ถ้าให้กล่าวถึงสุนัขที่ผู้คนต่างรู้จักและยังคงระลึกถึงอยู่เสมอแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ตาม ฮาจิโกะก็ยังเป็นหนึ่งสุนัขที่ยังอยู่ในใจของพวกเราเสมอ เรื่องราวของฮาจิโกะนั้นไม่ได้มีแค่ที่สถานีรถไฟชิบุยะ เพราะวันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปยังเมืองโอดาเตะ ซึ่งที่นี่ก็มีรูปปั้นของเจ้าฮาจิโกะอยู่ด้วยเช่นกัน เพราะเมืองนี้เป็นบ้านเกิดของเจ้าฮาจิโกะนั่นเอง

 

 

     ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว ศาตราจารย์อูเอโนะ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว กำลังเสาะหาลูกสุนัขสักตัวมาเลี้ยง แล้วเขาก็สนใจสุนัขพันธุ์อะคิตะจากเมืองโอดาเตะ ซึ่งเป็นสุนัขขนฟูสีขาว เขาซื้อมันมาในราคา 30 เยน ซึ่งถ้าเทียบกับเงินเดือนคนในสมัยนั้นแล้ว ก็นับว่ามากโขเลยทีเดียว แต่นั่นคงไม่มากเกินความตั้งใจที่เขาอยากจะมีสุนัขที่ดี ๆ สักตัวมาเลี้ยง แล้วฮาจิโกะเองก็ไม่ทำให้เจ้านายของมันผิดหวังเช่นกัน

 

 

 

     ฮาจิโกะ โด่งดังจากเรื่องราวที่มาเฝ้ารอเจ้าของที่เสียชีวิตไปแล้วทุกวันที่สถานีรถไฟชิบุยะ เป็นระยะเวลาถึง 10 ปี รอแม้จะไม่ได้มีวันที่จะได้พบเจ้านายจนกระทั่งมันเสียชีวิตไป ซึ่งเพื่อน ๆ ก็คงจะได้ทราบเรื่องราวของฮาจิโกะกันเป็นอย่างดีกันอยู่แล้ว ปัจจุบันที่สถานีรถไฟชิบุยะยังมีรูปปั้นของเจ้าฮาจิโกะเอาไว้เป็นที่รำลึกถึงสุนัขผู้ซื่อสัตย์ตัวนี้ ซึ่งใครไปถึงญี่ปุ่นก็ต้องขอไปถ่ายรูปและพบเจอกับฮาจิโกะให้ได้สักครั้ง โดยเฉพาะคนรักสุนัขอย่างพวกเรา แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า นอกจากที่สถานีรถไฟชิบุยะแล้ว ยังมีอีกหลายสถานที่ที่มีรูปปั้นเจ้าฮาจิโกะอยู่ด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือที่เมืองโอดาเตะบ้านเกิดของมันนั่นเอง

 

 

 

   


    เมืองโอดาเตะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดอะกิตะใกล้ ๆ กับเมืองอาโอโมริ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือราวประมาณ 600 กิโลเมตร เมืองนี้โด่งดังเนื่องจากเป็นบ้านเกิดของสุนัขพันธุ์อะคิตะ  ซึ่งปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางธรรมชาติของญี่ปุ่นไปแล้ว ในอดีตนั้นสุนัขพันธุ์นี้้เคยถูกเรียกว่าพันธุ์โอดาเตะ แต่เมื่อโด่งดังจึงเปลี่ยนชื่อมาเรียกเป็นพันธุ์อะคิตะเพื่อเป็นเกียรติให้กับจังหวัดอะกิตะนั่นเอง
 

     เมื่อมาถึงเมืองนี้คนรักสุนัขคงจะหัวใจพองโตเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเจอสุนัขพันธุ์อะคิตะเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสุนัขตัวจริง รูปปั้น ป้ายต่าง ๆ ฝาท่อระบายน้ำ แม้กระทั่งรถโดยสารก็ทำเป็นลายสุนัขพันธุ์อะคิตะ และแน่นอนว่าต้องมีเจ้าฮาจิโกะอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน บทความตอนนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว 3 สถานที่สำคัญ ซึ่งคนรักสุนัขจะต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนยังเมืองโอดาเตะ

 

 

 

 

 

 

 

