เก็บกระเป๋ากันให้พร้อม วันนี้ Dogilike จะพาเพื่อน ๆ แบกเป้ไปตะลอนทัวร์ 10 เมืองในฝันของน้องหมาที่คนรักน้องหมาต้องฟิน ไม่ว่าจะไปเที่ยวคนเดียว หรือพาน้องหมาไปด้วย ก็ดีต่อใจทั้งนั้น จะมีเมืองอะไร อยู่ในประเทศไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

     ซานฟรานซิสโก เป็นอีกหนึ่งเมืองที่คนรักน้องหมาต้องหลงรัก เพราะเมืองนี้เต็มไปด้วยย่านที่น่าพาน้องหมามาเดินเล่น สวนสาธารณะที่เปิดให้น้องหมาเข้ามาวิ่งเล่นได้ และชายหาดสวยงามที่พาน้องหมาเข้าไปพักผ่อนได้
 

     สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้คือ สะพานโกลเดนเกต ซึ่งใกล้ ๆ กันนั้น มีสวนสาธารณะที่มีพื้นที่กว่า 2,500 ไร่ และในสวนยังแบ่งโซนไว้ให้น้องหมาถึง 4 โซน เป็นบริเวณที่ให้น้องหมาเข้ามาวิ่งเล่นได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องใส่สายจูง
 

     นอกจากนั้นแล้ว การพาน้องหมาเดินข้ามสะพานโกลเดนเกตก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนรักหมาไม่ควรพลาด เพราะสะพานโกลเดนเกตถือเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของซานฟรานซิสโก ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่อื่น ๆ เช่น ท่าเรือฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ (Fisherman’s Wharf) หอคอยชมวิว ควอยต์ ทาวเวอร์ (Coit Tower)  ดิ เอ็มบาคาดีโร (the Embarcadero) ถนนริมแม่น้ำ และรถรางเคเบิลคาร์  ก็ล้วนแต่อนุญาตให้น้องหมาเข้ามาเที่ยวได้ เรียกได้ว่า ฟินกันไปทั้งคนและหมาเลยทีเดียว

     ปารีสเมืองหลวงของฝรั่งเศสนั้นขึ้นชื่อได้ว่าเป็นเมืองแห่งแฟชั่น และยังเป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรกับน้องหมามากที่สุดอีกเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้ ชาวฝรั่งเศสนั้นยินดีที่จะให้น้องหมาเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้าและร้านอาหาร ภาพของพนักงานเสิร์ฟอาหารที่ถือชามข้าวน้องหมามาให้พร้อมกับอาหารที่สั่งไป เป็นภาพที่สามารถเห็นได้จนชินตา อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์บางแห่งก็ไม่อนุญาตให้นำน้องหมาเข้าไป เพราะฉะนั้นควรเช็คให้ดีก่อนเสมอ
 

     สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เราขอแนะนำสวนสาธารณะบอร์ เดอร์บูลองค์ (Bois de Boulogne) และ บอร์ เดอร์วินเซนต์ (Bois de Vincennes) สวนสาธารณะที่เปรียบเสมือนเซนทรัล พาร์ค ขนาดย่อส่วน ที่เหมาะแก่การพาน้องหมาไปเดินเล่นในวันชิว ๆ

     ออสตินติดโผอันดับเมืองในฝันของน้องหมา เพราะที่นั่นมีบาร์บีคิวที่แสนอร่อย เบียร์เย็นชื่นใจ และบรรยากาศแห่งเสียงเพลง ที่เผื่อแผ่มาถึงน้องหมา แถมผู้คนส่วนมากยังใจดีและเป็นมิตรกับน้องหมาอีกด้วย ที่ร้านอาหารเฟร็ดดี้ส์ เพลส (Freddie’s Place) อันโด่งดัง ยินดีต้อนรับน้องหมาทุกสายพันธุ์ด้วยเมนูเบอร์เกอร์เนื้อสูตรพิเศษที่เสิร์ฟมาในชามข้าวน้องหมาแสนน่ารัก
 

     นอกจากนี้ก็ยังมีสวนสาธารณะ เดอะ ด็อกเฮาท์ ดิงค์เกอร์รี (The Doghouse Drinkery) สวนสำหรับน้องหมา มีพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ไว้ให้น้องหมาวิ่งเล่นได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องใช้สายจูงในขณะที่เจ้าของดื่มดำกับธรรมชาติ และสวนซิลเกอร์ โบทานิกคอล (Zilker Botanical Garden) ก็เป็นที่ที่น้องหมาสายธรรมชาติโปรดปราน พวกเขาสามารถลงเรือคายัคหรือเรือแคนนูไปกับเจ้าของ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจกลางสายน้ำเย็นฉ่ำ
 

     นี่เป็นแค่ส่วนนึ่งเท่านั้น ยังมีสถานที่สำหรับน้องหมาอีกเพียบในเมืองอันแสนมีชีวิตชีวาแห่งนี้

 

     หากเพื่อน ๆ คิดว่าเมืองใหญ่ที่มีผู้คนหนาแน่นอย่างนิวยอร์กคงไม่มีพื้นที่สำหรับน้องหมาเป็นแน่ เราอยากให้เพื่อน ๆ คิดใหม่อีกครั้ง! เพราะที่นี่มีสถานที่สำหรับน้องหมาอยู่แทบทุกย่างก้าวเลยทีเดียว!
 

     นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพร้อมน้องหมาสามารถหาไกด์ทัวร์ส่วนตัวได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ สถานที่ที่ห้ามพลาดคือพิพิธภัณฑ์โซโลมอน อาร์. กุกเกนไฮม์ (Solomon R. Guggenheim Museum) พิพิธภัณฑ์อันโด่งอันที่จัดแสดงงานศิลปะประเภทต่าง ๆ ไว้อย่างคับคั่ง เดอะ เมท (The Met) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก เดอะ โบ็ทเฮ้าส์ ร้านอาหารสุดหรูในสวนสาธารณะเซนทรัล พาร์ค ที่ที่เจ้าของน้องหมาจะได้เพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศ ในขณะที่น้องหมามีความสุขกับการวิ่งไล่นกอยู่ในสวน เรียกได้ว่าเป็นมหานครในฝันของทั้งคนและน้องหมาเลยทีเดียว

 

     ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศแรกที่ประกาศว่าตนเป็นประเทศที่ปลอดสุนัขจรจัด ผู้คนในเมืองอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอแลนด์ ส่วนใหญ่แล้วเอ็นดูน้องหมา จนมีแทบจะไม่มีสถานที่ใดเลยที่มีป้าย “ห้ามสุนัขเข้า” น้องหมาทุกขนาดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนอนุญาตให้ใช้การขนส่งมวลชนรูปแบบต่าง ๆ ฟรี ยกเว้นรถไฟที่จะต้องจ่ายค่าตั๋วให้น้องหมา 3 ยูโรต่อวัน
 

     ช่วงฤดูร้อน เป็นช่วงที่เหมาะจะไปเยี่ยมเยือนอัมสเดอร์ดัมที่สุด เพราะเป็นช่วงที่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะสำหรับน้องหมา หรือพาน้องหมาไปว่ายน้ำที่ฟลีโวพาร์ค (Flevopark) สวนที่จัดสรรพื้นที่ไว้ให้น้องหมาได้ผ่อนคลายไปกับการว่ายน้ำเล่น

     นับเป็นเมืองที่มีสวนสาธารณะสำหรับน้องหมามากที่สุดเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา สวนที่มีชื่อเสียงที่คนรักน้องหมาห้ามพาดคือสวนสาธารณะวอชิงตัน (Washington Park) หรือหากใครเบื่อการเดินเล่นชิว ๆ ในสวน และอยากหากิจกรรมน่าตื่นเต้นทำ เราขอแนะนำให้ไปที่โคลัมเบีย ริเวอร์ จอร์จ ( Columbia River Gorge) แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่เพื่อน ๆ จะได้ดื่มด่ำกับขุนเขาและน้ำตก และแน่นอน น้องหมาก็ไปด้วยได้
 

     กลับเข้ามาในเมืองกันบ้าง หากใครกำลังมองหาร้านอาหารชิค ๆ ที่สามารถเข้าไปนั่งชิวกับน้องหมาได้ ที่ เดอะ ลัคกี้ แลบ บิวเวอร์รี (The Lucky Lab Brewery ) นั้นตอบโจทย์คนรักน้องหมาได้เป็นอย่างดี หรือจะไปที่ เดอะ ทิน เชด การ์เดนท์ (The Tin Shed Garden Café) คาเฟ่ของคนรักหมา คาเฟ่อื่น ๆ อาจมีพนักงานต้อนรับคอยถามลูกค้าว่า “มากี่คนคะ?” แต่ที่นี่ พนักงานต้อนรับจะถามลูกค้าว่า “มากับน้องหมากี่ตัวคะ?” และแน่นอน มีเมนูพิเศษสำหรับน้องหมาด้วย!

     เมืองนี้ถูกกล่าวขานว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับน้องหมามากที่สุดในทวีอมเริกาเหนือ เพราะมีสวนสาธารณะและสถานที่สำหรับน้องหมาอยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน สถานที่ที่ห้ามพลาดก็คือเพียวริน่า พอล์เวย์ (Purina PawsWay) แหล่งเรียนรู้และศูนย์ศึกษาค้นคว้าสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ซึ่งมักจะจัดนิทรรศการ หรือกิจกรรมความบันเทิงต่าง ๆ ให้น้องหมาและเจ้าของ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลน้องหมาที่ถูกต้อง และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและน้องหมา อีกทั้งยังส่งเสริมให้เจ้าของหมามีความรับผิดชอบในการดูแลน้องหมาอีกด้วย 
 

     นอกจากนั้นแล้ว ในเพียวริน่า พอล์เวย์ยังมีหอเกียรติยศสำหรับน้องหมา น้องแมว และม้า ที่เคยช่วยชีวิตมนุษย์ไว้อีกด้วย ใครจะไปรู้ บางทีน้องหมาของเพื่อน ๆ อาจได้พบเจอไอดอลของพวกเขาที่นี่ก็เป็นได้

