“หน่วยกู้ภัยจากของ USAID สหรัฐเมริกาพร้อมกับสุนัขกู้ภัย 6 ตัวได้เดินทางไปร่วมช่วยในการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล”

    “หน่วยงานระหว่างประเทศของเยอรมันีได้ส่งทีมงานและสุนัขกู้ภัยจำนวน 7 ตัว แพทย์ 51 คนไปบินไปช่วยเหตุเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปลในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา”

     “ปากีสถานใช้ใช้เครื่องบินจำนวน 4 ลำ ส่งแพทย์ ทีมกู้ภัย และสุนัขดมกลิ่น ไปยังเนปาลเร่งช่วยเหลือและหาผู้รอดชีวิต”

     “จีนและญี่ปุ่นส่งทีมค้นหาและกู้ภัย พร้อมกับสุนัขดมกลิ่น ช่วยเหลือการค้นหาที่กาตมันดุประเทศเนปาล ช่วยเหลือค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่”

     “กองทัพบก ประเทศไทยได้จัดเตรียมหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ชุดสุนัขค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งชุดแพทย์เคลื่อนที่ พร้อมออกเดินทางไปยังประเทศเนปาลแล้ว”

 

 

     ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอีกหลายๆ ประเทศที่ได้จัดเตรียมเหล่าน้องหมากู้ภัยเพื่อช่วยเหลือประเทศเนปาลหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ขึ้นเมื่อ วันที่ 25 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือน สถาปัตยกรรมเสียหาย ผู้คนเสียชีวิตกว่า 3,000 คน แล้วในขณะนี้ก็ยังมีการช่วยค้นหาทั้งศพและผู้รอดชีวิตต่อไป ...  ซึ่งภารกิจในการค้นหาผู้รอดชีวิตนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัย “น้องหมากู้ภัย” ที่มีความสามารถพิเศษทั้งในการได้กลิ่น ได้ยินเสียงผู้รอดชีวิต หรือ ได้กลิ่นผู้เสียชีวิตเพื่อกู้ซากขึ้นมาก ... แน่นอนค่ะว่าภารกิจนี้จะทำได้ยากมากถ้าปราศจากพวกเขา

 

     นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหล่าน้องหมากู้ภัยมีส่วนในการช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ขึ้น ... ซึ่งจากความสามารถพิเศษของพวกเขานี่เองทำให้หลายหน่วยงาน รวมทั้งผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมสุนัขได้หันมาสนใจกับความสามารถของน้องหมาในการช่วยเหลือคนจากภัยพิบัติและความสามารถในการเตือนภัยพิบัติของน้องหมาอีกด้วย 

 

 

 

     ดร.เฮอร์เว ฟริตซ์ (Herve Fritz) นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์แห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส  (France's National Centre for Scientific Research) ยืนยันว่า สัตว์โดยเฉพาะที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีความสามารถในการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนหรือคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำจากระยะไกล หรือที่เรียกว่า อัลฟราซาวนด์ นั่นเองค่ะ ดังนั้น เมื่อพวกเขารู้สึกถึงคลื่นความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ทำให้สัตว์พวกนี้หนีเอาตัวรอดได้ในเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวหรือสึนามิ ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมแปลก ๆ ของพวกเขานะคะ อย่างหูกระดกขึ้นเพื่อรับรู้คลื่นเสียให้ได้ชัดเจนที่สุด ดูตื่นตัว กระวนกระวาย ไม่สามารถยืนอยู่กับที่ได้ บางตัวร้องครางหงิง ๆ หรือ เห่าหอนไม่หยุด ถ้าใครอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีโอกาสเสี่ยงแผ่นดินไหว ดินถล่ม หรือ สึนามิ การสังเกตน้องหมา คอยตื่นตัวและเชค ข่าวสารก็จะช่วยในการลดการสูญเสียแก่ชีวิตได้ค่ะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ เชื่อหรือไม่ว่า "สุนัข" สามารถเตือนภัยธรรมชาติได้ ค่ะ)

 

 

 

 

  นอกจากสัญชาตญาณแบบของหมา ๆ ที่เราก็พอรู้ว่าแตกต่างแต่ก็เข้าไม่ถึงสัญชาตญาณของพวกเขาแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่เราก็รู้โดยทั่วกันค่ะว่า น้องหมาประสาทการรับรู้ตา หู จมูก ที่เหนือคนเรามากว่าโดยแต่ละประสาทสัมผัสสามารถช่วยในการเตือนภัยและกู้ภัยได้ดังนี้นะคะ 

 

