โดย: พริกขี้หนู
ทำไมน้องหมาปั๊ก ถึงได้เป็นน้องหมาของชนชั้นสูง
ไม่ว่าจะราชวงศ์ของเอเชีย หรือ ยุโรปน้องปั๊กก็มักแฝงตัวเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เสมอ
16 กันยายน 2556 · · อ่าน (28,365)
หากเพื่อนๆ คนไหนเคยเปิดอินเทอร์เน็ต หาข้อมูล ดูรูปเกี่ยวกับน้องปั๊ก อาจจะเคยเห็นภาพวาด หรือไม่ก็ภาพถ่ายน้องปั๊กถ่ายรูปคู่กับชนชั้นสูงไม่ว่าจะกับจักรพรรดิ ชนชั้นสูงในจีนและชนชั้นสูงทางฝั่งตะวันตก ผ่านตากันมาบ้างใช่ไหมคะ บางคนอาจนึกแปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงโด่งดังไปไกลยังราชสำนักในต่างแดนหลายประเทศ จนขึ้นแท่นน้องหมาราชนิกุล ที่คนในวังทั้งจีนและยุโรปโปรดปรานนิยมเลี้ยงกัน ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้กันแล้ว มาตามรอยน้องปั๊กไปพร้อมๆ กันค่ะ
สงสัยกันไหมว่า ... ทำไมน้องหมาจักรพรรดิจีนถึงตัวเล็ก หน้าหัก
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนได้อ่านบทความ หลากเรื่องราวของน้องหมาชิสุ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ (คลิกเลย!) จะทราบว่านอกจากน้องหมาชิสุ กับน้องหมาปักกิ่งยังจะมีน้องหมาปั๊กเป็นอีกหนึ่งในสายพันธุ์ที่จักรพรรดิจีน ทรงโปรด พริกก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมน้องหมาของจักรพรรดิจีนถึงต้องตัวเล็ก หน้าหัก ตาโต หางม้วนขึ้น คล้ายๆ กันเกือบทุกตัว ก็เลยลองไปสืบหาดูว่าจึงได้ข้อมูลเบื้องต้นมาว่า
- น้องหมาปั๊ก และอีก 2 สายพันธุ์ที่จักรพรรดิจีนทรงโปรด เป็นน้องหมาที่มีลักษณะคล้ายกับสิงโตอย่างที่เราเห็นกันหน้าพระราชวังของจีน ตัวเล็กๆ หน้าหัก หางม้วน ซึ่งทางความเชื่อของคนจีน สิงโตถือว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ มีบางตำนานกล่าวว้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าจะกลับชาติยังโลกอีกครั้งบนหลังสิงโต นอกจากนี้สิงโตยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความมั่งคั่งของอำนาจอีกด้วยค่ะ
- น้องหมาที่จักรพรรดิจีนโปรดปรานเป็นสายพันธุ์ที่มีรูปร่างเล็ก กระทัดรัด เหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เป็นน้องหมาที่ชอบอยู่นิ่งๆ บนตัก ไม่ซุกซนวุ่นวาย อยู่ติดเจ้าของ พลังงานน้อย ไม่ต้องการพื้นที่ในการเลี้ยง สามารถอยู่เงียบๆ ในห้องได้ไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีนิสัยช่างประจบเอาใจ อ่อนโยน ขี้เล่น ต้องการความรัก ดวงตาที่กลมโตนอกจากจะคล้ายสิงโตสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกได้ชัดเจน สร้างความอ่อนไหว หวั่นไหว และเรียกความเมตตาเอ็นดู จากจักรพรรดิทั้งหลายได้อีกด้วยค่ะ (หรืออาจเป็นเพราะคนจีนตาตี่ จึงต้องเลี้ยงน้องหมาตาโต ^^)
- น้องหมาพันธุ์ปั๊กมีรอยย่นที่สัญลักษณ์แสดงถึงความเป็น ราชนิกุล อยู่บนกลางหน้าผาก มีลักษณะคล้ายตัวอักษรจีน อ่านว่า หวังจื่อ หมายถึง เจ้าชาย ซึ่งแสดงความเป็นน้องหมามงคล จึงเป็นความพิเศษที่คนในพระราชวังนิยมเลี้ยงและจักรพรรดิทรงโปรดค่ะ
