ว่ากันด้วยเรื่องความรักที่เรามีให้ต่อน้องหมา บางคนรักเสมือนแค่สัตว์เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน บางคนเลี้ยงเสมือนเพื่อน และบางคนเลี้ยงเท่าเทียมกับสมาชิกหนึ่งในครอบครัว แต่เมื่อใดก็ตามที่เราก้าวออกจากบ้าน โลกของน้องหมาจะไม่ได้มีเพียงแค่เราอีกต่อไป แต่ยังมีคนอื่น ๆ ในสังคมรวมอยู่ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ... คนที่ไม่ได้รักและไม่ได้เลี้ยงน้องหมานั่นเองค่ะ ... หรือแม้กระทั่งคนเลี้ยงน้องหมาก็ใช่ว่าพวกเขาจะจะมีวิธีเลี้ยงเหมือนกับเรา ด้วยเหตุนี้เอง ทุกการกระทำของเราและน้องหมาจึงเป็นเสมือนกระจกสะท้อนถึงการเลี้ยงดูและวินัยที่เรามีให้ต่อน้องหมา

     มาดูกันค่ะว่า มีพฤติกรรมอะไรบ้างที่คนเลี้ยงน้องหมาทำแล้ว คนอื่นมักรับไม่ได้ เพื่อที่เราจะกลับมาเช็กและมองตัวเองใหม่ พร้อม ๆ กับทำความเข้าใจผู้ที่ไม่ได้ชื่นชอบน้องหมาเหมือนกับเรา เพราะบางครั้งเราอาจเผลอมองข้ามไปโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ค่ะ ^^ 

 

2. กินอาหารร่วมโต๊ะกับน้องหมา

 

     ถึงตามโรงแรมและร้านอาหารหลายร้านจะเปิดโอกาสให้คนเลี้ยงน้องหมาพาน้องหมาเข้ามาได้ แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ชอบให้น้องหมาเข้ามาใช้บริการร่วมกับเขา เพราะฉะนั้นนะคะ ผู้เลี้ยงควรนึกถึงผู้อื่นด้วยเช่นกัน ไม่ปล่อยให้น้องหมาเดินไปมาได้อย่างอิสระ ควรให้น้องหมาอยู่ภายใต้การควบคุมของสายจูงบริเวณใต้โต๊ะ หรือ ในรถเข็น หรือในกรณีที่พาน้องหมาเข้าไปในร้านอาหารที่อนุญาตให้น้องหมาเข้าไปได้ ก็ไม่ควรให้น้องหมานั่งร่วมโต๊ะ หรือ หยิบอาหารจากบนโต๊ะป้อนอาหารให้น้องหมานะคะ เพราะนอกจากผู้อื่นจะมองว่าดูไม่ดี ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะแล้ว พฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นการแสดงถึงการขาดวินัยในการเลี้ยงดูอาจส่งผลให้น้องหมาไม่รู้จักกฏระเบียบ แสดงอำนาจเหนือผู้เลี้ยงอีกด้วยค่ะ  (แต่ถ้าสนใจพาน้องหมากินอาหารด้วยแบบสบายใจ แนะนำให้พาน้องหมาไปร้านคาเฟ่ต์สำหรับผู้เลี้ยงและคนรักน้องหมาโดยเฉพาะดีกว่าค่ะ สนุกสนานรื่นเริงสุด ๆ ไปเลย)

 

     เวลาอยู่ในบริเวณบ้าน น้องหมาบางตัวค่อนข้างเชื่องไม่จำเป็นต้องใส่สายจูงก็สามารถรู้ที่รู้ทาง เดินตามเจ้าของไม่ห่างไปไหน ผู้เลี้ยงจึงค่อนข้างมั่นใจว่าน้องหมาเชื่อฟังคำสั่ง สามารถควบคุมตัวเองได้เมื่อยู่ในที่สาธารณะ แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อพวกเขาต้องเดินอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่คุ้นเคย มีสิ่งต่าง ๆ ที่รบกวนสมาธิและดึงดูดใจ อาจมีปัญหาในการควบคุมตัวเอง จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อน้องหมาได้ค่ะ ส่วนคนที่ไม่ชอบน้องหมา เมื่อเห็นน้องหมาที่มีเจ้าของแต่ไม่ใส่สายจูง พวกเขาก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ แม้เจ้าของจะบอกว่าน้องหมาใจดีไม่กัดก็ตาม เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นป้องกันผู้เลี้ยงควรใส่สายจูงสักนิดเพื่อความสบายใจและปลอดภัยทั้งน้องหมาและคนอื่นนะคะ ^^ และที่สำคัญการใส่สายจูงให้น้องหมายังเป็นการสร้างเงื่อนไขและสร้างวินัยให้น้องหมารู้ว่า พกวเขาจะเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ถ้าหากไม่ใส่สายจูงค่ะ

