โดย: พริกขี้หนู
ไขประเด็นคาใจ...เพราะอะไรน้องหมากับน้องแมวไม่ถูกกัน!?
หมากับแมวดูเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กัน แต่ทว่าเจอกันเมื่อไหร่ กลีบเป็นต้องมีเรื่อง
5 พฤษภาคม 2557 · · อ่าน (68,078)
น้องหมากับน้องแมวดำรงชีวิตอยู่เคียงข้างมนุษย์มาหลายพันปี เริ่มจากการเป็นหมาป่า แมวป่า แล้วพัฒนาจนกลายมาเป็นหมาบ้าน แมวบ้านในปัจจุบัน หากตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา การอยู่ร่วมในสังคมของสัตว์ทั้ง 2 ชนิดกลับไม่ได้รับการพัฒนาให้ความสัมพันธ์กระชับแน่นแฟ้นขึ้นแต่อย่างใด พวกเขายังคงไล่ล่า หลบหนี ยากที่จะเป็นมิตรต่อกันเมื่อแรกเห็น จนก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมพวกเขาถึงไม่ถูกกัน ทำไมเจอกันทีไรต้องวิ่งไล่ ทำร้ายกัน แล้วจะทำอย่างไรถึงจะให้พวกเขายอมสมานฉันท์ ... บทความนี้พริกก็เลยจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้ค่ะ^^
น้องหมากับน้องแมวเป็นศัตรูกันจริงๆ หรือ?
ตอนเด็กๆ เพื่อนๆ คงเคยเห็นน้องหมากับน้องแมวไล่กัดกันหไปมา ทั้งจากในการ์ตูน ในภาพยนตร์จนเราเข้าใจว่าพวกเขาเป็นคู่อริ อยู่ร่วมกันไม่ได้ แต่ความจริงแล้วพวกเขาเป็นศัตรูกันจริงหรือไม่?.....หรือว่าเราเข้าใจอย่างนั้นกันไปเอง?....
ธรรมชาติของน้องหมาเป็นสัตว์ขี้เล่น หวงถิ่น ต้องการแสดงอำนาจเหนือ และมีสัญชาตญาณของนักล่าที่ติดมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่เป็นหมาป่า มีดวงตาจับความเคลื่อนไหวได้อย่างดีเยี่ยม จึงไวมากกับการไล่จับสัตว์ชนิดต่างๆ ที่วิ่งผ่านไปมาไม่เว้นแม้แต่น้องแมว หรือ น้องหมาด้วยกันเอง ยิ่งเป็นน้องหมาเด็กที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เวลาเห็นน้องแมวก็จะรู้สึกหมั่นเขี้ยว ตื่นเต้น สนุกกับการได้กระโดดไล่ล่า อยากเล่นด้วย จึงพุ่งเข้าหาแบบไม่คิดว่าจะเป็นชนวนให้เกิดศึกหรือได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การวิ่งไล่ของน้องหมาจะเป็นเรื่องของสัญชาตญาณ ความคึกคะนองไม่ใช่การล่าเพื่อเจตนาทำร้าย หรือ เพื่อกินเป็นอาหาร แต่ก็อาจทำให้น้องแมวบอบช้ำ บาดเจ็บ และเสียชีวิตได้ เพียงเพราะความอยากรู้อยากเห็นของน้องหมานั่นเอง
ส่วนน้องแมวพวกเขามีขนาดตัวเล็กกว่าน้องหมา ธรรมชาติชอบอยู่นิ่งๆ โลกส่วนตัวสูง เวลามีแมลงหรือ สัตว์ที่ขนาดเล็กกว่าก็จะตะปบเล่นเป็นปกติ จนเมื่อมาเจอกับน้องหมาที่ตื่นตัวเกินเหตุกับทุกสิ่ง และมีขนาดตัวใหญ่กว่า เห่าขู่ ส่งเสียงดัง จ้องจะพุ่งเข้ามาหา โดยสัญชาตญาณน้องแมวจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหยื่อ จึงต้องวิ่งหนี และหาทางโจมตีเพื่อเอาตัวรอด ดังนั้น การที่คิดว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นคู่อริกัน เกลียดโกรธกัน โดยเผ่าพันธุ์จึงไม่ใช่ความจริงอย่างที่เราเข้าใจ ซึ่งถ้าพวกเขาได้รับเลี้ยงดูร่วมกัน ได้รับการฝึกที่เหมาะสม น้องหมากับน้องแมวก็สามารถปรับตัวได้ รักกันเป็นปกติสุขค่ะ ^^
แตกต่างของภาษากายทำให้เกิดศึกระหว่างน้องหมากับน้องแมวจริงหรือ ?
อาจเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า น้องหมากับน้องแมวคุยกับโดยวิธีใด เพราะ เวลาเราดูหนัง ดูการ์ตูนก็จะมีบทพูดของคน จึงไม่เคยรู้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขาสื่อสารกันอย่างไร แต่หากมองจากภาษากายของพวกขาแล้ว ค่อนข้างสื่อสารในทางตรงกันข้าม ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กับพบหน้ากันครั้งแรกของน้องหมากับน้องแมวมักกลายเป็นการไล่ล่าและจบลงด้วยการเจ็บตัว
โดยภาษากายที่ต่างกันของน้องหมาก็ เช่น น้องหมากระดิกหาง เท่ากับน้องหมาดีใจ ชวนเล่น แต่สำหรับน้องแมว การแกว่งหางคือ การบอกให้ออกไปไกลๆ หากน้องหมาที่ไม่เข้าใจภาษากายของน้องแมวมาเจอ ก็จะคิดว่า นั่นคือสัญญาณที่น้องแมวเชิญชวนให้ไปหา จึงรีบวิ่งเข้าไป จนกลายเป็นการไล่ล่านั่นเอง หรือ การโก่งก้นขึ้นของน้องหมา เป็นการบอกว่าชวนเล่น แต่ของน้องแมวการโก่งตัว โก่งก้น เป็นการข่มขู่พร้อมสู้ เมื่อน้องหมาเข้าใจภาษากายผิด ก็จะพุ่งเข้าไปหา น้องแมวก็เลยสวนกลับด้วยกรงเล็บตอบแทน ซึ่งภาษากายที่แตกต่าง การสื่อสารที่ผิดพลาดนี้เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความบาดหมางให้เกิดขึ้นกับน้องหมาน้องแมวที่อยู่ร่วมอาศัยอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
การป้องกันศึกระหว่างน้องหมากับน้องแมวทำได้อย่างไร?
ถ้ารับน้องหมากับน้องแมวมาเลี้ยงร่วมกันตั้งแต่ยังเด็กก็จะช่วยลดปัญหาความบาดหมางระหว่างน้องหมากับน้องแมวที่เกิดขึ้นได้ โดยนำน้องแมวมาอยู่ที่บ้านก่อนน้องหมา เพื่อลดพฤติกรรมหวงถิ่น แสดงความเป็นจ่าฝูงของน้องหมาที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากสัญชาตญาณของน้องหมา พวกเขาจะแสดงความเป็นเจ้าถิ่น หวงแหน อาณาเขตและเจ้าของมากกว่าน้องแมว จึงควรรับน้องหมาตัวน้อยอายุไม่เกิน 12 สัปดาห์มาอยู่บ้านทีหลัง จะช่วยให้น้องหมาปรับตัว เข้ากับน้องแมวได้ง่ายขึ้นค่ะ พวกเขาจะยอมรับว่าแมวคือสมาชิกหนึ่งของครอบครัวที่เขาต้องให้ความรัก เอาใจใส่ จากนั้นจึงค่อยๆ ฝึกให้น้องหมาเข้าหา ฝึกเล่นกับน้องแมวอย่างถูกวิธี หยุดสัญชาตญาณการไล่ล่าตั้งแต่ยังเล็ก และ ให้กินอาหารแยกบริเวณเพื่อป้องกันชนวนสงครามที่อาจจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ หากเพื่อนๆ สามารถเข้าใจภาษากายของทั้ง 2 ฝ่ายได้ก็จะสามารถคอยสังเกตพฤติกรรม ห้ามปราม จับทั้ง 2 ฝ่ายแยกออกจากกันก่อนที่จะเกิดปัญหา ลดความเสี่ยงที่จะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้รับบาดเจ็บทั้งจากการต่อสู้ หรือ อุบัติเหตุขณะไล่ล่าค่ะ
นอกจากนี้ หากเพื่อนๆ สามารถเข้าใจภาษากายของทั้ง 2 ฝ่ายได้ก็จะสามารถคอยสังเกตพฤติกรรม ห้ามปราม จับทั้ง 2 ฝ่ายแยกออกจากกันก่อนที่จะเกิดปัญหา ลดความเสี่ยงที่จะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้รับบาดเจ็บทั้งจากการต่อสู้ หรือ อุบัติเหตุขณะไล่ล่าค่ะ
แต่ถึงแม้น้องหมาจะเป็นมิตรกับน้องแมวในบ้าน ก็ใช่ว่าน้องหมาจะเป็นมิตรกับน้องแมวนอกบ้านตัวอื่นๆ นะคะ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ คิดจะรับน้องแมวมาอยู่ในบ้านที่หลัง หรือ ป้องกันศึกสงครามระหว่างน้องหมาของเรากับมวลหมู่แมวตัวอื่น จำเป็นต้องมีกลยุทธ์เพื่อให้น้องหมายอมสมานฉันท์กับน้องแมว หรือเลือกสายพันธุ์น้องหมาที่เป็นมิตรกับน้องแมวค่ะ (รอติดตามอ่านบทความการฝึกได้ในสัปดาห์หน้า และบทความเรื่องน่ารู้ สายพันธุ์ในครั้งต่อไปนะคะ)
น้องหมากับน้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงต่างสายพันธุ์ที่เกิดมาเป็นนักล่าด้วยกันทั้งคู่ หากฝ่ายหนึ่งต้องกลายเป็นเหยื่อ อีกฝ่ายก็จำเป็นต้องปกป้องตัวเองด้วยการต่อสู้เป็นกลไกธรรมชาติ จึงไม่ได้เกิดมาจากความไม่ถูกกันหรือไม่ชอบพอกันอย่างที่เราเข้าใจกันมาตลอด หากพวกเขาได้ใช้ชีวิตร่วมกันในครอบครัวเดียวกัน แบ่งปันที่อยู่อาศัย พื้นที่ ที่นอน และความรักจากเจ้าของร่วมกันก็สามารถสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นได้ค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง:
http://www.knowswhy.com/why-do-dogs-and-cats-fight/
http://jackinabox.hubpages.com/hub/Why-dog-dogs-hate-cats
http://www.history.com/news/ancient-cats-and-dogs-got-along-study-shows
http://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/dogs-chasing-cats
ภาพประกอบ
free-photos.gatag.net
www.jokeroo.com
www.thepetproductguru.com
www.catster.com
- ส่งต่อให้เพื่อน:
- Categories : เรื่องน่ารู้ ·
SHARES