ความสำคัญของน้องหมาปั๊กในจีน
ย้อนไปประมาณ 2,000 กว่าปี หรือ 400-700 ปีก่อนคริสตกาลน้องหมาปั๊กได้ถือกำเนิดในประเทศจีน แรกเริ่มนิยมเลี้ยงอยู่ในวัดจีนทางแถบทิเบต ต่อมาได้มีการขยายความนิยมเข้าไปยังพระราชวังผันตัวไปเป็นน้องหมาทรงเลี้ยง หรือ สุนัขหลวง เพราะมีรูปร่างลักษณะโหวงเฮ้งดีเหมือนราชสีห์หน้าประตูวัง จึงได้รับมอบตำแหน่งให้มานั่งอยู่เคียงข้างจักรพรรดิเฝ้าต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ถึงกับมีการกล่าวกันว่าน้องหมาปั๊กเพศเมียนั้นจะยิ่งรู้งานนั่งนิ่งอย่างมีสง่าราศี ได้รับการยกย่องเชิดหน้าชูตาเทียบเท่าตำแหน่งมเหสีและเหล่านางสนมของจักรพรรดิเชียวล่ะค่ะ
ในสมัยเก่าก่อน ผู้ที่จะเลี้ยงน้องปั๊กได้จะต้องเป็นจักรพรรดิหรือราชนิกุลของในราชวงศ์เท่านั้น ไม่มีการนำน้องหมาปั๊กออกไปนอกพ้นประตูพระราชวังต้องห้าม ถึงขนาดมีการจัดยามคอยเฝ้าน้องปั๊กและจัดเตรียมอาหารอย่างดีที่สุดให้แก่พวกเขา หากใครขโมย จะมีโทษถึงประหารชีวิตค่ะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อประเทศจีนเริ่มเปิดการค้ากับต่างชาติ ได้มีการนำน้องหมาปั๊กเป็นของกำนัลให้แก่ราชวงศ์ต่างๆ ในต่างประเทศ อย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศทางแถบยุโรป ในเวลาต่อมา
ความสำคัญของน้องหมาปั๊กในยุโรป
ช่วงระหว่างคริสตวรรษที่ 15 ถึงคริสตวรรษที่ 16 ประเทศจีนได้เปิดการค้ากับประเทศจากทวีปยุโรป เช่น ฮอล์แลนด์ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส และ ฝรั่งเศส เป็นต้น น้องปั๊กก็เลยกลายเครื่องบรรณาการอันทรงคุณค่าทำหน้าที่เป็นฑูตสัมพันธไมตรี แพร่หลายความนิยมชมชื่นจากราชสำนักจีนไปยังราชสำนักยุโรปอย่างสมภาคภูมิ ^^
วีรกรรมน้องปั๊กในราชสำนักฮอล์แลนด์
ในประวัติศาสตร์ของฮอลแลนด์ได้มีตำนานเล่าขานกันว่า เจ้าชายวิลเลี่ยม เดอะ ไซเลนท์ (William the Silent) ได้นำน้องปั๊กประจำตัวเดินทางเข้าทำศึกสงครามกับสเปน คืนหนึ่งระหว่างที่เจ้าชายวิลเลี่ยมกำลังหลับอยู่ ได้มีมือสังหารลอบเข้ามายังที่พักของพระองค์หมายเอาชีวิต โชคดีที่น้องหมาปั๊กได้ยินเสียงบุกรุกของมือสังหารจึงเห่าเตือนภัย ช่วยชีวิตเจ้านายของมันให้รอดมาได้ และกลายเป็นสุนัขหลวงประจำราชวงศ์ เยี่ยมมากๆ เลยค่ะ ^^
วีรกรรมน้องปั๊กในราชสำนักฝรั่งเศส
วีรกรรมน้องปั๊กในราชสำนักฝรั่งเศส
ประมาณปีค.ศ.1790 การเลี้ยงน้องปั๊กได้แพร่หลายไปยังประเทศฝรั่งเศสและได้สร้างวีรกรรมบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ในสมัย เมื่อครั้งที่พระนางโจเซฟีน (Josephine) ซึ่งเป็นคนรักของจักรพรรดินโปเลียน (Napoleon) ถูกนำตัวไปคุมขังที่เลส์ คาร์เมส (Les Carmes) พระนางได้ส่งสาร์นลับไว้ใต้ปลอกคอน้องหมาปั๊กของพระนางเพื่อบอกสถานที่ที่ตนเองถูกคุมขังให้จักรพรรดินโปเลียนได้รู้ หลังจากนั้นไม่นานพระนางโจเซฟีนก็ได้รับการช่วยเหลือ และถูกปล่อยตัวออกมาในที่สุด