 

5. อุ้มหรือจูงน้องหมาเบียดเสียดกับคนอื่น ๆ

 

     เวลาเราผู้เลี้ยงน้องหมาพาน้อง ๆ ไปเดินเล่นตามตลาดแออัด (ไม่นับงานแฟร์สัตว์เลี้ยงนะคะ) ก็อาจต้องระมัดระวังสักนิดหนึ่ง เพราะคนที่เราเดินสวนทางไปมาอาจจะไม่ใช่คนรักน้องหมาเหมือนอย่างเรา เขาอาจจะรู้สึกไม่ดีกับการที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับน้องหมามากจนเกินไป และอาจจะซีเรียสเรื่องของความสะอาด (ซึ่งไม่ใช่ความผิดของเขานะคะ เพราะเขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนี้ได้) เช่น ขนน้องหมาที่ปลิวในอากาศอาจตกลงในอาหารที่ขายข้างทาง หรือตัวน้องมามาสัมผัสตัว บางคนอุ้มน้องหมาซื้อของซื้อกับข้าวน้ำลายน้องหมาหยดหรือกระเด็นใส่อาหารสิ่งของได้ เป็นต้นค่ะ ดังนั้นนะคะ ก่อนตัดสินใจพาน้องหมาเดินเที่ยวเล่น อาจหาช่วงวันที่คนไม่มาก หรือพาไปสถานที่สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ อีกทั้งผู้เลี้ยงควรระมัดระวังขนหรือน้ำลายน้องหมาที่อาจสร้างความไม่พอใจให้ผู้อื่นได้ค่ะ ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูค่ะ ถ้าเกิดมีคนชอบงูพางูมาเดินเล่นตลาดก็กรี๊ดวงแตกได้เหมือนกันใช่ไหมคะ 

 

 

6. ปล่อยให้น้องหมาขับถ่ายบนทางเดินหรือหน้าบ้านคนอื่นแล้วไม่เก็บ

 

     การเก็บมูลน้องหมาเป็นเรื่องของความรับผิดชอบต่อสัมคมโดยตรงเลยนะคะ คนที่พบเห็นส่วนใหญ่จะไม่โทษน้องหมาแต่จะโทษคนเลี้ยงแบบเต็ม ๆ ผู้เลี้ยงจึงควรเตรียมถุงพลาสติกและกระดาษทิชชูติดตัวไปด้วยทุกครั้งที่พาน้องหมาออกนอกบ้าน คอยเก็บทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายพยาธิปากขอที่อาจติดมากับมูลน้องหมาเผื่อมีใครเดินเหยียบเข้าค่ะ แล้วเพื่อเป็นการป้องกันพยาธิที่อาจติดมากับมูลน้องหมาได้ ผู้เลี้ยงควรถ่ายพยาธิน้องหมาทุก  2 เดือนนะคะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ เคลียร์ให้ชัด!! พยาธิจากอึน้องหมาไชผิวหนังคนได้จริงหรือ)

 

 

7. ไม่สามารถห้ามน้องหมาไม่ให้เห่าได้

     ถึงแม้คนรักน้องหมา ถ้าได้ยินเสียงน้องหมาเห่าก็รู้สึกหงุดหงิดได้เช่นกันนะคะ เพราะถือว่าเป็นมลพิษทางเสียงค่ะ ผู้เลี้ยงจึจำเป็นต้องเรียนรู้การฝึกน้องหมาให้หยุดเห่าและไม่ให้เห่าพร่ำเพรื่อ (อ่านเพิ่มเติมบทความ การปัญหาน้องหมาเห่าพร่ำเพรื่อ ค่ะ) ไม่ควรใช้ข้ออ้างว่า น้องหมาฟังภาษาเราไม่รู้เรื่องเลยปล่อย ๆ ไปนะคะ ควรฝึกเร่งฝึกน้องหมาและหาวิธีจัดการ ก่อนที่น้องหมาของเราจะกลายเป็นตัวปัญหาของสังคมได้ค่ะ

