ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนของทุกๆ ปี ใครที่ชื่นชอบงานช็อป งานโชว์ของน้องหมา ย่อมไม่พลาดงานมหกรรมคนรักน้องหมาอันดับ 1 ของเมืองไทย Thailand International Dog Show อย่างแน่นอน ซึ่งในงานนี้นอกจากจะมีร้านค้าและกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับน้องหมาให้แล้ว ยังมีเวทีการประกวดสุนัขยิ่งใหญ่ระดับโลกชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ซึ่งน้องหมาที่เข้ามาประกวดมีทั้งมาจากในเมืองไทยและต่างประเทศ ทุกตัวสวยงาม สะอาดสะอ้าน เป็นน้องหมาสายพันธุ์ดี เกรดพรีเมียม ... เรียกได้ว่าเป็นน้องหมาไฮโซดูดีมีคลาสมาก ๆ เลยทีเดียวล่ะค่ะ
 

    ซึ่งเท่าที่พริกได้สังเกตเหล่าน้องหมาของเพื่อน ๆ ในชุมชนคนรักสุนัข Dogilike.com (ด็อกไอไลลค์ดอทคอม) ที่โพสต์รูปน้องหมาอวดโฉมให้เห็นหน้าค่าตากันนั้น หลายตัวราศีจับ สวยงาม เป็นน้องหมาสายพันธุ์ดีน่าจับเข้าประกวดเสียเหลือเกิน บทความเรื่องน่ารู้ในครั้งนี้ พริกจะชวนทุกคนมาปูทางคว้าดาวให้กับน้องหมาของเพื่อน ๆ  ส่งน้องหมาเข้าประกวดไล่ล่าคว้าตำแหน่งแชมป์เปี้ยนกันค่ะ  

 

 

 

 

 

     มาเริ่มกันที่การมาทำความรู้จักกับประเภทของการประกวดกันก่อนดีกว่าค่ะ ... ในประเทศไทยจะเห็นว่ามีการจัดงานประกวดน้องหมาในหลายงานแฟร์ หลายสังกัด หลายจังหวัด ซึ่งหากจะแยกเป็นประเภทจัดการประกวดแล้วจะสามารถแยกออกมาเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท ดังนี้ค่ะ

 

 

 

 

     1. การประกวดที่รับรองโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) หรือ Championship Show
 

     การประกวดในประเภทนี้จะต้องเป็นการประกวดที่ได้รับการับรองโดยสมาคมพันฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) เท่านั้น ซึ่งกฏกติกาในการประกวดจะเป็นไปตามกฏกติกาสากลของสมาคมสุนัขโลก(FCI) โดยในการประกวดนี้จะเป็นการประกวดที่มีการเก็บสะสมแต้มคะแนนเพื่อเป็น “แชมเปี้ยน” ทั้งในประเทศไทย และนานาชาติค่ะ

 

 

 

     2. การประกวดทั่วไป หรือ Open Show
 

     การประกวดในประเภทนี้ไม่ต้องขึ้นกับสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข(ประเทศไทย)  ค่ะ โดยชมรม กลุ่มต่าง หรือบุคคล สามารถจัดงานประกวดเองได้ โดยจะมีการอิงกฎกติกาตามหลักสากลในการตัดสิน อย่างไรก็ตาม น้องหมาที่ชนะการประกวดประเภททั่วไปนี้ ไม่สามารถจดทะเบียนและไม่สามารถสะสมคะแนนเพื่อเป็นแชมเปี้ยนในเมืองไทยและในต่างประเทศได้ค่ะ 
 

     หมายเหตุ การประกวดทั้งสองประเภท ยังจัดแบ่งย่อยออกเป็น การประกวดรวมสุนัขทุกสายพันธุ์ (AllBreed)  กับ การประกวดเฉพาะสายพันธุ์ (Specialty) 

 

 

 

 

 

     1. น้องหมาต้องขึ้นทะเบียนกับสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ก่อนจึงจะมีสิทธิ์ลงประกวดได้ค่ะ โดยเสียค่าสมัครปีละ 200 บาท โดยใช้สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของสุนัข พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องเป็นหลักฐานการสมัคร 
 