นอกจากน้องปั๊กจะสามารถเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือพระนางโจเซฟีนได้แล้ว ยังมีอีกเรื่องราวที่เล่าขานกันว่า ในคืนวันเข้าหอของจักรพรรดินโปเลียนกับพระนางโจเซฟีน น้องปั๊กเผลอกัดขาพระองค์จักรพรรดินโปเลียนเพื่อปกป้องเพระนางเซฟีน พระองค์จึงไม่อนุญาตให้น้องปั๊กเข้ามานอนในห้องด้วย พระนางจึงยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ให้น้องปั๊กนอนในห้อง ก็จะไม่เข้าไปนอนในห้องด้วยเช่นกัน จักรพรรดินโปเลียนจึงต้องยอมจำนนให้น้องปั๊กนอนร่วมเตียงด้วยแต่โดยดี.....แหม สนามรบไหนก็รบชนะ แต่มาแพ้น้องปั๊กเสียได้ ^^
วีรกรรมน้องปั๊กในราชสำนักอังกฤษ
.jpg "Dogilike.com :: ทำไมน้องหมาปั๊ก ถึงได้เป็นน้องหมาของชนชั้นสูง")
เส้นทางของน้องปั๊กที่เข้ามาเป็นที่รู้จักในอังกฤษมีทั้งการเข้ามาโดยทหารอังกฤษที่เข้าไปทำการค้ายังจีนแผ่นดินใหญ่ประมาณ ค.ศ. 1860 แล้วได้นำน้องหมาปั๊กกลับมาประเทศด้วย กับอีกเส้นทางหนึ่งก็คือการนำเข้ามาโดยเจ้าชายวิลเลี่ยมที่2 ของราชวงศ์ฮอล์แลนด์ที่เดินทัพ ปกครองบัลลังก์ในอังกฤษ ซึ่งพระองค์ได้นำน้องปั๊กหลายตัวติดสอยห้อยตามมากับขบวนทัพ จนออกลูกออกหลานจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นที่นิยมชมชอบในอังกฤษนั่นเองค่ะ
น้องหมาปั๊กได้เข้าไปอยู่ในราชสำนักอังกฤษในสมัยของสมเด็จพระบรมราชินีนาถวิกตอเรีย เพราะพระองค์ทรงโปรดปรานน้องปั๊กมากๆ มีการสั่งห้ามวัฒนธรรมขลิบหูน้องหมาปั๊ก ซึ่งเป็นการทารุณกรรมสัตว์ และในช่วงที่ความนิยมน้องปั๊กเสื่อมถอยลง พระองค์ก็ทรงเป็นตัวตั้งตัวตีสนับสนุนให้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปั๊ก และบัญญัติลักษณะของสายพันธุ์ปั๊กขึ้นมาอย่างเป็นทางการออกมาช่วยให้เกิดการจัดตั้งสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งสหราชอาณาจักรขึ้นมาในปี ค.ศ.1873
ต่อมาประมาณปี ค.ศ. 1886 ได้มีการนำเข้าน้องปั๊กสีดำมาจากประเทศจีนโดยเลดี้ บราสซี่ย์ (Lady Brassey) ซึ่งการนำเข้ามาในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างกระแสสร้างความทันสมัย เป็นน้องหมาแฟชั่นนิสต้าในยุคสมัยนั้นค่ะ
น้องปั๊กกับวงการงานศิลปะในยุโรป
น้องหมาพันธุ์ปั๊กเป็นสายพันธุ์ขวัญใจของเหล่าจิตกรในยุโรปที่จะเลือกมาวาดภาพสีน้ำมัน สีอะคริลิค ได้อย่างมีมิติและมีชีวิตชีวา ส่วนใหญ่จะเป็นภาพวาดน้องปั๊กนอนบนตักเจ้าของเป็นหญิงสาวชนชั้นสูง หรือ น้องปั๊กตากลมโตนอนอยู่บนเตียง บนโซฟาอย่างมีสง่าราศี อย่างเช่น ภาพวาดของวิลเลี่ยม โฮการ์ธ (William Hogarth) ซึ่งเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ เขาได้อุทิศตัววาดภาพน้องปั๊กที่เขาเลี้ยงลงไปในภาพวาดของเขาด้วย โดยภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือภาพวาดตัวของเขาเองกับน้องหมาปั๊กสุดที่รักของเขาค่ะ >///<
ความสำคัญของน้องปั๊กในสหรัฐอเมริกา