8. แสดงความรักโดยการให้น้องหมาเลียปาก

 

     การให้น้องหมาเลียปากหากมองเป็นความรัก ก็ดูน่ารัก น่าเอ็นดู แต่ถ้ามองว่าเป็นเรื่องของความสะอาด หลายคนอาจรู้สึกงตะขิดตะขวงใจมองว่าปากน้องหมาน่าจะมีเชื้อโรคแล้วเกิดรังเกียจเราขึ้นมา อย่างเช่น ถ้าเราพาน้องหมาไปเจอเพื่อน แล้วปล่อยให้น้องหมาเลียปาก แล้วเราก็หันไปคุยกับเพื่อน จากนั้น ค่อยไปหาอะไรกินต่อ ... พอเห็นแบบนี้แล้วเพื่อนของเราก็มีสิทธิ์ที่เขาจะรู้สึกไม่สบายใจที่จะกินอาหารร่วมกับเราก็ได้ค่ะ ซึ่งหากจะพูดกันไปตามความจริงแล้วในแต่ละวันน้องหมาอาจเลียสิ่งสกปรกมามากมาย ดังนั้นผู้เลี้ยงเองก็ไม่ควรปล่อยให้น้องหมาเลียปากตามอำเภอใจ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้น้องหมามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแล้ว เชื้อโรคบางอย่างในช่องปากน้องหมาก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของเราได้ค่ะ วิธีที่ดีที่สุดคือ ไม่ควรปล่อยให้น้องหมาเลียปากผู้เลี้ยงและควรดูแลรักษาความสะอาดช่องปากของพวกเขาเป็นประจำด้วยนนะคะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ สัตวแพทย์เตือน! เจ้าของชอบจูบหมาระวังฟันร่วง ค่ะ)

 

 

 

9. ไม่สามารถควบคุมน้องหมาได้ แล้วมักบอกกับคนอื่นว่า “ไม่เป็นไร น้องหมาไม่กัด”

 

     คำให้การของคนที่ไม่ชอบน้องหมาหลายคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันค่ะว่า นี่คือพฤติกรรมของคนเลี้ยงน้องหมา ที่พวกเขารู้สึก "ไม่โอเคแบบสุด ๆ " ... ลองเปรียบว่าเราไม่ชอบสัตว์อะไรสักอย่างเช่น งู แล้วมีงูมาเลื้อยที่ขาเรา แล้วเจ้าของงูบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ งูไม่ฉก ถึงฉกก็ไม่มีพิษค่ะ ... ความรู้สึกของคนที่ไม่ชอบน้องหมาก็น่าจะคล้าย ๆ กันค่ะ ผู้เลี้ยงจึงควรฝึกน้องหมาให้ควบคุมตัวเองให้ได้เป็นอย่างดีก่อนที่จะพาน้องหมาออกไปเดินเล่นในที่สาธารณะ ใส่สายจูงทุกครั้ง และเมื่ออยู่ในที่สาธารณะไม่ควรปล่อยให้น้องหมาอยู่ห่างตัวเด็ดขาด เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เห็นว่าน้องหมาของเราน่ารักนะคะ คนที่เขารู้สึกกลัวและไม่ชอบก็มี ดังนั้นเมื่ออยู่ในที่สาธารณะเราจึงควรเคารพสิทธิ์ในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นด้วยค่ะ

 

 

10. ไม่ดูแลเรื่องความสะอาดน้องหมา น้ำลาย ขี้ตา ขนสกปรกเกรอะกรัง

 

     เวลาเราออกจากบ้านก็ต้องอาบน้ำแต่งตัวดูสะอาดสะอ้านใช่ไหมคะ น้องหมาของเราก็เช่นกันค่ะ ถ้าเราปล่อยให้น้องหมาที่มอมแมมออกเดินเล่น ใครเห็นก็รู้สึกไม่อยากที่จะเข้าไปใกล้ถึงจะรักน้องหมามากก็ตาม ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เลี้ยงจึงควรดูแลความสะอาดของน้องหมาเป็นประจำ อาจไม่ต้องอาบน้ำก่อนออกจากบ้านทุกครั้งแต่ก็ควรดูแลไม่ปล่อยให้มีกลิ่นเหม็น มีคราบสกปรก คราบน้ำลายเลอะเทอะ ขนพันกันเป็นสังกะตัง ขี้ตาเกรอะกรัง เพียงเท่านี้น้องหมาของเราก็จะดูน่ารัก น่าเข้าใกล้ ใครเห็นก็ชื่นชม ถึงคนไม่เลี้ยงน้องหมาก็ยังเอ็นดูค่ะ