     หากใครเดินทางด้วยรถไฟ เราก็จะต้องมาลงยังสถานีโอดาเตะนี้ก่อน ผมจึงจัดให้ที่นี่เป็นประตูสู่เมืองโอดาเตะ  ซึ่งแม้จะเป็นสถานีรถไฟเล็ก ๆ แต่ก็มีความไม่ธรรมดาเลย เพราะแค่ก้าวเท้าออกมาจากขบวนรถไฟ เราก็จะเจอกับสัญลักษณ์ต่าง ๆ มากมายที่เกี่ยวกับสุนัข ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น ภาพวาด ภาพถ่าย หรือป้ายต่าง ๆ ที่จะมีแต่รูปสุนัขพันธุ์อะคิตะอยู่เต็มไปหมด ตรงชานชาลาเราจะพบกับศาลเจ้าฮาจิโกะด้วย ซึ่งทำเป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่มีรูปปั้นฮาจิโกะอยู่ ตรงข้างหน้ารูปปั้นจะมีกล่องรับเงินทำบุญอยู่ เพียงแค่เราหยอดเงินทำบุญแล้วก็จะมีเสียงเห่าของฮาจิโกะเป็นการขอบคุณด้วย พอเดินออกมาข้างหน้าสถานีรถไฟก็จะเจอรูปปั้นสุนัขพันธุ์อะคิตะอยู่ หนึ่งในนั้นเป็นรูปปั้นของฮาจิโกะด้วย คล้าย ๆ กับรูปปั้นฮาจิโกะที่สถานีรถไฟชิบุยะ รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1964 เป็นรูปปั้นของฮาจิโกะสมัยตอนวัยรุ่น ต่อมาได้ถูกบูรณะอีกครั้งและทำพิธีเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1987 ชาวเมืองนี้จึงถือว่าสุนัขพันธุ์อะคิตะเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เพราะโอดาเตะเป็นบ้านเกิดของสุนัขพันธุ์นี้ และฮาจิโกะสุนัขที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นก็เกิดที่เมืองนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้สถานีรถไฟโอดาเตะยังมีร้านขายของฝากและของที่ระลึกด้วย ซึ่งแต่นอนว่าของที่ขายส่วนใหญ่ก็จะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์อะคิตะ เช่น ขนม ตุ๊กตา ตลอดจนสินค้าท้องถิ่น และหากใครจะไปที่อื่นต่อ แถว ๆ ที่สถานีรถไฟก็มีจักรยานให้ยืมปั่นด้วยนะ ซึ่งสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

 

 

 

     จากสถานีรถไฟโอดาเตะ เดินทางตาม Google maps ให้เราข้ามแม่น้ำนากากิ ซึ่งเป็นแม่น้ำประจำเมืองโอดาเตะ เดินทางมาระยะทางราว ๆ 2 กิโลเมตร ไม่ใกล้ไม่ไกลก็จะเจอกับอีกสถานที่หนึ่งที่คนรักหมาต้องไม่พลาด นั่นคือ พิพิธภัณฑ์สุนัขอะคิตะ นั่นเอง ที่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ก็จะมีรูปปั้นฮาจิโกะอยู่ ตัวจริงต้องมีหูข้างซ้ายพับ เพราะถูกกัดมา ทำให้เราไม่พลาดหลงทางอย่างแน่นอน ข้าง ๆ มีสะพานสีแดงสำหรับข้ามไปยังสวนสาธารณะชื่อว่า ฮาจิโกะ โดยอย่างที่บอกว่าเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์อะคิตะ สมาคมเพื่อการอนุรักษ์สุนัขพันธุ์อะคิตะจึงได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมาในวันครบรอบ 50 ปีวันก่อตั้งสมาคม เพื่อเป็นเกียรติให้กับสุนัขที่เป็นสมบัติทางธรรมชาติของประเทศและเป็นที่ระลึกถึงเจ้าฮาจิโกะสุนัขที่มีบ้านเกิดที่เมืองโอดาเตะ ค่าเข้าชมก็ไม่แพงเลย เพียงแค่ 200 เยน (ประมาณ 60 บาท) สำหรับผู้ใหญ่ และ 100 เยน (ประมาณ 30 บาท) สำหรับเด็ก จากนั้นเดินขึ้นมายังชั้น 3 ของอาคารเพื่อมายังส่วนจัดแสดง

 

 

 

     พิพิธภัณธ์สุนัขอะคิตะแห่งโอดาเตะ เป็นสถานที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์อะคิตะในทุกแง่มุม รวมถึงแสดงประวัติ รูปภาพหายาก และของที่ระลึกสำคัญของเจ้าฮาจิโกะด้วย ซึ่งสุนัขพันธุ์อะคิตะเป็นสุนัขที่บรรพบุรุษชาวญี่ปุ่นใช้สำหรับช่วยล่าสัตว์พวกกวางหรือหมี เพื่อเอาเนื้อมาบริโภคและเอาหนังมาทำเครื่องนุ่งห่มสำหรับฤดูหนาว เนื่องจากอะคิตะเป็นสุนัขตัวใหญ่ที่มีพละกำลังมาก รวมถึงมีความซื่อสัตย์และเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายเป็นที่สุด จึงเหมาะมากสำหรับช่วยงานเช่นนี้ อีกทั้งอะคิตะเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่า ทำให้มันเป็นที่รักของชาวญี่ปุ่นหลาย ๆ คนที่ชอบในความสงบและนิ่งโดยเหมือนธรรมชาติและวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น และทุก ๆ วันที่  3 พฤษภาคมของทุกปี จะมีการจัดประกวดสุนัขพันธุ์อะคิตะ ซึ่งจะมีสุนัขพันธุ์อะคิตะมากกว่า 200 ตัวมารวมตัวกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. สามารถเยี่ยมชมเว็บไซด์และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ครับ

