ในแวดวงคนเลี้ยงน้องหมา ณ ขณะนี้ไม่ว่าจะไทยหรือต่างประเทศ เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความหลากหลาย มีกลเม็ดทีเด็ดในการฝึก การเลี้ยงการดูแล ที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา และ จัดเต็ม ซึ่งถ้าเอ่ยถึงประเทศที่มีสไตล์การเลี้ยงโดดเด่น แฟชั่นจ๋า มีธุกิจการเลี้ยงน้องหมารุ่งเรือง คงหนีไม่พ้นประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ว่าแต่  2 ประเทศนี้มีแนวคิดการเลี้ยงน้องหมาที่ไม่ธรรมดาอย่างไร แล้วประเทศไทยมีสไตล์การเลี้ยงน้องหมาแบบไหน ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศใดมาดูกันค่ะ 

 

 

 

     ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

 

 

     หากเพื่อนๆ ได้เข้าไปอ่านบทความ มาดู 10 อันดับ ประเทศที่เลี้ยงน้องหมามากที่สุดในโลกในปี 2013 ก็จะรู้ว่าพี่มะกันไม่ธรรมดา ขึ้นแท่นอันดับ 1 ประเทศที่เลี้ยงน้องหมามากที่สุดในโลกมา 2-3 ปีซ้อน มีธุรกิจเกี่ยวกับการเลี้ยง ดูแลสุขภาพ อำนวยความสะดวกให้แก่น้องหมาครบครัน แทบจะเรียกได้ว่า คนอเมริกันเลี้ยงน้องหมาเป็นสมาชิกคนสำคัญของครอบครัว เป็นคู่หู นอน  กิน  เที่ยว ช้อปด้วยกัน เมื่อยามน้องหมาเจ็บป่วยก็ดูแลเป็นอย่างดีถึงค่ารักษาค่าใช้จ่ายจะสูงมากๆ ก็ตาม 
 

     กลุ่มคนที่เลี้ยงน้องหมามากที่สุดคือคนเชื้อสายละติน โดยมลรัฐที่มีคนเลี้ยงน้องหมามากที่สุดก็คือ มลรัฐอาร์คันซอ คิดเป็นร้อยละ 47.9 ส่วนน้องหมาที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงมากที่สุด ก็คือน้องหมาเอนกประสงค์ ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ ถัดลงมาเป็นเยอรมันเชพเพิร์ด โกลเดนรีทรีฟเวอร์ และ บีเกิล ตามลำดับค่ะ แต่ไม่ว่าจะเลี้ยงพันธุ์ไหน พวกเขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องของความรับผิดชอบต่อชีวิตของน้องหมา และความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมเป็นสำคัญค่ะ เนื่องจากในสหรัฐอเมริกามีกฎหมายในการคุ้มครองน้องหมาและร่วมไปถึงกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ผู้เลี้ยงน้องหมาทุกคนมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น

 

 

     ประเทศญี่ปุ่น

 

 

 

     สำหรับคนญี่ปุ่นน้องหมาเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ จงรักภักดี เห็นได้จากตำนาน เรื่องเล่า หรือแม้แต่ภาพยนตร์เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของน้องหมา มีการสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อเป็นเกียรติแต่ความดีของพวกเขา จึงไม่น่าแปลกใจที่คนญี่ปุ่นรัก ให้ความสำคัญ  ผูกพันกับน้องหมาเป็นอย่างมาก
 

     ในปัจจุบันคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับน้องหมาในฐานะลูกคนหนึ่ง เป็นสิงสำคัญของชีวิตเลยก็ว่าได้ อยู่ติดกันเหมือนเป็นเงา พร้อมจะยอมทุ่มเทรายได้แทบทั้งหมดที่หามาเพื่อให้น้องหมาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้การที่คนญี่ปุ่นแต่งงานช้าลง หรืออยู่เป็นโสดมากขึ้น อีกทั้งค่าครองชีพก็แพงแสนแพง จึงเลือกที่จะเลี้ยงน้องหมาไว้เป็นลูกแทนการมีลูกนั่นเองค่ะ ความรับผิดชอบที่มีต่อน้องหมาจึงเทียบเท่ากับความรับผิดชอบที่มีต่อลูก อันนำไปสู่ธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับน้องหมา เช่น คาเฟ่ หรือ ร้านเช่าน้องหมา เพื่อให้ผู้ที่คิดจะเลี้ยงมีความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลี้ยงน้องหมา และเชคดูว่าตัวเองพร้อมที่จะรับผิดชอบพวกเขาหรือไม่ เพราะสำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ความรับผิดชอบต่อสังคมสำคัญที่สุดค่ะ 