     บางคนอาจสงสัยว่าทำไมลอนดอน เมืองแห่งม่านหมอก ถึงได้ติดอันดับกับเขาด้วย เมืองแห่งนี้ อาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกของคนรักน้องหมา แต่หากรู้แหล่งแล้ว ลอนดอนก็จะกลายเป็นในฝันของน้องหมาอีกเมืองหนึ่งเลยทีเดียว
 

     ลอนดอนมีสถานที่สำหรับน้องหมาอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะหรือบริเวณเลียบชายฝั่งแม่น้ำ ที่เพื่อน ๆ สามารถพาน้องหมาไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ตัวอย่างเช่นสวนสาธารณะเคนซิงตัน การ์เด้นท์ (Kensington Gardens)  สวนขนาดใหญ่ใจกลางเมือง สวนสาธารณะเดอะ รีเจ้นท์ (The Regent’s Park) สวนสาธารณะเซนต์ เจมส์ (St. James Park) สวนที่อยู่ใกล้ ๆ พระราชวังบักกิงแฮม และหอนาฬิกาบิ๊กเบน ภายในสวนยังสามารถเห็นชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอายส์ อันเป็นแลนมาร์คสำคัญของลอนดอน หรือ สวนแอ็บนีย์ (Abney Park) สวนที่มีสุสานเก่าที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ

 

     คนโรมันอาจดูไม่ค่อยตื่นเต้นเวลาเห็นน้องหมาน่ารักเหมือนคนปารีสหรือคนนิวยอร์ก แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ชอบน้องหมา แต่เป็นเพราะน้องหมาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองแห่งนี้ จนเกิดเป็นความเคยชินไปแล้วนั่นเอง ที่นี่มีร้านอาหารและคาเฟ่ชิค ๆ มากมายที่อนุญาตให้น้องหมาเข้าไปนั่งกับเจ้าของได้ อีกทั้งยังเต็มใจที่จะเสิร์ฟอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้น้องหมาด้วย ตามสถานที่สาธารณะ ลานกิจกรรม หรือตลาดต่าง ๆ ก็มักจะเห็นผู้คนพาน้องหมาออกมาเที่ยวเล่นกันอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีชายหาดใกล้ๆสนามบินฟิวมิชิโน่ (Fiumicino airport) ชื่อหาด บัวร์บีช (Baubeach) ซึ่งเป็นชายหาดที่ทอดยาวกว่า 7,000 ตารางเมตร ที่น้องหมาสามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำทะเล และพบปะเพื่อนน้องหมาตัวอื่น ๆ อีกทั้งยังไปเข้าคลาสโยคะกับคลาสออกกำลังกายร่วมกับเจ้าของได้อีกด้วย

     นักท่องเที่ยวหลายคนมาที่เมืองแห่งนี้เพื่อมาเจอกับแสงแดดอุ่น ๆ ทะเลสวย ๆ และสนุกสนานไปกับการเล่นกระดานโต้คลื่น น้องหมาเองก็เช่นกัน ที่เมืองนี้มีชายหาดและสวนสาธารณะสำหรับเพื่อนสี่ขาอยู่มากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีที่ไว้ให้น้องหมาเล่นโต้คลื่นอีกด้วย! เพื่อน ๆ สามารถพาน้องหมาไปล่องเรือคายัค เรือแคนนู หรือพาไปฝึกทรงตัวบนกระดานโต้คลื่น และหากน้องหมาตัวไหนโต้คลื่นได้เก่งขั้นเทพแล้ว ก็ยังสามารถลงแข่งโต้คลื่นประจำปีสำหรับสุนัขได้อีกด้วย 
 

     ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ที่ไม่อนุญาตให้น้องหมาเข้าร่วม เจ้าของก็ไม่ต้องกังวล เพราะในเมืองนี้เต็มไปด้วยคนรักสัตว์ที่พร้อมให้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงระหว่างที่เจ้าของไปทำธุระต่าง ๆ รับรองว่าน้องหมาทุกตัวจะมีช่วงเวลาดี ๆ ที่เมืองนี้อย่างแน่นอน

 

     เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เที่ยวกันจุใจหรือยัง สำหรับ 10 เมืองในฝันของน้องหมา ที่คนรักน้องหมาไม่ควรพลาด หากมีโอกาส อย่าลืมพาน้องหมาไปเที่ยวชมเมืองต่าง ๆ เหล่านี้กันนะคะ รับรองว่าถูกใจทั้งเจ้าของและน้องหมาแน่นอน เพื่อน ๆ คนไหนรู้จักสถานที่เที่ยวเจ๋ง ๆ สำหรับน้องหมา ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศ มาคอมเม้นท์แชร์กันได้เลยน้า
 

 

บทความโดย : Dogilike

ที่มาและภาพประกอบ :
http://zeedaily.com/dog-friendly-cities/