แวดวงน้องหมาเกิดเรื่องดราม่าอีกแล้ว!!! ... ดราม่าครั้งนี้ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องของ "เห็บ" อีกเช่นเคย โดยตอนนี้ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวที่มีภาพประกอบที่ชวนสยอง เป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่โดนเห็บขนาดใหญ่เกาะกินเลือดบริเวณศีรษะ และเนื้อหาส่วนหนึ่งในบทความได้ระบุว่า หญิงสาวได้ไปพบแพทย์ และแพทย์ได้ระบุว่าเห็บตัวเล็ก ๆ ที่เล็ดลอดสายตาเธอนั้น สามารถกลายเป็นเห็บยักษ์ได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีเพราะมันสูบเลือดเข้าไป หรือการที่เห็บมาอยู่บนศีรษะของเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัวอาจเกิดจากการที่เธอโดนเห็บกัดและฝังไข่เอาไว้เป็นระยะเวลานานจนไข่ฟักออกมาเป็นตัว

     พอชาวโซเชียลเห็น ได้อ่านเรื่องราวดังกล่าวบวกกับภาพประกอบที่ชวนสยอง ก็ทำให้ตกอกตกใจแชร์ข่าวนี้กันเป็นการใหญ่การโต หลายคนถึงกับออกปากเลยว่ารู้สึกว่าไม่อยากเลี้ยง ไม่อยากให้น้องหมามาอยู่ใกล้ๆ อีกเลย!!!

     งานนี้ น้องหมากลายเป็นจำเลยของสังคมไปตามระเบียบ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย ... และจากกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นนี้ Dogilike ในฐานะที่เป็นสังคมออนไลน์สำหรับคนรักสุนัขจึงขอเป็นตัวแทนในการชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีที่เห็บขึ้นไปกัดและฟักตัวอยู่บนร่างกายของคนค่ะ

     "เห็บกินเลือดและฟักไข่บนร่างกายคนได้จริงเหรอ?" ... สำหรับข้อสงสัยที่ว่า เห็บ สามารถกินเลือดคนได้จริงหรือไม่นั้น ความจริงก็คือ เห็บสามารถกัดกินเลือดคนได้ค่ะ ในบางคนเมื่อถูกกัดอาจเกิดปฏิกิริยาที่ผิวหนังเป็นตุ่มแดงคันบริเวณที่ถูกกัด ต่อมาตุ่มอาจใหญ่เป็นปื้น หรือก้อนนูนและจะมีอาการคัน ในบางรายผิวหนังจะเป็นตุ่มอยู่นานหลายเดือนหรือเป็นปี

     ส่วนเรื่องของโรคติดต่อที่เกิดจากการโดนเห็บกัดนั้น ในประเทศไทยไม่พบโรคที่มีเห็บเป็นพาหะ แต่ไรซึ่งมีลักษณะที่มองด้วยตาเปล่า อาจคล้ายเห็บ สามารถเป็นพาหะนำเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดโรคไข้รากสาดใหญ่หรือ สครับไทฟัส ในปัจจุบันนี้ยังไม่มียาสำหรับป้องกันการเกิดโรคหลังไรกัด ดังนั้นผู้ที่ถูกไรกัด ควรสังเกต ตัวเองว่าเป็นไข้หลังจากถูกไรกัดหรือไม่ โดยทั่วไประยะฟักตัวของโรค (ตั้งแต่ไรกัดจน ถึงไข้ขึ้น) ประมาณ 10-12 วัน

     ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ถูกเห็บกัด เมื่อรู้ตัวว่าถูกเห็บกัดแล้ว วิธีที่ดีที่สุดจะเอาเห็บออกจากผิวหนังคือ ให้ใช้แหนบถอนขนคีบเห็บส่วนที่ใกล้ ผิวหนังมากที่สุดแล้วค่อย ๆ ดึงออก ห้ามใช้บุหรี่จี้หรือใช้น้ำยาล้างเล็บ ขี้ผึ้ง สบู่เหลว ทาหรือฟอกเพื่อเอาเห็บออกเด็กขาด เพราะสารพวกนี้จะทำให้เห็บระคายเคืองและปล่อยสารพิษเข้าไปในแผลที่มันกัดได้ นอกจากนี้ยังห้ามบิด หรือกระชาก ไม่ควรบีบขยี้หรือเจาะตัวเห็บ เพราะจะทำให้ของเหลวจากตัวเห็บ ซึ่งอาจมีเชื้อโรคถูกปล่อยออกมา หลังจากเอาเห็บออกแล้ว ควรล้างมือและผิวหนังบริเวณที่ถูกกัดด้วยสบู่ให้สะอาด ถ้าเห็นส่วนของปากเห็บติดอยู่ที่ผิวหนังให้ ปล่อย เอาไว้ร่างกายจะพยายามกำจัดออกมาเอง อย่าพยายามแกะ แคะออกจะทำให้ผิวหนัง เป็นเป็นแผลติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ค่ะ