     2. น้องหมาต้องมีใบเพดดีกรี โดยใบเพดดีกรีที่สามารถเข้าประกวดเพื่อเป็นน้องหมาแชมเปี้ยนจะต้องเป็นใบเพดดีกรีแบบเต็มใบ  CERTIFIED PEDIGREE : COMPLETE PEDIGREE  เพ็ดดีกรีชนิดนี้จะระบุบรรพบุรุษของสุนัขทั้งสายพ่อและสายแม่ เต็ม 3 ช่วงอายุ และมีสัญญลักษณ์ของสมาคมฯ , AKU ( Asian Kennel Union) และ FCI (the World Canine Organisation) อยู่ในเพ็ดดีกรีค่ะ 
 

     นอกจากใบเพ็ดดีกรีแบบเต็มใบแล้ว ใบเพ็ดดีกรีประเภท CERTIFIED EXPORT PEDIGREE ซึ่งเป็นใบเพ็ดดีกรีที่ทางสมาคมฯ ออกให้ เพื่อการส่งออกสุนัขไปยังต่างประเทศ หรือน้องหมาของเราเป็นน้องหมานำเข้าก็จะได้ใบเพ็ดดีกรีตัวนี้มาค่ะ (สุนัขที่มีบรรพบุรุษไม่ครบ 3 ช่วงอายุทางสมาคมฯ จะไม่ออกให้) โดยเพ็ดดีกรีชนิดนี้เป็นการรับรองระหว่างสมาคมฯ (ในประเทศ)ต่อสมาคมฯ (ต่างประเทศ) ซึ่งสมาคมทั้งสองต้องเป็นสมาชิกร่วมองค์กรเช่น FCI หรือ AKU หรือต่างองค์กรกันแต่มีศักยภาพ เช่น AKC,K.,ANKC เป็นต้น (อ่านเพิ่มเติมการทำใบเพ็ดดีกรีได้ที่บทความ  ชวนคนรักสุนัข มารู้จักใบเพ็ดดีกรีให้มากขึ้นค่ะ)

 

     3. น้องหมาต้องมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปถึงจะมีสิทธิ์เก็บคะแนนเพื่อเป็นแชมเปี้ยนประเทศไทย
 

     4. ต้องทำการสมัครประกวดสุนัขตามรุ่นอายุที่กำหนดเท่านั้น 
 

     5. น้องหมาที่เข้าประกวดต้องไม่เป็นสัด(ไม่อยู่ในช่วงที่ต้องการผสมพันธุ์)
 

     6. เมื่ออยู่ในการประกวดเจ้าของต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่กางเกงขาสั้นหรือสวมรองเท้าแตะ
 

     7. ทั้งเจ้าของและน้องหมาต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสมาคมฯ อย่างเคร่งครัด
 

     8. เมื่อผลการตัดสินออกมา ให้ยอมรับผลการตัดสินของคณะกรรมการการเก็บคะแนนเพื่อเป็นแชมเปี้ยนประเทศไทย (Thailand Champion)

 

 

 

 

 

 

     ในการประกวดสุนัขจะใช้การแบ่งตามระบบของ FCI สมาคมสุนัขโลก โดยแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม (Group) ดังนี้ค่ะ

     Group 1 Sheepdogs and Cattle dogs ยกเว้น Swiss Cattle dogs  ได้แก่ น้องหมาสายพันธุ์ต้อนแกะ ต้อนฝูงสัตว์ทั้งหลาย (ยกเว้น สวิสส์ แคทเทิลด็อก ) อย่าง ออสเตรเลีย แคทเทิล ด็อก, ปูลิ, บอร์เดอร์ คอลลี่, เยอรมัน เชฟเฟิร์ด, พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ เป็นต้น แต่ยกเว้น สวิสส์ แคทเทิลด็อก  

  

     Group 2 Pinschers and Schnauzers, Molossians and Swiss Mountain and Cattle dogs  ได้แก่ น้องหมาพันธุ์พินเชอร์,  ชเนาเซอร์, โดโก อาร์เจนติโน่, ร็อตไวเลอร์, และ เบอร์นิส เมาเทน ด็อก เป็นต้นค่ะ 

