โดย: พริกขี้หนู
เผย! 10 สายพันธุ์ น้องหมาเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย
น้องหมาซื้อมาตัวล่ะเป็นหมื่นเป็นแสน ก็ใช่ว่าจะแข็งแรง ไม่เปราะบาง
23 มีนาคม 2558 · · อ่าน (12,593)
การที่น้องหมาได้มีเชื้อแชมเปี้ยน พ่อแม่มีใบเพดดีกรีจากเมืองนอกเมืองนา เป็นน้องหมามีราคาค่าตัวเหยียบหมื่นเหยียบแสน ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่พกความบกพร่องในเรื่องของภูมิคุ้มกันโรคนะคะ เพราะบางครั้งก็เป็นเรื่องของอาการหรือโรคภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นตามสายพันธุ์ ดังนั้นจึงเสี่ยงมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่ายกว่าน้องหมาสายพันธุ์อื่น ๆ มาดูกันค่ะว่า 10 สายพันธุ์น้องหมาที่มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มีสายพันธุ์อะไรกับบ้าง ใช่สายพันธุ์ที่เพื่อน ๆ เลี้ยงไว้หรือไม่จะได้คอยดูแลป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ ค่ะ
1.โกลเด้น รีทรีฟเวอร์(Golden Retriever)
โกลเด้น รีทรีฟเวอร์มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับภูมิแพ้ผิวหนัง ไม่ว่าจะโดยจุดที่เกิดปัญหามากที่สุดก็คือ บริเวณขา หู ทำให้เกิดอาการคัน เป็นเม็ดตุ่ม ฮอตสปอต ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขามีผิวหนังที่เปราะบาง มีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับผิวหนังอยู่แล้ว เมื่อต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้จึงเกิดความผิดปกติที่ผิวหนังได้ง่าย ให้ระมัดระวังเรื่องการสัมผัสทางผิวหนัง แชมพู น้ำหอม หรือ แม้แต่ น้ำลายเห็บหมัด รวมไปถึงเชื้อราแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการคัน และภูมิคุ้มกันลดลง
2. เยอรมัน เชฟเฟิร์ด (German shepherd)
เยอรมัน เชฟเฟิร์ดเป็นหนึ่งในน้องหมาที่มีกลิ่นตัวเหม็นมากที่สุด เพราะพวกเขามีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับภูมิแพ้ผิวหนังนั่นเอง โดยสาเหตุส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากผิวของพวกเขารับรู้ความผิดปกติได้ง่าย เปราะบาง และติดเชื้อได้ง่าย หากน้องหมามีพฤติกรรมเกาหรือเลียก็ยิ่งง่ายต่อการลุกลามของเชื้อโรค เยอรมัน เชฟเฟิร์ดบางตัวอาจมีอาการแพ้ลุกลามไปไกลได้ถึงดวงตา ตามีอาการคัน จึงควรระมัดระวังเรื่องหมัด น้ำลายหมัด การนอนในที่เปียกชื้นมากเป็นพิเศษค่ะ
3.บาสเซตต์ ฮาวนด์ (Basset Hound)
บาสเซตต์ ฮาวนด์ ทั้งหน้าย่น หูยาว มีน้ำมันที่ขนค่อนข้างเยอะ อาบน้ำสักแป๊บก็มีกลิ่นซะแล้ว หากสังเกตที่ผิวหนังง่ามเท้าจะเห็นว่าผิวหนังของพวกเขาบอบบาง อับชื้นขึ้นเป็นผื่นง่าย และ ที่น่ากังวลมากที่สุดคือ ง่ายต่อการติดเชื้อ ระคายเคืองจากการสัมผัสสิ่งภายนอกอย่างแชมพู แมลงต่าง ๆ เกสรดอกไม้ อาหารก็เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังควรเน้นอาหารสำหรับน้องหมาที่แพ้ง่าย หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนมและไก่ที่จะยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงค่ะ
4. ปั๊ก (Pug)