 

 

     ประเทศไทย

 

 

     จากคำพังเพย สำนวนไทยที่เราเรียนมาแต่เด็กไม่ว่าจะเป็น “หมากัดอย่ากัดตอบ”  “หมาจนตรอก” “หมาหยอกไก่” หรือ “หมาหัวเน่า”  แล้วก็อีกหลายสิบสำนวนต่างแสดงให้เห็นทัศนคติไม่ดีเกี่ยวกับ “หมา” ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ต่ำกว่าคน ไม่มีคุณค่า ไร้ศักดิ์ศรี  จึงมักไปเปรียบเปรยกับคนพาล หรือคนที่สังคมไม่ยอมรับ 
 

     แต่เมื่อสังคมไทยได้รับรู้เรื่องราววีรกรรมของน้องหมาทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ย่าเหล ในรัชกาลที่ 6 และหนังสือเรื่องสั้น เจ้ามอม ของม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช รวมทั้งการเปิดรับสื่อจากต่างประเทศมากขึ้น ก็ทำให้คนในสังคมได้เห็นความแสนรู้ ซื่อสัตย์ของน้องหมา อีกทั้งยังมีกระแสการเลี้ยงน้องหมาจากอเมริกาและญี่ปุ่นหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น  จึงทำให้ทัศนคติเกี่ยวกับน้องหมาเปลี่ยนไป ผู้คนเอ็นดูน้องหมามากขึ้น ยกระดับควาสัมพันธ์ให้มาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ส่งผลให้ธุรกิจน้องหมาเติบโตมากอีกด้วยค่ะ (เริ่มมีแนวโน้มเหมือนญี่ปุ่นคือ เลี้ยงหมาเป็นลูก และเริ่มให้ความสำคัญกับน้องหมา ดูแลสุขภาพของหมาอย่างจริงจังเช่นเดียวกับประเทศสหรัฐอเมริกา)

 

 

 

     ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

 

 

     ประเทศสหรัฐอเมริกาถึงจะเลี้ยงน้องหมามากที่สุดในโลกแต่เรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบปัญหาการเลี้ยงน้องหมาค่อนข้างเข้มงวด หากใครที่คิดจะเลี้ยงน้องหมาจะต้องมีความพร้อมมากพอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนต้องมาจบด้วยการทอดทิ้งน้องหมาค่ะ ดังนั้นก่อนคิดจะเลี้ยงต้องคิดให้ดี และพร้อมจะรับผิดชอบในฐานะผู้เลี้ยงอย่างเต็มที่

     
     ซึ่งทางสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขสหรัฐอเมริกา (AKC) ได้มีคู่มือการวางแผนก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงน้องหมา เพื่อให้ผู้ที่สนใจเลี้ยงพิจารณาตนเองว่ามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นผู้เลี้ยงที่ดี มอบความสุขให้แก่น้องหมาหรือไม่ โดยมีคำแนะนำถึง 101 ข้อ! (เยอะมากกก แค่จำนวนข้อก็แทบถอดใจ ^0^) โดยแยกย่อยออกมาจากหัวข้อหลัก เช่น  กระบวนการคิด ตัดสินใจก่อนเลี้ยงน้องหมา กระบวนการเลือกน้องหมา วางแผนหรือปฏิทินการดูแลสุขภาพน้องหมา การเป็นเพื่อนกับน้องหมา การวางแผนและการรับผิดชอบเมื่อน้องหมาผสมพันธุ์ พาไปออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เป็นต้นค่ะ

 

     ประเทศญี่ปุ่น

 

 

 

     อย่างที่ทราบกันดีกว่ากฎหมายในการเลี้ยงสัตว์และสุนัขของประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มงวด ไม่ว่าจะเรื่องระเบียบการเลี้ยงหรือการลงโทษค่ะ ดังนั้นการจะเลี้ยงน้องหมาสักตัวจึงต้องมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งที่อยู่อาศัย เวลา ทุนทรัพย์ ความรู้ในการเลี้ยงสุนัข ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่เพื่อนบ้าน จะไปเดินดุ่มๆ ชี้จะเลี้ยงแล้วจ่ายเงินอย่างพี่ไทยก็ไม่ได้ค่ะ เพราะที่ประเทศญี่ปุ่น ตามกฎหมายร้านขายสุนัขนั้นจะต้องอธิบายถึงวิธีการเลี้ยงดูสุนัขที่ถูก ต้องและเหมาะสม  พร้อมทั้งอธิบายข้อควรระวังในการเลี้ยง รวมถึงการตรวจสอบความพร้อมและคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขว่ามี ความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งการทำความเข้าใจกฏระเบียบ ไตร่ตรองความสามารถในการเลี้ยงของตนเอง ก็เป็นการเริ่มต้นของการแสดงถึงความรับผิดชอบในฐานะผู้เลี้ยงน้องหมาค่ะ