 

     Group 3 Terriers ได้แก่ น้องหมาพันธุ์แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย ทั้งขนสั้น ขนยาว, ฟ็อกซ์ เทอร์เรียร์, บูลล์ เทอร์เรีย, และยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ เป็นต้นค่ะ 

 

     Group 4 Dachshunds ได้แก่ น้องหมาสายพันธุ์ดัชชุน ทั้งขนสั้น ขนยาว ขนหยัก 

 

     Group 5 Spitz and Primitive types  ได้แก่ น้องหมากลุ่มสปิซต์ รวมไปถึงสายพันธุ์พื้นเมือง อย่าง สายพันธุ์อลาสกัน มาลามิวท์, ไซบีเรียน ฮัสกี้, เชา เชา, อะคิตะ อินุ, ไทยหลังอาน, ไบเซนจิ และ บางแก้ว เป็นต้น 

 

     Group 6 Scent hounds and Related breeds  ได้แก่  น้องหมาสายพันธุ์บลัดฮาวนด์, ดัลเมเชียน, บีเกิล เป็นต้น   

 

     Group 7 Pointing Dogs ได้แก่ น้องหมาสายพันธุ์เยอรมัน ช็อตแฮร์ พ็อตเตอร์, วิซสลา, ไอลิช เซ็ตเตอร์ เป็นต้น  

 

     Group 8 Retrievers, Flushing Dogs and Water Dogs  ได้แก่ น้องหมาสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์, โกลเด้น รีทรีฟเวอร์, โปรเตอกีส วอร์เตอร์ ด็อก และ อเมริกัน ค็อกเกอร์ สเปเนียล เป็นต้น  

 

     Group 9 Companion and Toy Dogs   ได้แก่ น้องหมาพันธุ์เล็ก เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่น อย่าง มอลทีส, ฮาวาเนส, พุดเดิ้ล, ปักกิ่ง เป็นต้น 

 

      Group 10 Sight hounds ได้แก่ น้องหมาสายพันธุ์นักล่าที่มีดวงตาเฉียบคม อย่าง บอร์ซอย, ไอริช วูฟฮาวนด์, เกรย์ฮาวนด์, วิปเพ็ท เป็นต้น 
 

     (เพื่อนๆ สามารถเข้าในตรวจสอบดูได้ว่าน้องหมาของเพื่อนๆ อยู่ในกลุ่มไหนได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมสุนัขโลกค่ะ ... คลิกเลย!) 

 

 

 

 

 

     ในการประกวดสุนัขเพื่อเป็นแชมเปี้ยนจะมีการแบ่งรุ่นออกเป็น 7 รุ่น โดยจะมีการแข่งขันกันเป็นขั้นๆ ไป จากในรุ่น ในกลุ่ม และปิดท้ายด้วยการแข่งรวมกลุ่มเพื่อหาผู้ชนะ ซึ่งจะมีเงื่อนไขมากมายในการแข่งชิงกันของแต่ละรุ่นค่ะ โดยการแบ่งรุ่นจะแบ่งตามอายุต่อไปนี้นะคะ 

 

     1. รุ่น BABY CLASS อายุ 3-6 เดือน รวมเพศ

     2. รุ่น MINOR PUPPY CLASS อายุ 6-9 เดือนแยกเพศผู้ - เมีย
 

     3. รุ่น PUPPY CLASS อายุ 9-12 เดือนแยกเพศผู้ - เมีย
 

     4. รุ่น MINOR JUNIOR CLASS อายุ 12-15 เดือนแยกเพศผู้ - เมีย
 

     5. รุ่น JUNIOR CLASS อายุ 15-18 เดือนแยกเพศผู้ - เมีย
 

     6. รุ่น OPEN CLASS อายุ 18 เดือนขึ้นไปแยกเพศผู้ - เมีย
 

     7. รุ่น แชมเปี้ยน (น้องหมาที่มีตำแหน่งแชมเปี้ยนมาก่อน)

 

 

 

 

 

 