เหล่าน้องหมาหน้าสั้นหน้าย่น ไม่ว่าจะน้องปั๊ก หรือจะเหล่าบูลล์ ด็อกก็มีโอกาสเป็นภูมิแพ้ค่อนข้างสูง ทั้งภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง ขี้เรื้อนเปียก มียีสต์เติบโตที่ผิวหนัง ผิวหนังอับชื้น ระคายเคืองได้ง่าย รวมไปถึงการแพ้อาหารอย่างแพ้โปรตีน ซึ่งการอาบน้ำบ่อย ๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้ผิวของพวกเขาดีขึ้นหรือนะคะ หากจะยิ่งทำให้ผิวหนังแห้งคัน เป็นขุย การระมัดระวังเรื่องสิ่งของเครื่องใช้ประจำวันที่เราใช้จะระคายเคืองต่อเขา ควรป้องกันไม่ให้น้องหมาไปนอนในที่ชื้น คอยเช็ดหน้าให้แห้ง เพราะเชื้อโรคเชื้อราสามารถลามไปจากจุดเล็ก ๆ เพียงจุดหนึ่ง และควรพาไปพบสัตวแพทย์ ไม่ปล่อยไว้จนเรื้อรังนะคะ หายากมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ
5. เวสตี้ เทอร์เรียร์ (Westie/West Highland White Terrier)
น้องหมาสีขาว หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ลุ๊คคุณชาย ผู้ดี๊ผู้ดีอย่างเวสตี้ เทอร์เรียร์ ก็เป็นหนึ่งในน้องหมาที่โดดเด่นเรื่องปัญหาภูมิแพ้ ถึงกับติดอันดับ 1 สายพันธุ์ที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้มากที่สุด พวกเขาค่อนข้างเปราะบางมากๆ กับพวกไรฝุ่น อาหาร สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ มักมีปัญหาทางเดินหายใจ และ มีปัญหาทางผิวหนัง พวกเขาเกิดอาการคันได้ง่าย ผิวค่อนข้างแห้ง ซึ่งอายุเฉลี่ยที่มีโรคภูมิแพ้กำเริบก็ช่วงอายุ 3 ปี โดยช่วงที่เริ่มคัน ๆ บริเวณ หัว ขา ท้อง ก็ยู่ระหว่าง 3 เดือน ถึง 12 เดือน ซึ่งผลสุดท้ายของปัญหาภูมิแพ้เวสตี้จะทำให้ขนสีขาวสวย ๆ ของพวกเขาร่วง และมียีนสต์เกิดขึ้นที่ผิวหนังค่ะ แล้วถ้าหากพาไปหาคุณหมอก็ต้องระมัดระวังเรื่องการแพ้ยาของน้องเวสตี้ด้วยนะคะ
6. ค็อกเกอร์ สแปเนียล (Cocker Spaniel)
ค็อกเกอร์ สแปเนียลมีขนเป็นลอนหนา มีน้ำมันเยอะ จึงทำให้มีกลิ่นตัว นอกจากนี้ ผิวหนังของพวกเขาด้วยความที่ขนหนามากทำให้ผิวหนักอับชื้น เพราะ อากาศ ลม แสงเข้าไม่ค่อยถึง หากไม่ได้เป่าขนให้แห้งหลังอาบน้ำ อันเป็นสาเหตุของเชื้อรา ยีสต์ แต่ปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกมากมายค่ะ ค็อกเกอร์สแปเนียลสามารถเกิดโรคภูมิแพ้ 3 ชนิดหลัก ๆ คือ ภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้จากผิวสัมผัสจากสารต่าง ๆ และ ภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวอย่างฝุ่น ควันรถ ยา เป็นต้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่เลี้ยงค็อกเกอร์ สแปเนียลจำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดพวกเขาเป็นอย่างมาก ควรเลี้ยงระบบปิด มีพื้นที่จำกัด เพื่อง่ายต่อการดูแลและลดปัจจัยเสี่ยงค่ะ
7. บิชอง ฟริเซ่ (Bichon Frise)
น้องหมาบิชอง ฟริเซ่ ลูกพี่ลูกน้องกับน้องหมาสายพันธุ์พุดเดิ้ล ดูเผิน ๆ ไม่น่าจะมีปัญหาผิวหนังใช่ไหมค่ะ แต่ทั้งบิชอง ฟริเซ่ กับพุดเดิ้ล ต่างก็มีโอกาสเสี่ยงไม่มากน้อยไปกว่ากันค่ะ พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเป็นรอย ตกสะเก็ด เกิดอาการคัน โชคดีที่ขนไม่มีน้ำมันเยอะจึงไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็นค่ะ โดยภูมิแพ้ของพวกเขาที่ทำให้เกิดผื่นคันส่วนใหญ่เกิดมาจากจากสารต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่พวกเขาสัมผัส รวมไปถึงน้ำลายหมัด และ ภูมิแพ้จากอาหารค่ะ
8. ชิสุ (Shih Tzu)
