อนุสาวรีย์ เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างไว้เป็นเพื่อระลึกถึงบุคคลหรือเหตุการณ์สําคัญ นอกจากบุคคลที่เคยสร้างวีรกรรมอันกล้าหาญไว้แล้ว เพื่อน ๆทราบหรือไม่ว่า เจ้าเพื่อนรักสี่ขาของเราก็มีอนุสาวรีย์กับเขาเหมือนกัน! วันนี้ สายป่านจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมอนุเสาวรีย์น้องหมาทั่วโลก และเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาได้รับการยกย่องจนได้มีอนุสาวรีย์เป็นของตัวเอง รัดเข็มขัดให้พร้อม แล้วตามไปตะลุยชมอนุสาวรีย์หมารอบโลกกันค่ะ!

 

     Balto เป็นสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้สีดำ ในปี 1925 มีโรคระบาดเกิดขึ้นที่เมืองโนม ในรัฐอะลาสก้า Balto ได้มีบทบาทในการช่วยผู้คนนับร้อยให้รอดพ้นจากโรคระบาด โดยการนำทีมสุนัขลากเลื่อนวิ่งฝ่าพายุหิมะไปยังเมืองที่อยู่ไกลออกไปกว่า 600 ไมล์ เพื่อนำยารักษากลับมา และสามารถช่วยชีวิตเด็กและผู้คนได้หลายร้อยชีวิต
 

 

     อนุสาวรีย์ของ Balto ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะ เซนทรัล พาร์ค รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของเจ้า Balto และทีมสุนัขลากเลื่อนในเหตุการณ์ครั้งนั้น

     เมื่อปี 1800-1840 Barry der Menschenretter เป็นสุนัขพันธุ์เซนต์ เบอร์นาร์ด ที่ถูกฝึกให้เป็นสุนัขกู้ภัยของศูยน์ดูแลผู้ป่วยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาได้ช่วยผู้ประสบภัยบนภูเขาหิมะไว้ได้มากกว่า 40 ชีวิต และถูกยกย่องให้เป็นสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีตำนานเล่าขานต่อกันมาว่าเขาตายในระหว่างที่ช่วยผู้ประสบภัยคนที่ 41 เพราะผู้ประสบภัยเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นหมาป่าเลยใช้มีดแทงเขาจนตาย 
 

 

     อนุสาวรีย์ของ Barry ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูวีรกรรมและความกล้าหาญของเขา ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะ  Cimetière des Chiens ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

 

     Bob เป็นสุนัขพันธุ์ผสมที่โด่งดังในยุค 80 ในฐานะ สุนัขที่ท่องเที่ยวทั่วออสเตรเลียใต้โดยรถไฟ นาย William Seth Ferry เจ้าของของ Bob เล่าว่าเขาเห็น Bob ครั้งแรกในรถที่บรรทุกสุนัขกว่า 50 ตัว เพื่อส่งตัวไปเป็นสุนัขล่ากระต่าย เขาถูกชะตากับเจ้าหมาพันธุ์ผสมตัวนี้ และซื้อเขามาทันที Bob มักจะตาม Ferry ขึ้นรถไฟไปทำงานเสมอ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Bob ชื่นชอบรถไฟ เมื่อ Ferry ถูกย้ายให้ไปประจำการที่เมืองอื่น เขาจึงปล่อย Bob ทิ้งไว้ที่สถานนีรถไฟ Petersburg โดยมีพนักงานรถไฟคอยดูแล Bob มักจะขึ้นรถไฟไปท่องเที่ยวทั่วออสเตรเลียใต้ และกลับมาที่ Petersburg เป็นประจำทุกวัน เขาเป็นที่รักของพนักงานรถไฟและผู้โดยสารที่พบเห็น ที่นั่งประจำของเขาคือบริเวณโบกี้ขนส่งถ่าน เรียกได้ว่าเขาเป็นสัญลักษณ์ของรถไฟสายออสเตรเลียใต้ในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้
 

 

     อนุสาวรีย์ของ Bob ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความทรงจำตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่  ตั้งอยู่ที่ถนน Main Street เมือง Peterborough และปลอกคอของเขาถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์รถไฟแห่งชาติ ที่เมือง Port Adelaide ประเทศออสเตรเลีย

 

 