      ในการแข่งขันจะมีการเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ จากการประกวดของทางสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ที่จัดขึ้นในแต่ละปีค่ะ ซึ่งมีเงื่อนไขมากมายในการแข่งชิงกันของแต่ละรุ่นค่ะ อย่างเช่น ในการแข่งขันแต่ละรุ่นของแต่ละกลุ่มจะมีการแข่งกันเองก่อน (แยกเพศ แยกสายพันธุ์) จากนั้นก็จะนำน้องหมาที่ชนะในแต่ละสายพันธุ์มาแข่งรวมสายพันธุ์ต่อในแต่ละรุ่น แล้วจึงมาแข่งรวมกับกลุ่มอื่น ๆ แบบรวมสายพันธุ์ ว่าใครจะได้ Best of Breeds  

     เมื่อได้ผู้ชนะจาก Best of Breeds  มาแล้วก็นำไปชิงต่อกับน้องหมากลุ่มอื่น ๆ มาชิงให้ได้ Best of Group  พอได้ตัวที่ดีที่สุดในกลุ่มนั้น ๆ แล้วก็ต้องไปแข่งต่อกันกลุ่มอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผู้ชนะเป็น Best in Show  ซึ่งแต่ละรางวัลของ Best in Show หรือ อันดับรองลงมาถึงจะได้แต้มไว้บวกสะสมเพื่อได้เป็นแชมเปี้ยนค่ะ หรือถ้าจะได้ GR. แกรนด์ แชมป์เปี้ยน ประเทศไทยก็ต้องได้ Best In Show 3 ครั้ง หรือ Best In Show 2 ครั้ง และ Reserve Best in Show 2 ครั้ง หรือ Best In Show 1 ครั้ง และ Reserve Best in Show 4 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของแต่ละประเทศ บางประเทศไม่มี) นั่นเองค่ะ

 

     ***โดยเกณฑ์การให้คะแนนวัดก็จากมาตรฐานสายพันธุ์ของ FCI แล้วเช่นลักษณะรูปร่าง กระโหลก จุดหักบนใบหน้า ตา จมูก ปาก ฟัน ขา นิ้ว เท้าเล็บเท้า สี ลายแต้มของขน เท้า หาง ทุกอย่างต้องได้มาตรฐาน ต้องไม่มีข้อหกพร่องที่กำหนดไว้ สุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ยังดีลักษณะการวิ่ง เคลื่อนไหว เดิน การวิ่ง พฤติกรรม จิตพิสัย ไม่ก้าวร้าว ยอมเชื่อฟังคำสั่ง เป็นต้น 

 

 

 

 

      คุณสมบัติสุนัขที่จะได้รับตำแหน่ง Thai Champion

 

 

      - ต้องมีใบเพ็ดดีกรีเต็มใบ CERTIFIED PEDIGREE : COMPLETE PEDIGREE  หรือ CERTIFIED EXPORT PEDIGREE ที่ได้รับการลงทะเบียนโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ภายใต้การรับรองของ FCI (Federation Cynologique Internationale:the World Canine Organisation) และ AKU(Asia Kennel Union)
 

     - สุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปมีสิทธิ์เก็บคะแนนเพื่อเป็นแชมเปี้ยนประเทศไทย
 

     - สุนัขต้องได้รับการรางวัลเพื่อการสะสมคะแนนจากการประกวดที่จัดขึ้นโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ประเภการประกวดรวมสุนัขทุกข์สายพันธุ์ (All Breed) เท่านั้น
 

     - สุนัขที่ได้รับรางวัลต้องได้อย่างน้อย 3 C.C. (Challenge Certificate)และมีคะแนนรวมอย่างต่ำ 60 คะแนน จากการตัดสินโดยกรรมการอย่างน้อย 3 ท่านไม่ซ้ำกัน (กรรมการซ้ำกันได้ในกรณีที่งานที่กรรมที่ซ้ำกันให้ CC ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน) สุนัขที่ได้ตำแหน่ง C.C. จะได้ 10 คะแนนบวกด้วยจำนวนสุนัขที่ชนะมาในวันนั้นทั้งหมด โดยคะแนนรวมต่อครั้งจะไม่เกิน 20 คะแนน ถึงแม้จะชนะ Best of Breeds หรือ Best in Group ก็ตาม เมื่อคะแนนครบก็จะได้เป็น Thailand Champion มีอักษรย่อ Th. Ch. นำหน้าชื่อในทะเบียนนั่นเอง