ชิสุเป็นสายพันธุ์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับที่ผิวหนังจากการแพ้อาหารมากกว่าจากสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งสาเหตุของอาการแพ้ของพวกเขาค่อนข้างหาสาเหตุได้ยาก ส่วนใหญ่กว่าเจ้าของจะรู้ว่าน้องหมาแพ้อะไร พวกเขาก็ต้องทนทุกทรมานจากการกินอาหารผิด ๆ อย่างไรก็ตาม แชมพู และเสื้อผ้าที่ใส่ก็เป็นสาเหตุรอง ๆ ที่ทำให้พวกเขาเกิดผื่นคัน ควรเลือกแชมพูและเสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อผิวหนังน้องหมานะคะ แต่ทางที่ดีเสื้อผ้าไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ อาจระวังปลอกคอ ที่สีกับผิวหนังน้องหมาจนเป็นแผลคันได้ค่ะ
9. บ็อกเซอร์ (Boxer)
บ็อกเซอร์น้องหมาหน้าโหด ขนชั้นเดียว ดูไปแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาผิวหนังใช่ไหมคะ แต่ในความจริงแล้ว ขนและผิวหนังของพวกเขามีกลิ่นค่อนข้างแรง เป็นที่ดึงดูดของเหล่าหมัดเห็บให้มาสร้างความระคายเคืองให้ผิวหนังได้ นอกจากนี้เนื่องจากขนที่ค่อนข้างบาง ผิวหนังบอบบางอีกด้วย เมื่อนอนกับพื้นหญ้า พื้นปูน ผิวหนังจึงสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย จนทำให้เกิดการแพ้ ผิวแดง เป็นผื่นคัน เรื้อรังรักษาไม่ค่อยหาย นอกจาก เกิดอาการแพ้จากสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถแพ้อาหารได้อีกด้วย ควรสังเกตหลังจากให้อาหารว่าพวกเขาเกิดผื่นคันหรือไม่
10. มินิเอเจอร์ ชเนาเซอร์ (Miniature Schnauzer)
ชเนาเซอร์มีแนวโน้มจะแพ้สิ่งต่าง ๆ และติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งพวกเขาสามารถแพ้ได้ทั้งอาหาร สารเคมีต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ยา รวมทั้งสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ หรือ น้ำลาย โดยเริ่มแรกอาจจะคันเป็นเป็นพาะจุด แต่เมื่อเกา ถูไถกับพื้นอาการคันก็จะยิ่งลุกลาม เป็นปัญหารื้อรัง เกิดการอักเสบ และขนร่วง ดังนั้น เมื่อเห็นน้องหมาเริ่มคันให้หาวิธีห้ามให้น้องหมาเกาจนลุกลามค่ะ
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าน้องหมาสายพันธุ์นั้น ๆ จะเป็นภูมิแพ้ทุกตัวทุกตัว เพียงแต่จะมีก็คือโอกาสเสี่ยงมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับว่า ภูมิคุ้มกันของพวกเขาจะมีปัญหาในช่วงไหน และสิ่งแวดล้อมของพวกเขาจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหากับภูมิคุ้มกันน้องหมาเมื่อใด ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกต ระมัดระวังทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม อาหาร เพื่อช่วยป้องกันไม่ได้น้องหมาต้องทุกทรมานกับโรคภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเองค่ะ (อ่านเพิ่มเติมความแตกต่างของอาการแพ้กับภูมิแพ้ได้ที่บทความ 20 สิ่งในชีวิตประจำวันต้องระวังน้องหมาอาจแพ้ได้! ค่ะ)
บทความโดย : Dogilike.com
http://www.dogilike.com/
ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.healthline.com/health-slideshow/dog-breeds-and-health-issues#2
http://www.sheknows.com/pets-and-animals/articles/815208/top-10-best-hypoallergenic-dog-breeds-1/page:5
http://www.allboxerinfo.com/boxer-dog-allergies
http://dogtime.com/
http://www.allboxerinfo.com/boxer-dog-allergies
ภาพประกอบ :
www.imagejuicy.com
hundeejere.dk
en.wikipedia.org
mybuzzblog.com
nextranks.com
a-z-animals.com
www.irishdogs.ie
web-dvm.net
www.boxer-dogs-guide.com
www.dogbreedplus.com
petparent.me
- ส่งต่อให้เพื่อน:
- Categories : เรื่องน่ารู้ ·
SHARES