันธุ์กับสุนัขกลุ่มรีทรีฟเวอร์ ทำให้ภายหลังเจ้าลาบราดอร์ก็มีหลากหลายสีมากขึ้นค่ะ เช่น สีเหลืองหรือสีครีม ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้นี่เอง

 

ด้วยความที่น้องเป็นหมาในตระกูลรีทรีฟเวอร์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ลาบราดอร์จะชอบการเล่นน้ำมาก ๆ โดยลาบราดอร์มีลักษณะเฉพาะก็คือ หางจะหนาคล้ายหางของตัวนาก เป็นตัวช่วยในการว่ายน้ำที่ดีมาก นอกจากนี้ เท้าของลาบราดอร์ยังมีพังผืดทำให้ว่ายน้ำได้ดี และบางครั้งเท้าของลาบราดอร์ยังถูกเรียกว่า “snowshoe” อีกด้วย เพราะเมื่อถึงหน้าหนาว พังผืดจะช่วยให้หิมะออกจากบริเวณเท้าได้ดีอีกด้วย

 

ลาบราดอร์เป็นน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงาน ชอบการทำกิจกรรม โดยเฉพาะการทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ รักการออกกำลังกายมาก ๆ อยู่ไม่นิ่งชอบการเคลื่อนไหว ดังนั้น ลาบราดอร์เป็นหมาที่ต้องการพื้นที่ในการอยู่อาศัย ต้องมีที่ให้วิ่ง เจ้าของต้องมีเวลาพาไปว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายและระบายพลังงานที่ล้นเหลือ และอย่างน้อย 3-4 วันในแต่ละสัปดาห์ เจ้าของจะต้องพาวิ่งออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30-40 นาที/วัน และถ้ามีเวลาก็ควรพาลาบราดอร์เข้าสังคมอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ด้วย

 

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่มีความจำเป็นทั้งสิ้น เช่น ค่าวัคซีน ค่าอาหาร ค่าครีมอาบน้ำ ค่ายา ค่าเสื้อผ้า ค่าของเล่น เป็นต้น คนที่จะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์นี้จะต้องรู้ว่าค่าใช้จ่ายนี้จะเพิ่มมากขึ้นตามขนาดตัวและอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะรักษาโรคที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นเจ้าของหลายคนมักจะทุ่มเทและเลือกสรรอาหารที่คุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจะช่วยให้สุขภาพของสุนัขแข็งแรงและมีอายุยืน มีความเสี่ยงเป็นโรคน้อย จึงหากเน้นอาหารให้มีคุณภาพแล้ว ย่อมลดค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ แต่ถึงอย่างไรสำหรับคนที่ต้องการเลี้ยงคุณก็ต้องมีเงินสำรองสำหรับใช้ในการรักษาด้วยบางส่วน ดังนั้นหากต้องการเลี้ยงลาบราดอร์แล้ว อย่าลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาด้วย

 

ลาบราดอร์เป็นน้องหมาที่มีโครงสร้างอกกว้างลึก เสี่ยงต่อโรคกระเพาะบิดหมุน โดยโรคนี้คือ การที่กระเพาะอาหาร (Stomach) มีการขยายตัวคล้ายลูกโป่ง หรือเรียกว่า “Bloat” หรือ  Gastric Dilatation จากการมีปริมาณแก๊ส น้ำ และอาหารที่สัตว์กินสะสมอยู่มากกว่าปกติ และถ้าเกิดการบิดหมุนของกระเพาะอาหารที่มีอาหารและแก๊สขึ้น จะก่อให้เกิด โรคกระเพาะอาหารขยายและบิดหมุน (GDV) ซึ่งสามารถเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

 

อ่านข้อมูลสายพันธุ์น้องหมาลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เพิ่มเติม >>> https://www.dogilike.com/breeds/32/

 

บทความโดย: Dogilike.com

http://www.dogilike.com/