     Fala เป็นสุนัขพันธุ์สก็อตทิช เทอร์เรียของประธานาธิบดี Franklin D. Roosevelt ประธานาธิบดีคนที่ 32 ของสหรัฐอเมริกา Roosevelt มักพา Fala ไปด้วยทุกที่ ภาพของเขาที่อุ้ม Fala ไว้ติดตัว ได้กลายมาเป็นภาพที่คุ้นเคยของประชาชนและสื่อมวลชนในสมัยนั้น Fala นั้นเป็นสุนัขประจำทำเนียบขาวที่โด่งดังที่สุดตัวหนึ่ง เพราะเขาแสนรู้และสามารถเล่นทริคต่าง ๆ ได้ สื่อมวลชน และตัวประธานาธิบดี Roosevelt เองก็พูดถึง Fala ออกสื่ออยู่บ่อยครั้ง
 

 

     หลังจากประธานาธิบดี Roosevelt ได้เสียชีวิตไปได้ 7 ปี Fala ก็ได้เสียชีวิตตามไป ร่างของเขาถูกฝังไว้ข้าง ๆ ร่างของประธานาธิบดี และอนุสาวรีย์ของประธานาธิบดี Roosevelt และ Fala ก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นที่รัฐวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรำลึกถึงทั้งคู่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในทำเนียบขาวนั่นเอง

 

     Gelert เป็นสุนัขที่อาศัยอยู่ในเมือง Beddgelert ประเทศเวลส์ เขาเป็นสุนัขของเจ้าชาย Llywelyn ตำนานเล่าว่า วันหนึ่ง เจ้าชาย Llywelyn กลับมาจากการล่าสัตว์ และพบว่าลูกน้อยของตนหายตัวไป อีกทั้งยังพบข้าวของกระจัดกระจาย เปลเด็กล้มระเนระนาด และ Gelert สุนัขของเขายืนอยู่ในห้องพร้อมคราบเลือดบริเวณปาก เจ้าชายจึงคิดว่า Gelert ได้ฆ่าลูกน้อยของเขาไป เขาจึงใช้ดาบฟัน Gelert จนถึงแก่ชีวิต หลังจาก Gelert เสียชีวิตลง เจ้าชายพลันได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ดังมาจากใต้เปล เมื่อเข้าไปตรวจสอบ เจ้าชายก็ได้พบลูกน้อยของเขานอนอยู่ตรงนั้น ไร้ซึ่งบาดแผลใด ๆ ข้าง ๆ ตัวเด็กน้อยมีหมาป่าตัวหนึ่งนอนตายอยู่ เจ้าชายจึงรู้ทันทีว่าตนเข้าใจผิด  แท้จริงแล้ว Gelert ปกป้องทารกเอาไว้ และคราบเลือดบนปากเขาก็คือเลือดของหมาป่าที่ตั้งใจจะมาทำร้ายทารกนั่นเอง เจ้าชายฝังร่างของ Gelert ด้วยความเศร้าสลดใจ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เจ้าชายก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย
 

 

     อนุสาวรีย์ของ Gelert ตั้งอยู่ที่สุสานของเขา ในเมือง Beddgelert ประเทศเวลส์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของเขา

 

     Smoky สุนัขพันธุ์ ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย เป็นสุนัขสงครามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตัวเล็กที่สุดในโลก เขาหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น Smoky เป็นสุนัขของนายทหาร William A. Wynne เขาได้พามันร่วมรบด้วยโดยการพกมันไว้ในกระเป๋า ถึงแม้จะไม่ใช่สุนัขสงครามอย่างเป็นทางการ แต่ Smoky ก็ทรหด อดทน และไม่เคยเจ็บป่วยเลย อีกทั้งยังเคยกระโดดลงจากเครื่องบินที่สูงกว่า 9.1 เมตร โดยร่มชูชีพที่สั่งทำมาเป็นพิเศษเพื่อเขาโดยเฉพาะ ในสงคราม Smoky ช่วย Wynne เตือนภัยเมื่อได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงของศัตรู อีกทั้งยังช่วยนำทาง Wynne ไปยังที่ปลอดภัย ช่วยให้ Wynne รอดพ้นจากอันตรายมาได้หลายต่อหลายครั้ง และยังเป็นขวัญกำลังใจและช่วยให้พลทหารในกองผ่อนคลาย Smoky ยังได้ถูกบันทึกว่าเป็นสุนัขบำบัดตัวแรกของโลก เพราะเขาช่วยทหารให้ผ่อนคลายระหว่างการรบ และหลังสงครามจบลง Smoky ก็ยังทำหน้าที่เป็นสุนัขบำบัดต่อในโรงพยาบาลอีกด้วย 
 