 

     ประเทศไทย

 

 

     “ทำอะไรตามใจคือไทยแท้”  โดยทั่วไปแล้วคนไทยเลี้ยงหมาแบบปล่อยอิสระ เลี้ยงอยู่รอบบริเวณบ้าน ในไร่ในสวน มากกว่าจะให้อยู่ในขอบเขตอันจำกัด หรือให้อยู่แต่ในบ้าน เพราะแต่เดิมคนไทยมักเลี้ยงน้องหมามีจุดประสงค์ไว้เพื่อเฝ้าบ้าน ให้อยู่เป็นเพื่อน เป็นผู้รับใช้เจ้านาย กินอาหารตกพื้นได้ ไม่สกปรก แต่ในปัจจุบันคนไทยเริ่มมีความรับผิดชอบต่อการเลี้ยงน้องหมา ต่อสังคมเพิ่มมากขึ้น มีการกำหนดขอบเขต ดูแลความปลอดภัยของน้องหมาให้อยู่ภายในบ้าน ในรั้ว แต่เรื่องวินัยในการ ฝึกกฏระเบียบ การพาน้องหมาไปออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมก็ยังไม่ค่อยมีเวลาให้เช่นเดิม (ทำไงได้ ก็รถมันติด T^T) 

 

 

     

     ประเทศสหรัฐอเมริกา 

 

 

 

     จำนวนสัตว์ที่ชาวอเมริกันเลี้ยง 1 ใน 3 คือสุนัขค่ะ แล้วประมาณร้อยละ 67 ของคนที่เลี้ยงน้องหมาต่างก็ให้ความสำคัญว่าน้องหมาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ใส่ใจสัตว์เลี้ยงมากขึ้นกว่าเดิม มีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อน้องหมาหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือหลายแสนล้านบาท  โดยคิดเป็นรายจ่ายเพื่อการรักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยง ค่าอาหารกว่าครึ่งที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายบริการอื่นๆ แต่ที่ดูจะรุ่งเรืองที่สุดก็คือกลุ่มธุรกิจให้บริการรับฝากและดูแลสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ ซึ่งเติบโตขึ้น รองรับความต้องการของผู้เลี้ยงน้องหมาแต่ไม่มีเวลาให้น้องหมาได้เป็นอย่างดีค่ะ นอกจากนี้ยังมีการเติบโตของกลุ่มรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับน้องหมาเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อให้น้องหมาได้รับชม (DogTV) สุดยอดจริงๆ  (อ่านเพิ่มเติมโทรทัศน์สำหรับน้องหมาได้ที่บทความ สหรัฐผุดเคเบิ้ล Dog TV ช่องสำหรับสุนัข นะคะ)
 

      ในขณะที่ความต้องการพื้นฐานของน้องหมาจะเติบโตมากขึ้นแล้ว ยังมีอีกมุมของการขยายการเติบโตฐานการผลิตที่เป็นด้านมืดเกิดขึ้น  คือมีการเกิด "โรงงานผลิตลูกสุนัข" ในประเทศสหรัฐอเมริกามากขึ้น เพื่อสนองความต้องการของตลาดเพาะพันธุ์น้องหมาขาย โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของน้องหมา หรือการดูแลด้วยความรัก มีสุขลักษณะที่ดี ทำให้เกิดน้องหมาพิการ ไม่สมประกอบและอ่อนแอเป็นจำนวนมาก น่าสงสารมากๆ ค่ะ (อ่านเพิ่มเติมเรื่องโรงงานผลิตสุนัขได้ที่บทความ รู้จักไหม? Puppy mills โรงงานนรกผลิตลูกสุนัข!! ค่ะ)

 

 

     ประเทศญี่ปุ่น 

 

 

     ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ อินเทรนด์ แหวกแนวไม่ซ้ำใคร และเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นของโลก แน่นอนค่ะว่า แฟชั่นน้องหมาของประเทศย่อมไม่เป็น 2 รองใคร โดยเฉพาะ เสื้อผ้า โดยตัวเลขมูลค่าของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสำหรับสุนัขของประเทศญี่ปุ่นสูงถึง 40,000,000,000 บาทไทยเลยทีเดียว (อ่านเพิ่มเติมคอลัมน์ Daily Dog ญี่ปุ่นคลั่ง! ทุ่มแต่งตัวน้องหมามากกว่าอยากมีลูก) 
 