     ส่วนข้อสงสัยที่ทำให้หลายคนตกใจว่า เห็บสามารถวางไข่บนร่างกายของคนได้หรือไม่นั้น ความจริงก็คือ จริง ๆ แล้วเห็บมีมากมายหลากหลายชนิด เห็บส่วนใหญ่มีโฮสต์เป็นของตัวเอง (host specificity) แต่ก็สามารถขึ้นไปอยู่บนตัวโฮสต์อื่น ๆ ได้เช่นกัน อย่างเห็บสุนัขนั้น สามารถขึ้นสัตว์อื่นหรือคนได้ แต่จัดเป็น accidental host หรือ โฮสต์โดยบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นมาอยู่เป็นการเฉพาะ

     ส่วนมากเห็บที่กัดคนมาจากสัตว์เลี้ยง เช่น แมว สุนัข หรือมาจากบริเวณพงหญ้าหรือพุ่มไม้ที่เห็บ หลบอยู่ เมื่อได้กลิ่นเหงื่อหรือความร้อนจากอุณหภูมิของร่างกาย เห็บจะกระโดดเกาะคนแล้วคลานหาบริเวณที่ปลอดภัยเพื่อดูดเลือด เช่น บริเวณซอกพับ รักแร้ ไรผม มักกินเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง เห็บมีส่วนของปากที่งับบนผิวหนังคนเพื่อดูดเลือด เมื่ออิ่มเห็บจะคลายปากและหลุดไปเอง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึง 7 วัน

    สำหรับธรรมชาติของเห็บนั้น วงจรชีวิตของเห็บมี 4 ระยะ คือ ไข่ ตัวอ่อน ตัวกลางวัย และตัวเต็มวัย ตามลำดับ เมื่อเห็บโตเต็มวัยผสมพันธุ์และกินเลือดจนอิ่มอ้วนพี  (engorged tick) แล้ว ก็จะลงจากโฮสต์มาวางไข่ ดังนั้น คำถามที่ว่า เห็บวางไข่ใต้ผิวหนังคนได้หรือไม่ ประเด็นนี้จึง "ไม่น่าจะเป็นไปได้" เพราะเห็บจะไม่วางไข่บนตัวโฮสต์ แต่จะลงมาวางไข่ตามพื้น เช่น ซอกพื้น แยกไม้ กำแพง ฯลฯ ไข่แต่ละฟองจะต้องถูกเคลือบไว้ด้วยสารคล้ายไข ไข่จะใช้เวลานานถึงประมาณ 3 สัปดาห์ ในการฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ถ้าสิ่งแวดล้อมเหมาะสม

     นั่นก็แสดงว่า เรื่องราวหรือข้อมูลที่กำลังแชร์กันอยู่นั้น "ไม่เป็นความจริง!!!" เพราะถึงแม้เห็บจะสามารถกัดคนและอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่ก็ไม่สามารถวางไข่และฟักตัวบนร่างกายของคนได้อย่างข่าวที่แชร์กันอยู่แน่นอน สิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องระวังไม่ใช่การระวังไม่ให้เห็บมาฟักไข่บนร่างกายเราหรือสัตว์เลี้ยง แต่ควรระวังไม่ให้บริเวณที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะบริเวณห้องนอน มีความเสี่ยงที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของเห็บหมัดต่างหากค่ะ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูวิธีกำจัดเห็บทั้งที่ตัวของน้องหมาและบริเวณที่อยู่อาศัยได้ ที่นี่ค่ะ http://www.dogilike.com/content/caring/2553/

     ... เห็บกวนใจไม่ใช่ปัญหาใหญ่เกินกว่าที่ผู้เลี้ยงน้องหมาจะจัดการได้ เพียงเพื่อน ๆ ต้องให้ความสำคัญกับการหมั่นพาน้องหมาไปฉีดหรือหยดยาป้องกันเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และหมั่นทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมบริเวณที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ แค่นี้ก็สามารถจัดการปัญหาเห็บ ๆ ได้อย่างถาวรแล้วล่ะค่ะ
 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ข้อมูลอ้างอิงบางส่วน :
http://ptt01.cc/post_17743
http://www.tm.mahidol.ac.th/th/tropical-medicine-knowledge/new/Tick.html

ภาพประกอบ :
http://scienceblogs.com/lifelines/2014/07/06/venomous-ticks/
http://www.fairfaxcounty.gov/hd/westnile/tickfreeyard.htm
http://ptt01.cc/post_17743