     จมูก ... ประสาทการดมกลิ่น  พื้นที่การดมกลิ่นในจมูกของคนเรามีประมาณ 3-5 ตารางเซนติเมตร ในขณะนี้น้องหมามีพื้นที่เฉลี่ยแล้วมีถึง 130 ตร. ซม. เลยทีเดียว นอกจากนี้ มนุษย์มีเส้นประสาทสำหรับการดมกลิ้นเพียง 5 ล้านเซล แต่น้องหมามีถึง 100 ล้าน -  220 ล้านเซล เรียกได้ว่ากลิ่นจางๆ ของเราอาจเป็นกลิ่นที่ฉุนกึกสำหรับน้องหมา ซึ่งความสามารถของพวกเขาในส่วนนี้เองที่สามารถนำมาใช้ในการช่วยเหลือกู้ภัยเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต หรือ ผู้เสียชีวิตได้จากภัยพิบีติค่ะ

 

      หู ... ประสาทการได้ยิน น้องหมาสามารถได้ยินเสียงได้ไกลว่าคนถึง 4 เท่า รับรู้ความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ และมากกว่า 20,000 เฮิรตซ์ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงสามารถได้ยิน หรือรับรู้ความคลื่นไหวสั่นสะเทือน หรือ เสียงที่คนเราไม่ได้ยิน นี่คือความสามารถพิเศษในการช่วยเตือนภัยก่อนเกิดภัยพิบัติ และ ช่วยเหลือคนที่ยังมีอยู่ชีวิตอยู่จากภัยพิบัติ แม่เสียงที่เบา อ่อนแรง เสียงขยับตัวใต้ซากปรักหักพัง น้องหมาก็สามารถรับรู้ได้ค่ะ 

 

      ตา ... ประสาทการมองเห็น  ถึงน้องหมาจะมองเห็นสีได้เพียงไม่กี่สี สายตาก็พร่าเบลอไม่ชัดเจน แต่พวกเขามีความสามารถในการจับความเคลื่อนไหวได้ทั้งระยะใกล้และไกลได้ไวมากๆ เหมือนแค่มีอะไรผ่านไกลๆ ก็จะตื่นตัวได้นทันที นอกจากนี้พวกเขามีความสามารถในการมองเห็นในที่มืด เพราะ พวกเขามีเซลล์รูปแท่ง (Rods) ซึ่งเป็นเซลล์รับแสงที่มีความไวต่อแสง ทำหน้าที่ช่วยในการมองเห็นในที่มืดมากกว่าคน จึงทำให้น้องหมามีความสามารถในการมองเห็นในที่มืดได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยเหลือในการค้นหาเวลากลางคืนได้ไม่มีพลาดเลยล่ะค่ะ (อ่านเพิ่มเติมความแตกต่างส่วนอื่นๆ ได้ที่บทความ 5 สิ่งสุนัข แตกต่างจากมนุษย์ http://www.dogilike.com/content/tip/770/)

 

 

 

     แล้วด้วยความสามารถที่เหนือกว่ามนุษย์และเครื่องจักรกล หรือ แม้เทคโลยีขั้นสูงก็สู้ไม่ได้นี้เอง น้องหมาจึงเป็นเครื่องมือมีชีวิตที่สามารถช่วยเหลือมนุษยชาติเมื่อเกิดภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาดมากที่สุด ซึ่นอกจากความสามารถที่เหนือกว่าในการช่วยเหลือมนุษยชาติได้แล้ว พวกเขายังมีจิตใจที่งดงามสร้างรอยยิ้มและมอบความรัก ปลอบประโลมความโศกเศร้าให้แก่ผู้ประสบภัยได้อีกด้วย

Pray for Nepal -/\-

 

บทความโดย : Dogilike.com

http://www.dogilike.com/

 

ข้อมูลอ้างอิง :
 

http://bigstory.ap.org/article/bd6639eae64d49dfb86f70b092d61c95/no-time-lose-global-response-nepal-quake-gears

http://www.voanews.com/content/elite-us-search-team-to-join-nepal-quake-rescue-efforts/2735065.html

http://news.yahoo.com/nepal-earthquake-live-report-011920453.html

http://www.dailynews.co.th/foreign/317017

http://www.thairath.co.th/content/495283

http://www.pri.org/stories/2015-04-25/devastating-earthquake-leaves-more-thousand-dead-and-rising-nepal

 

ภาพประกอบ:
 

earthquake-report.com

http://bigstory.ap.org/article/bd6639eae64d49dfb86f70b092d61c95/no-time-lose-global-response-nepal-quake-gears

http://www.voanews.com/content/elite-us-search-team-to-join-nepal-quake-rescue-efforts/2735065.html

http://news.yahoo.com/nepal-earthquake-live-report-011920453.html

https://twitter.com/theOFDA/status/592358096544096258

earthquake-report.com

www.pri.org
agnesngoy.blogspot.com

www.dogster.com