 

     อนุสาวรีย์ของ Smoky ตั้งอยู่ในรัฐ Cleveland ประเทศสหรัฐอเมริกา บ้านเกิดของเขา เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันแสนกล้าหาญของเขาในสงคราม

 

 

     Nuisance เป็นสุนัขตัวแรกและตัวเดียวในโลกที่ได้รับตำแหน่งเป็น “ทหารเรือ” เขาเป็นสุนัขพันธุ์เกรทเดน ที่อาศัยอยู่ในเมือง Simon's Town ประเทศแอฟริกาใต้ เขาเป็นสุนัขของนาย Benjamin Chaney ผู้บังคับบัญชาสภาความมั่นคงแห่งชาติ Nuisance จึงเป็นที่รู้จักของคนที่ทำงานอยู่ที่นั่น โดยเฉพาะเหล่าทหารเรือที่มักจะพาเขาไปเดินเล่น และให้ขนมเขากินอยู่เสมอ Nuisance ชอบตามทหารเรือขึ้นรถไฟไปยังที่ต่าง ๆ และเหล่าทหารเรือก็มักคอยซ่อนเขาไว้เพราะผู้คุมรถไฟไม่อนุญาตให้สุนัขขึ้นมาบนรถไฟ เมื่อผู้คุมจับได้ เขาจึงส่งจดหมายไปเตือนนาย Chaney ว่า ห้าม Nuisance ขึ้นมาบนรถไฟอีก หรือหากจะขึ้น  Nuisance ต้องจ่ายค่าตั๋วรถไฟให้ถูกต้อง หากไม่ทำตาม Nuisance จะต้องถูกส่งไปฆ่า
 

     เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าทหารเรือจึงส่งจดหมายไปหาผู้บัญชาการทหารเรือ เขาจึงรับ Nuisance เข้ามาเป็นทหารเรือ เพื่อที่จะได้รับสิทธิพิเศษในการนั่งรถไฟฟรี แต่ในการสมัครเข้าเป็นทหารเรือ ผู้สมัครจำเป็นต้องมีชื่อต้น เหล่าทหารเรือจึงเติมคำว่า Just เข้ามาเป็นชื่อต้นให้ Nuisance เขาจึงกลายมาเป็นพลทหารเรือ Just Nuisance ผู้มีทั้งเครื่องแบบ และได้สิทธิ์ในการนั่งรถไฟฟรีเหมือนทหารเรือคนอื่น ๆ หน้าที่หลักของเขาคือ เป็นเพื่อนเดินทาง และคอยคุ้มกันเหล่าทหารเรือเวลากลับจากบาร์ตอนดึก ๆ
 

 

     อนุสาวรีย์ของทหารเรือสี่ขา Just Nuisance ตั้งอยู่ที่เมือง Simon's Town ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อรำลึกถึงสุนัขตัวแรกของโลกที่ได้เป็น “ทหารเรือ”

 

     Mancs เป็นสุนัขกู้ภัยพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดผู้โด่งดังในประเทศฮังการี ชื่อของเขามีความหมายว่า “อุ้งเท้า” ความสามารถพิเศษของ Mancs คือการหาตำแหน่งผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ติดอยู่ในร่องหิน หรือใต้ซากปรักหักพัง และส่งสัญญาณบอกหน่วยกู้ภัย นอกเหนือจากการหาตำแหน่งผู้ประสบภัยแล้ว Mancs ยังสามารถรับรู้ได้อีกด้วยว่าผู้ประสบภัยยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว หากผู้ประสบภัยที่ติดอยู่เสียชีวิตแล้วเขาจะให้สัญญาณโดยการนอน แต่หากผู้ประสบภัยยังมีชีวิตอยู่ เขาจะให้สัญญาณโดยการยืนขึ้น แกว่งหาง และส่งเสียงเห่า
 

     Mancs โด่งดังจากการช่วยชีวิตเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังกว่า 82 ชั่วโมง ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกี เมื่อ Mancs เสียชีวิตลงในปี 2006 เด็กหญิงคนนี้ก็ได้มาเข้าร่วมพิธีศพของ Mancs ด้วย
 

 

     อนุสาวรีย์ของ Mancs ตั้งอยู่ที่เมือง Miskolc ประเทศฮังการี ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของเขา

     เมื่อปี 1995 ที่ทางหลวงสายใต้ในประเทศรัสเซีย ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนตร์ขึ้นกับครอบครัวหนึ่ง ในรถมีชายหนุ่ม เด็กหญิง และสุนัขตัวหนึ่ง ชายหนุ่มและเด็กหญิงเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนั้น แต่สุนัขรอดตายมาได้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อมีคนขับรถผ่านไปที่ถนนเส้นนั้น พวกเขามักจะพบเห็นเจ้าหมาพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดตัวนี้นั่งอยู่ที่จุดเดิม หรือบางทีก็วิ่งตามรถที่แล่นผ่านไปมา ชาวบ้านระแวกนั้นเรียกเขาว่า Kostya ที่แปลว่าแน่วแน่และมั่นคง ชาวบ้านบางคนพยายามจะรับเขาไปเลี้ยง แต่ Kostya ก็มักจะหนีออกมาวนเวียนอยู่ที่เดิมเสมอ ไม่ว่าจะฝนตกหรือหิมะตก Kostya ก็มักจะอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เพื่อรอเจ้าของที่เขาไม่รู้ว่าได้จากไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ
 

 

     Kostya รออยู่ตรงนั้นนานกว่า 7 ปี ก่อนจะเสียชีวิตตามธรรมชาติด้วยโรคชรา อนุสาวรีย์ของ Kostya ตั้งอยู่ที่สี่แยกของถนนเส้นที่เขามานั่งรอเจ้าของทุกวัน เพื่อเตือนใจผู้ใช้รถใช้ถนนให้ขับขี่อย่างระมัดระวัง

 

     Shep เป็นชื่อที่ชาวบ้านตั้งให้สุนัขต้อนสัตว์ตัวหนึ่ง ที่จู่ ๆ ก็มาปรากฎตัวขึ้นที่สถานีรถไฟ Great Northernในเมือง Fort Benton รัฐ Montana ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกตอนที่รถไฟขบวนหนึ่งขนโลงศพไปยังทางตะวันตกของอเมริกา หลังจากวันนั้น Shep ก็มาปรากฏตัวที่สถานีรถไฟนี้เป็นประจำ เจ้าหน้าที่รถไฟเล่าว่าผู้ที่อยู่ในโลงศพนั้นคือเจ้านายของ Shep นั่นเอง Shep จึงมักจะมาที่สถานีรถไฟนี้เป็นประจำเพื่อรอให้เจ้านายลงมา โดยไม่รู้เลยว่าเจ้านายของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว พนักงานประจำสถานีรถไฟอนุญาตให้ Shep อยู่ที่นั่น และคอยดูแล Shep เป็นอย่างดี ในที่สุด Shep ก็กลายมาเป็นที่รักของผู้คนที่มาใช้บริการสถานีรถไฟ Great Northern หกปีให้หลัง Shep ก็เสียชีวิตลงเพราะโดนรถไฟชน สร้างความโศกเศร้าให้กับผู้คนที่คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างมาก
 

 

     อนุสาวรีย์ Shep ยืนอยู่ที่รางรถไฟ ตั้งอยู่ที่เมือง Fort Benton ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความจงรักภักดีที่เขามีต่อเจ้านาย

 

     เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับอนุสาวรีย์สุนัขและเรื่องราวของพวกเขา มีทั้งเรื่องราวที่น่าประทับใจ น่ารัก ซาบซึ้ง และกล้าหาญ และเรื่องราวเหล่าก็ทำให้พวกเขาเป็นที่น่าจดจำ หากเพื่อน ๆ มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนสถานที่เหล่านี้ ก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมอนุสาวรีย์ของน้องหมาเหล่านี้กันบ้างนะคะ^^

 

ที่มาและภาพประกอบ :
https://en.wikipedia.org/wiki/Balto
https://en.wikipedia.org/wiki/Barry_(dog)
https://en.wikipedia.org/wiki/Fala_(dog)
https://en.wikipedia.org/wiki/Gelert
https://en.wikipedia.org/wiki/Just_Nuisance
https://en.wikipedia.org/wiki/Loyalty_(monument)
https://en.wikipedia.org/wiki/Shep_(American_dog)
https://en.wikipedia.org/wiki/Mancs_(dog)
https://en.wikipedia.org/wiki/Smoky_(dog)
https://en.wikipedia.org/wiki/Bob_the_Railway_Dog