     ด้วยเหตุที่คนญี่ปุ่นรักน้องหมาเทียบเท่าลูกของตัวเองจึงเกิดธุรกิจน้องหมาแบบครบวงจรมีการซื้อขายประกันชีวิตให้น้องหมา พาไปรีสอร์ทสุดหรู สปาน้องหมาชิวๆ หรือถ้าน้องหมาแก่เลี้ยงดูไม่ได้ก็มีสถานรับเลี้ยงน้องหมาชราราคาสูงลิบลิ่ว บริการแจ่มแจ๋ว คอยดูแล....แหม  อดอิจฉาน้องหมาประเทศนี้ไม่ได้เลยจริงๆ เลี้ยงดีเวอร์>///<   
 

     สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าจะเลี้ยงน้องหมาได้ไหม อยากทดลองเลี้ยงก่อนก็มีบริการให้เช่นน้องหมาไปเลี้ยง เป็นชั่วโมง เป็นวัน เป็นเดือน แล้วถ้าเลี้ยงแล้วผูกพัน ถูกใจใช่เลย ก็สามารถซื้อไปเลี้ยงไว้ได้เป็นการถาวรค่ะ (อ่านเพิ่มเติม การบริการเช่าสุนัขได้ที่บอร์ดด็อกไอไลค์ แปลกแต่จริง บริการให้เช่าสุนัขในประเทศญี่ปุ่น ค่ะ)

 

     ประเทศไทย

 

 

 

     ธุรกิจการเลี้ยงและบริการต่างๆ ของน้องหมาในประเทศไทยเติบโตมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะคนเลี้ยงสุนัขหันมาใส่ใจคุณภาพชีวิตของน้องหมาเพิ่มขึ้น ต้องการให้น้องหมาสุขภาพดี มีความสุข แข็งแรง อยู่เป็นเพื่อนเราไปอีกนาน ประกอบกับมีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะคนอเมริกา คนรัสเซีย คนญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็ให้ความรัก ความเอาใจใส่แก่น้องหมามากเป็นพิเศษ เริ่มแรกธุรกิจน้องหมาเกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติ แต่ต่อมาไม่นาน เมื่อความนิยมในการยกระดับคุณภาพชีวิตน้องหมาของคนไทยเพิ่มมากขึ้น จึงกลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลักไปโดยปริยายค่ะ

 

 

     ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

     

 

     ถึงแม้มาตรฐานการเลี้ยงและการใช้ชีวิตของน้องหมาจะสูง แต่ก็คนอเมริกันก็ให้ความสำคัญกับการดูแลน้องหมาที่ไม่มีเจ้าของ มีองค์กรคอยดูแลจัดการน้องหมาไร้บ้านอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งคนอเมริกาส่วนใหญ่จะเลือกอุปการะน้องหมาจากสถานรับเลี้ยง หรือ องค์กรช่วยเหลือสัตว์ ก่อนที่จะตัดสินใจไปซื้อน้องหมาตามฟาร์มค่ะ ถึงขนาดจัดให้เดือนตุลาคม เป็นเดือนแห่งการรับเลี้ยงสุนัขแห่งชาติ  (National Dog Adoption Month) นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังช่วยลดประชากรน้องหมาที่ถูกทอดทิ้งให้มีความที่อบอุ่นอีกด้วย ยกนิ้วให้เลยค่ะ

 

 

      ประเทศญี่ปุ่น

 

 

 

     น้องหมาที่ไม่มีเจ้าของจะมีศูนย์พิทักษ์รักษาและให้ความรักสัตว์ของรัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อหาเจ้าของใหม่ให้แก่น้องหมาและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ  อีกทั้งยังมีหน้าที่ให้ความรู้แก่เด็กๆ เรื่องการเลี้ยงดูน้องหมาอย่างถูกวิธี ส่วนใครที่ต้องการรับน้องหมาจากที่นี่ไปเลี้ยงจะต้องมีการอบรมให้ความรู้ เห็นถึงปัญหาของการเลี้ยง เพื่อตรวจสอบความพร้อมของตนเอง ถ้าตกลงรับได้กับความรับผิดชอบที่จะตามมาก็สามารถนำน้องหมากลับไปเลี้ยงได้ค่ะ แต่ที่น่าเศร้าก็คือ ถ้าน้องหมาที่เก็บมาไม่มีเจ้าของมารับกลับไป หรือไม่มีใครรับไปเลี้ยงหลัง 7 วันที่รอดูอาการโรคพิษสุนัขบ้า พวกเขาก็จะถูกกำจัดค่ะ น่าสงสารมากๆ เลย แต่ด้วยการจัดการที่มีระบบระเบียบและเด็ดขาดนี้เองจึงไม่ค่อยจะมีน้องหมาจรจัด ไร้บ้านให้เห็นอยู่ตามท้องถนนค่ะ  