น้องหมาปั๊กเริ่มมาเป็นที่รู้จักในประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงหลังสงครามการเมืองในสหรัฐอเมริกาประมาณปีค.ศ. 1865 โดยดยุคและดัชเชสส์แห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ ซึ่งนำน้องปั๊กร่วมเดินทางไปประเทศสหรัฐเอมริกา จนเป็นที่รู้จักและค่อยๆ แพร่หลายในเวลาต่อมา น้องปั๊กได้รับการยอมรับโดยสมคมพัฒนาพันธุ์สุนัขสหรัฐอเมริกา (AKC) ในปีค.ศ. 1885 มีชาวอเมริกันหลายครอบครัวสนใจที่จะเลี้ยงน้องปั๊กและนำน้องปั๊กเข้าร่วมการประกวดสุนัขนานาชาติกันอย่างกว้างขวาง
จนกระทั่งคริสตวรรษที่ 20 น้องปั๊กได้กลายมาเป็นหนึ่งในสายพันธุ์น้องหมาที่นิยมเลี้ยงมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะในฐานะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไว้เป็นเพื่อน และฐานะเป็นน้องหมาที่เลี้ยงไว้สำหรับการประกวด แล้วถึงแม้จะไม่มีราชสำนักหรือราชวงศ์ใดรองรับความเป็นราชนิกุลของพวกเขาในสหรัฐอเมริกา เมืองแห่งเสรีชน ประชาธิปไตย ... แต่น้องปั๊กก็ยังคงความเป็นน้องหมาไฮโซ ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เป็นที่นิยมเลี้ยงของเหล่าคนมีชื่อเสียงในสังคมสหรัฐอเมริกาค่ะ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูรูปน้องหมาปั๊กกับเหล่าเซเลบฯได้ที่บทความ แฟชั่นน้องหมา รวมภาพน้องหมาปั๊กกับเหล่าเซเลบ นะคะ น่ารักมากๆ เลย
ตลอดกว่า 2,000 กว่าปีที่ผ่านมา น้องปั๊กยังคงทำหน้าที่น้องหมาที่อยู่เป็นเพื่อนกับมนุษย์อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ทั้งเอาอกเอาใจ ซื่อสัตย์ สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มอบความรักให้แก่ครอบครัวตลอดทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ละเลยหน้าที่ แล้วถึงแม้น้องปั๊กจะต้องการพื้นที่อยู่อาศัยน้อย ไม่จำเป็นต้องอยู่ในพระราชวังใหญ่โต มีข้าราชบริพารรายล้อม แต่พวกเขาก็ต้องการพื้นที่ในหัวใจของคนในครอบครัวค่อนข้างมาก คอยจะเดินตาม นอนหนุนตัก ไม่ยอมห่างไกล รอเวลากินพร้อมหน้าครอบครัว ... สิ่งเล็กๆ เหล่านี้อาจดูน้อยนิด แต่ก็มหาศาลสำหรับพวกเขาเลยล่ะคะ
บทความโดย : Dogilike.com
ข้อมูลอ้างอิง:
http://pugs.cc/pug-information/pug-history/
http://www.akc.org/breeds/pug/history.cfm
http://www.pugvillage.com/your-first-pug/history-pug
http://pugworld.co.uk/history.php
http://www.i-love-pugs.com/pug-history.html
http://mypugs.atwebpages.com/englishversion/history/pughistory/orient/orient.html
http://factsanddetails.com/china.php?itemid=265
ภาพประกอบ :
http://www.buzzfeed.com/theboogieman/the-most-stylish-pug-in-america-9h58
mammabiscuit.com
www.dogforums.com
retrieverman.net
englishhistoryauthors.blogspot.com
http://mopsa-marsel.com/2012/07/
http://enchantedbyjosephine.blogspot.com/2009/01/
favourite-royal-companion.html#.UjFjSz8SfeA
favourite-royal-companion.html#.UjFjSz8SfeA
doglawreporter.blogspot.com
www.fineart-china.com
seanlewisdraws.blogspot.com
www.konserwatyzm.pl
- ส่งต่อให้เพื่อน:
- Categories : เรื่องน่ารู้ ·
SHARES