 

11. ใช้ภาชนะ สิ่งของคนร่วมกันกับน้องหมา

      ถึงแม้จะทำความสะอาดภาชนะหลังจากใช้ร่วมกับน้องหมาทุกครั้ง แต่สำหรับคนที่ถือเรื่องนี้ถึงจะเลี้ยงน้องหมาก็รู้สึกไม่สบายใจถ้าต้องใช้ของร่วมกันกับน้องหมาอยู่ดี แล้วยิ่งถ้าต้องอยู่ร่วมกันกับคนที่ไม่ชอบน้องหมา เรายิ่งต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษค่ะ ผู้เลี้ยงจึงควรแยกภาชนะระหว่างคนกับน้องหมาให้ชัดเจน ไม่เผลอใช้สิ่งของร่วมกันน้องหมาแล้วนำมาให้คนอื่นใช้ต่อนะคะ เพราะถึงจะทำความสะอาดแล้วเป็นอย่างดีแต่ก็ไม่สามารถลบความรู้สึกไม่พึงพอใจของผู้ที่ไม่ต้องการใช้ของร่วมกับน้องหมาอยู่ดี เราต้องพยายามเปิดใจ ทำความเข้าใจ และจัดระเบียบการใช้สิ่งของน่าจะเป็นทางหนทางที่ดีที่สุดค่ะ    

 

12. พาสุนัขโดยสารยานพาหนะสาธารณะ 

    
     การพาน้องหมาขึ้นโดยสารพาหนะสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถประจำทาง รถไฟฟ้า เรือ รถตู้ หรือ แท็กซี่ เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ควรตรวจสอบก่อนว่ามีกฏระเบียบว่าสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นโดยได้หรือไม่ ถ้าไม่อนุญาตก็ควรปฏิบัติตามกฏ ไม่ควรแอบซ่อนน้องหมา ส่วนยานพาหานะที่สามารถพาน้องหมาขึ้นโดยสารได้ เช่น รถประจำทางพัดลมก็ควรจำกัดพื้นที่น้องหมาให้อยู่ภายในกระเป๋า ส่วนในแท็กซี่ ถึงจะมีเพียงเราเป็นผู้โดยสารคนเดียวก็ควรสอบถามคนขับแท็กซี่ก่อนว่า ถ้ามีน้องหมาขึ้นรถไปด้วยได้หรือไม่ กรณีที่สามารถขึ้นไปได้ ก็ควรจำกัดพื้นที่น้องหมาให้อยู่ภายในกระเป๋าเช่นกัน เพื่อง่ายต่อการควบคุมน้องหมาและรักษาความสะอาด ถูกสุขลักษณะอนามัยเคารพกฏของการอยู่ร่วมกันในสังคมค่ะ

     ทุกคนในสังคมต้องอยู่ร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การใส่ใจความรู้สึกของกันและกันก็เป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมที่จะต้องช่วยกันดูแล ถ้าเราดูแลพฤติกรรมของน้องหมาดี เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ คนอื่น ๆ ก็จะมองว่าน้องหมาเราน่ารัก น่าเอ็นดู ก็จะมีการเปิดพื้นที่ให้แก่น้องหมาในสังคมมากขึ้นการทำร้าย การดูแคลนน้องหมาก็อาจจะลดลงตามไปด้วยนั่นเองค่ะ ... ถึงเวลาแล้วที่พวกเราคนรักน้องหมาจะมาเริ่มต้นการเลี้ยงที่รับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อม ๆ กันนะคะ เย่ๆ ^___^

 

บทความโดย : Dogilike.com

http://www.dogilike.com/

 

ข้อมูลอ้างอิง :

http://www.pawmanefin.com/21_Destructive_Habits_of_Horrible_Pet_Owners

http://healthypets.mercola.com/sites/healthypets/archive/2014/11/22/pet-behavior-problem.aspx

 

ภาพประกอบ :

www.canineobedienceunlimited.com

www.huffingtonpost.com

www.sfgate.com

www.straitstimes.com

www.midweekherald.co.uk

dogwalkingbehaviortraining.com

blockaday.com

www.personal.psu.edu

megalawlz.com

bunkblog.net

3milliondogs.com

www.pressherald.com

gawker.com