 

 

     ประเทศไทย

 

 

 

     ปัญหาน้องหมาไร้บ้านของสังคมไทย สาเหตุหลักมาจากการขาดวินัยและความรับผิดชอบ สมัยก่อนเลี้ยงไม่ได้ปล่อยวัด สมัยนี้เลี้ยงไม่ได้ปล่อยกลางถนน บางคนอาจไปปล่อยหน้าสถานสงเคราะห์ ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เพราะคนไทยมักใจบุญศุลทาน ขี้สงสาร เห็นน้องหมาข้างทางก็ให้อาหารกิน แต่ไม่ได้จะรับผิดชอบจัดการวางแผนคุมกำเนิด หาที่อยู่ให้เป็นที่เป็นทาง บางตัวมีเจ้าของแต่อยู่ริมถนน แยกไม่ออกว่าน้องหมาจรจัด หรือน้องหมามีเจ้าของ ทางการตรวจสอบลำบาก แล้วถึงแม้จะมีสถานสงเคราะห์ องค์กรช่วยเหลือน้องหมาจำนวนมาก แต่การจัดการในหลายที่ก็ยังมีปัญหา เนื่องจากมีจำนวนน้องหมาจรจัดมากเกินกว่าความสามารถที่จะดูแลอย่างทั่วถึง รวมทั้งงบประมาณรายรับที่มีน้อยกว่ารายจ่ายนั่นเองค่ะ
 

     สำหรับใครที่กำลังจะหาน้องหมามาเลี้ยงก็ลองเข้ามาดูความน่ารัก น่าเลี้ยงของพวกเขาได้ที่ โครงการ Pedigree Find – a – home โครงการหาบ้านใหม่ให้สุนัขกับเพดดีกรี (คลิกเลย!) นะคะ 

 

 

 

     และนี่ก็เป็นสไตล์การเลี้ยงน้องหมาที่แตกต่างกันไปของแต่ละประเทศนะคะ สำหรับในบ้านเรา เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีคนรักน้องหมามากขึ้นเรื่อยๆ และแนวโน้มในการเลี้ยงน้องหมาก็เป็นไปอย่างมีหลักการมากขึ้นคือ มีการศึกษาข้อมูล เตรียมความพร้อม มีความรับผิดชอบ และมีเวลาในการดูแลน้องหมา แต่เราก็ยังคงเห็นว่ายังมีข่าวการทารุณกรรมน้องหมา หรือข่าวน้องหมาที่โดนทอดทิ้งอยู่เรื่อยๆ เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่เราเหล่าคนรักคนเลี้ยงน้องหมายังคงต้องช่วยกันปลุกจิตสำนึกให้คนที่คิดจะเลี้ยงน้องหมารู้จักมีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงของตัวเอง และมีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มากขึ้น รวมไปถึงผู้ที่ไม่ได้รักไม่ได้เลี้ยงน้องหมา คุณไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแต่ให้ความเมตตา ไม่ทำร้ายพวกเขา แค่นี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ

 

 

 

บทความโดย : Dogilike.com

 

ข้อมูลอ้างอิง
 

http://human.tru.ac.th/b_tech/prechar1.pdf

http://news.voicetv.co.th/global/81787.html

http://news.voicetv.co.th/global/36752.html

http://news.voicetv.co.th/global/32681.html

http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2012/05/H12169442/H12169442.html

http://news.voicetv.co.th/global/84332.html

http://www.akc.org/public_education/responsible_dog_owner.cfm

http://www.marumura.com/talkative/?id=3382

http://www.educatepark.com/japan/japanese-dogs.html

http://www.oknation.net/blog/StayFoolish/2010/11/16/entry-1

 

ภาพประกอบ :
 

www.bornrich.com

abcnews.go.com 

www.americanfamilydogtraining.com

www.globalanimal.org

www.dld.go.th

www.thaispca.org 

www.petwellbeing.com

www.lacarmina.com

www.bangkaew.com

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=listeningmusics&group=6&month=03-2013&date=25

thereelrosegazette.wordpress.com

https://www.youtube.com/watch?v=P6S4Q7TuQSI

www.pet2go.net

avaxnews

www.whatsonxiamen.com