 

 

 

 

     คุณสมบัติสุนัขที่จะได้รับตำแหน่ง Asia Kennel Union 

 

     - สุนัขนั้นต้องมีตำแหน่งเป็นแชมเปี้ยนของประเทศตัวเองมาก่อนแล้ว
 

    - สุนัขนั้นต้องได้รับรางวัล AKU-CAS (AKU Challenge Awards) ในแต่ละงานของ AKU Championship Dog Shows 3 ครั้ง จากกกรรมการที่ต่างกัน 3 ท่าน
 

     - สุนัขนั้นต้องมีอายุอย่างน้อย 18 เดือน
 

     - เพื่อให้ได้การรับรองตำแหน่ง AKU Asian Champion ประเทศสมาชิกของ AKU ของสุนัขตัวนั้นต้องยื่นเรื่องต่อกองเวลาธิการของ AKU 

 

 

 

 

     หลักเกณฑ์การได้รับตำแหน่ง International Championship

 

     - สุนัขตัวนั้นต้องได้รับรางวัล Certificates d’Aptitude au Championship International de Beaute (CACIB:International Beauty Conformity Capacity Certificate) 4 ครั้งจากกรรมการที่ต่างกัน 3 ท่าน 3 ประเทศ

     *สุนัขที่จะได้ CACIB คือสุนัขที่ได้ตำแหน่ง Best Msle ที่อายุเกิน 15 เดือน และต้องมีประวัติอย่างน้อย 3 ช่วงอายุ และได้เกรด Excellent และสุนัขที่จะได้ Reserve CACIB คือสุนัขที่ได้ตำแหน่ง Reserve Best Male ที่อายุเกิน 15 เดือน และต้องมีประวัติอย่างน้อย 3 ช่วงอายุ และได้เกรด Excellent 

     - สุนัขตัวนั้นต้องมีอายุ 15 เดือน
 

      - CACIB ที่ได้ครั้งที่ 1 กับ ครั้งที่ 4 ต้องห่างกันอย่างน้อย 1 ปี 1 วัน 

 

 

 

      เส้นทางสู่แชมป์เปี้ยนของน้องหมาไม่ง่ายเลยใช่ไหมคะ ต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่ที่ดีของเจ้าของ ความมานะอดทนในการฝึก และที่สำคัญก็คือใจต้องรักมีความสุขที่ได้เห็นน้องหมาได้เดินอยู่บนสนามแข่งขัน ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีน้องหมาสวยงาม สายพันธุ์ดี ใบเพ็ดดีกรีพร้อมก็สามารถ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ข่าวประชาสัมพันธ์ อิมแพค เชิญชวนส่งสุนัขเข้าประกวดชิงถ้ายพระราชทานฯ หรือถ้าสนใจจะสมัครเข้าประกวดสามารถสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ค่ะ ไม่แน่นะคะ น้องหมาของเพื่อนๆ อาจไปไกลถึงอันดับโลก  ^__^ 

 

 

 

 

บทความโดย : Dogilike.com

http://www.dogilike.com/

 

 

ข้อมูลอ้างอิง

 

http://www.thailanddogshow.com/

http://www.kcthailand.org

http://www.kcthailand.org/pdf/pointcalculation.pdf

http://www.kcthailand.org/pdf/AsiaKennelUnionRules.pdf

http://www.siberianhuskyclubofthailand.com/viewtopic.php?f=7&t=361

 

 

ภาพประกอบ :

www.allpetnews.com

www.bloomberg.com

www.zimbio.com

www.perfectcompanionbeagle.com

www.rd1677.com

www.zaptravel.com

www.petsugar.com

www.pethilight.com

www.vonmasterrott.com

http://ambergold.ru/ambergold-gk-kiss-by-kiss-show-results1

www.ezadar.hr

blogs.sacbee.com