 

 

 

 

 

 

     สถานที่แห่งนี้มิตรรักแฟนคลับฮาจิโกะควรต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง เพราะเป็นสถานที่จริง ๆ ที่ฮาจิโกะเกิดเลย เรียกว่าร้องอุแว้อุแว้กันตรงนี้ ก่อนที่ศาตราจารย์อุเอโนะจะรับเจ้าฮาจิโกะไปเลี้ยงต่อที่กรุงโตเกียว ปัจจุบันเป็นบ้านของคุณไซโตะ หน้าบ้านมีรูปปั้นของฮาจิโกะอยู่ รวมถึงแผ่นป้ายที่ระลึกจารึกถึงเจ้าฮาจิโกะว่าได้ถือกำเนิดในสถานที่แห่งนี้เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว คือ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 ตัวบ้านเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ อันแสนอบอุ่นตามประสาบ้านชนบทของญี่ปุ่นที่อยู่นอกเมืองโอดาเตะ ห่างจากสถานีรถไฟโอดาเตะราวประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งนอกบ้านจะมีป้ายบอกเป็นภาษาอังกฤษอยู่ว่า Hachiko's birth place เพื่อน ๆ สามารถมาชมสถานที่ภายนอกบ้านและถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นหินเจ้าฮาจิโกะเป็นที่ระลึกได้ โดยวิธีไปค้นหาสถานที่ได้จากคำว่า "ハチ公 生家（斎藤家)" ในเว็บไซต์ google maps ซึ่งจะบอกเส้นทางมายังที่นี่ มาได้ไม่ยากเลยครับ

 

 

 

 

     และทั้งหมดนี้ก็เป็นสถานที่สำคัญแห่งเมืองโอดาเตะบ้านเกิดของเจ้าฮาจิโกะ สุนัขซื่อสัตย์ที่ยังอยู่ในใจเราเสมอ ใครมีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็อย่าลืมไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ได้ ซึ่งเมืองโอดาเตะนั้นเป็นเมืองที่เงียบสงบและมีอากาศบริสุทธิ์สดชื่น หากใครได้มาช่วงฤดูหนาวก็จะได้เห็นหิมะกันด้วยนะ เพราะอยู่ใกล้ ๆ กับจังหวัดอาโอโมริเลย ซึ่งเมืองโอดาเตะก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่คนรักสุนัขทุกคนควรมากันนะครับ 

 

 

 

 

บทความโดย : Dogilike

www.dogilike.com

 

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก :

รูปภาพประกอบ :

http://toyokeizai.net/mwimgs/0/f/1140/img_0f73142483efb9a6edbf4dcf701ce717338809.jpg
http://tadaimajp.com/wp-content/themes/tadaimajp2016_en/assets/images/localtrip/002/bg_map.png

http://4.bp.blogspot.com/-_6783-u4SYM/T3RRXYySxPI/AAAAAAAACr8/ooYBtJHVZZo/s1600/2012-03-28+Akita+Inu.jpg

http://lh3.googleusercontent.com/-0AMA7LKsiYU/Va0IoMrKWyI/AAAAAAABEXE/2wYDJBOzSzA/hachiko-6%25255B2%25255D.jpg?imgmax=800
http://www.city.odate.akita.jp/dcity/kankou/files/seitansai.jpg

http://www.houseofflameandglass.com/livingroom/japan2006/imgp0987-odate-hachikojinja.jpg

https://pop-japan.com/uploads/destination/2016/AkitaDogMuseum_0ebn1cwque1ctbpyf5e8pwd9ro9hjgx2hreqr27tp9vpfzqjgi.jpg

http://letsmofumofuakita.jp/en/files/libs/722/s/201610281604265506.JPG?1477973540

http://letsmofumofuakita.jp/en/files/libs/721/s/201610281601418095.jpg?1477973538

https://cdn.odigo.net/6cc099a1722f66654f2e179e1e52f9e0.jpg?imageView2/2/w/1440/interlace/1

https://media-cdn.tripadvisor.com/media/photo-s/0c/c4/ea/51/the-history-of-akita.jpg

https://a0.cdn.japantravel.com/photo/36164-167226/800/akita-a-healing-trip-in-akita-167226.jpg

https://info.nihon-kankou.or.jp/dbmente/info/photo/L/05/204/05204aj2200145325001.jpg

http://static.panoramio.com/photos/large/80043741.jpg

https://cdn9.littlethings.com/app/uploads/2015/07/3b1.jpg