โดย: Tonvet

ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

มาดูว่าสุนัขต้องเจอปัญหามลพิษจากอะไรบ้างในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา และมีหน้ากากป้องกันแบบไหนบ้าง

5 กุมภาพันธ์ 2562 · · อ่าน (2,774)
132

SHARES


132 shares
  • ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมาสุนัขต้องเผชิญมลพิษในหลาย ๆ รูปแบบ ทั้งแก๊สพิษในช่วงของสงครามโลก และหมอกควันพิษในยุคหลังสงครามโลกจนถึงปัจจุบัน
     
  • รูปแบบของหน้ากากป้องกันมลพิษสำหรับสุนัขมีการพัฒนามาอยู่เรื่อย ๆ แตกต่างกันไปตามชนิดของมลพิษและการใช้งานตามหน้าที่ต่าง ๆ ของสุนัข


 

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)


 

     สุนัขอยู่เคียงข้างกับมนุษย์มานาน ไม่ว่าสถานการณ์โลกจะเป็นอย่างไร เลวร้ายแค่ไหน สุนัขก็ต้องได้รับผลกระทบด้วยไม่ต่างกับมนุษย์ ย้อนไปเมื่อ 100 ปีก่อน มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการที่โลกต้องเผชิญกับเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามโลกครั้งที่สอง เรื่อยมาจนถึงยุคที่มนุษย์ก่อมลภาวะทางอากาศจนเกิดวิกฤตการณ์หมอกควัน ที่คร่าชีวิตมนุษย์นับพันรายครั้งแรกที่กรุงลอนดอน เรื่อยมาจนยุคปัจจุบันที่สถานการณ์หมอกควันได้แพร่กระจายไปสรา้งปัญหาตามเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก แน่นอนว่าสุนัขก็ต้องได้รับผลกระทบร่วมด้วยเช่นกัน จึงเป็นที่มาของการผลิตหน้ากากแบบต่าง ๆ ออกมาใช้ป้องกันในสุนัขด้วย บทความนี้เรามาย้อนรอยดูกันครับว่า แต่ละยุคนั้นมีหน้ากากสำหรับสุนัขหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง...
 
 
 
 

ช่วงปี ค.ศ. 1914-1918

 
 
     ช่วงเวลานี้โลกต้องเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่  1 โดยในเวลานั้นมีการคิดค้นอาวุธเคมีมาใช้ในการสู้รบกัน โดยเริ่มจากฝรั่งเศสเริ่มนำแก๊สน้ำตาออกมาใช้เป็นชาติแรกในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 เป็นการนำแก๊สน้ำตามาบรรจุเป็นระเบิด การสูดเอาแก๊สน้ำตาเข้าไปจึงทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจและแสบตา แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิต
 
     ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1915 กองทัพเยอรมันได้นำแก๊สคลอลีนมาใช้ มันเป็นลักษณะคล้ายกับหมอกควันสีเขียว เมื่อมีการสูดดมเข้าไปจะเกิดการสำลักและทรมานมาก และยังส่งผลต่อการมองเห็น ระบบทางเดินหายใจเสียหาย สุดท้ายร่างกายจะขาดอ๊อกชิเจนและเสียชีวิตลงในที่สุด ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการตื่นกลัวการใช้อาวุธเคมีเป็นวงกว้าง มีการผลิตหน้ากากกันแก๊สพิษมาใช้ในคนและในสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือม้า ซึ่งต่างก็เป็นสัตว์ที่ใช้ในงานสงคราม สุนัขต้องถูกฝึกให้คุ้นชินกันการสวมหน้ากาก อย่างไรก็ดีหน้ากากรุ่นแรกจะป้องกันแก๊สได้ไม่นานนักและไม่ทนความร้อนจากสารเคมี
 
     แต่การพัฒนาอาวุธเคมียังไม่หยุดเท่านั้น มีการใช้ฟอสจีนซึ่งเป็นสารเคมีที่ไม่มีสี ทำให้สังเกตและหลบหนีได้ยาก มันสร้างความระคายเคืองต่อตา จมูก และผิวหนังอย่างรุนแรง และทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน สุดท้ายอาวุธเคมีที่หลายคนคุ้นกันดีก็ถูกนำมาใช้มันคือ แก๊สมัสตาร์ด ความรุนแรงไม่แพ้กับฟอสจีน แต่ยังทำให้ผิวหนังพุผองรุนแรงอีกด้วย ที่ร้ายกว่านั้นคือ แก็สมัสตาร์ดยังสามารถตกค้างอยู่ในอากาศและในดินได้นานเป็นสัปดาห์ ต่อไปนี้ภาพของเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้น
 
 
Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)
 
Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)
 
Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)
 
Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)


 

ช่วงปี ค.ศ. 1939-1945

 
 
      หลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่  1 จบไปได้ระยะหนึ่ง ก็ไม่วายเกิดสงครามโลกขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้พื้นที่การรบกระจายไปไกลมากกว่าครั้งก่อน ไม่เฉพาะรบเพียงแค่ในยุโรปแล้ว แต่ยังลุกลามมารบกันในทวีปเอเชีย แปซิฟิก ตะวันออกกลาง และทวีปแอฟริกาด้วย ความน่ากลัวครั้งนี้ก็คืออาวุธที่รุนแรงกว่าคราวก่อน มีการประกาศเตือนประชาชนให้ระวังการถูกโจมดีด้วยอาวุธเคมี มีตั้งแต่ช่วงแรกของสงคราม ช่วงนั้นไม่เพียงแต่ในสนามรบเท่านั้นที่จะมีการสวมหน้ากากป้องกัน แต่ประชาชนและสัตว์เลี้ยงที่เดินอยู่ตามท้องถนนก็ได้รับการสวมหน้ากากป้องกันด้วย มีการทำหน้ากากสำหรับสุนัขออกมาหลายรูปแบบขึ้นกับภารกิจที่ใช้ และนี่ก็คือภาพของเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้น
 
Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)
 
 
 

ช่วงปี ค.ศ. 1952

 
 
      ภายหลังสงครามโลกภัยจากอาวุธเคมียังไม่หมดสิ้นไป แต่ตอนนี้มันมาในรูปแบบของหมอกควันพิษแทน ในเดือนธันวาคมปี ค.ศ. 1952 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้งเมืองถูกปกคลุมถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำอมเหลือง หลายคนตั้งชื่อว่า "หมอกซุปถั่ว (Pea-Soupers)" เพราะสีคล้ายกัน เกิดจากควันพิษที่ถูกปล่อยมาจากโรงงาน จากบ้านที่มีการเผาถ่านหิน หมอกหนาจนมองไม่เห็นแม้กระทั่งเท้าของตัวเอง ควันดังกล่าวมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นส่วนผสม ทำให้ผู้คนรวมถึงสัตว์เลี้ยงจำนวนมากที่สูดดมเข้าไปเริ่มมีปัญหาทางเดินหายใจ และไม่นานก็มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน นี่คือภาพเหตุกาณ์ตอนนั้นครับ
 
Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)
 


 

ช่วงทศวรรษที่ 1980 - ปัจจุบัน

 
 
     เป็นช่วงที่ประชากรโลกมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังมีการพัฒนาทางเศษฐกิจจนหลาย ๆ เมืองทั่วโลกมีจำนวนประชากรสูงและมีการกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เนื่องจากมีการอพยพเข้าเมืองเพื่อมาทำงานในเมือง มีประชากรโลกกว่า 60% อาศัยอยู่ในเมือง และอีก 40% อาศัยอยู่ตามชนบท ทำให้เกิดมลภาวะมากขึ้น ยิ่งในบางฤดูกาลอย่างเช่นหน้าหนาว อุณหภูมิต่ำ อากาศจะมีความหนาแน่นสูง พวกฝุ่นละอองก็ลอยต่ำลง ทำให้คนมีโอกาสสูดดมและรับเอามลพิษเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ในหลาย ๆ เมืองทั่วโลก เช่น กรุงปักกิ่ง เซี้ยงไฮ้ กรุงนิวเดลี กรุงปารีส กรุงมาดริด กรุงโซล กรุงลอนดอน กรุงเม็กซิโกซิตี้ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ต่างเคยประสบปัญหาหมอกควันมลพิษกันมาแล้ว เรียกได้ว่าทั่วโลกเลยทีเดียว

     ซึ่งผลกระทบนี้น้องหมาก็ได้รับเช่นกันไม่ต่างกับคนเราเลย ในตอนแรกยังไม่มีการทำหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละอองสำหรับสุนัข เจ้าของจึงประยุกต์ใช้หน้ากากของมนุษย์มาสวมให้กับสุนัข จนต่อมาผู้ผลิตชาวอังกฤษมีการคิดค้นหน้ากากสำหรับสวมคลอบจมูกสุนัขมาใช้ ซึ่งเหมาะสมกับสุนัขมาก ซึ่งมีหลายขนาดตามขนาดตัวของสุนัข โดยหน้ากากแต่ละอันจะมีตัวกรองที่สามารถดูดซับอนุภาคขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้  และทำจากวัสดุที่ดูดซับความชื้นจากน้ำลายของสุนัขได้ด้วย ไปดูภาพกันครับ
 

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)


Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)

Dogilike.com :: ย้อนรอย 100 ปี สุนัขกับหน้ากากป้องกันมลพิษ (รูปเยอะ)



     จะเห็นได้ว่ามลพิษที่ส่งผลกระทบกับสุนัขนั้นเกิดมาจากมนุษย์เราล้วน ๆ ซึ่งรูปแบบของมลพิษนั้นก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ในช่วงสงครามโลกนั้นส่วนมากมาจากผลของแก๊สพิษ แต่ภายหลังสงครามโลกส่วนมากเกิดจากการพัฒนาของเมืองจนเกิดการสร้างหมอกควันพิษขึ้นมา จึงเป็นหน้าที่ของมนุษย์เช่นกัน ที่จะต้องร่วมกันหาวิธีปกป้องน้องหมาให้ปลอดภัยจากมลพิษเหล่านี้ อันเป็นที่มาของหน้ากากป้องกันมลพิษรูปแบบต่าง ๆ ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา ตามที่ได้เห็นทั้งหมดนี้ครับ แล้วเพื่อนๆ มีอุปกรณ์ป้องกันมลพิษแบบไหนให้กับสุนัขบ้าง ถ่ายรูปมาอวดกันได้เลยนะครับ


 

บทความโดย : Dogilike.com
ข้อมูลและภาพประกอบ :
https://mashable.com/2015/09/16/dogs-gas-masks/#SVQO4zpqkGq9
https://www.pinterest.com/pin/854417360529193884/
https://www.pinterest.com/pin/782922716445202931/
https://www.pinterest.com/pin/440367669784454199/
https://www.dogpollutionmask.com/wp-content/uploads/2017/11/Dog-air-filter-face-mask-pollution-protection-500x330.jpg
https://www.dogpollutionmask.com/wp-content/uploads/2017/11/Dog-pollution-mask-filter-urban-smog-smoke-500x335.jpg
https://mir-s3-cdn-cf.behance.net/project_modules/1400/0b42c569416899.5b803a0a20292.jpg
https://7thstreettavern.com/wp-content/uploads/2018/09/air-filter-mask-1.png
https://cdn.shopify.com/s/files/1/0039/2993/1843/products/K9mask-dog-air-filter-muzzle-mask_394x.jpg?v=1542206862