ทุกการติดต่อสัมพันธ์ นอกจากการไปมาหาสู่กันแล้ว ก็มักจะมีสิ่งของติดไม้ติดมือมากำนัลแลกเปลี่ยนกันด้วยเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งถ้าหากของกำนัลนั้นตรงใจของผู้รับ มันก็ง่ายในการเจรจาผลประโยชน์ต่อไป ในทางการฑูตก็มีการกำนัลสิ่งของเช่นกัน ซึ่งนอกจากทรัพย์สินมีค่าหรือของหายากในประเทศนั้น ๆ แล้ว สัตว์ก็ถือเป็นตัวแทนสำคัญที่ทางการฑูต ซึ่งใช้เป็นตัวแทนเชื่อมความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน อย่างประเทศจีนมักนิยมใช้แพนด้าเป็นตัวแทนทางการฑูต ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังแล้ว ในบ้านเราครั้งยังเป็นประเทศสยาม เราก็เคยส่งช้างไปบรรณาการประเทศฝรั่งเศสด้วย

    แน่นอนว่า "สุนัข" ก็เป็นหนึ่งในสัตว์ที่ผู้คนมักนำมาใช้เป็นตัวแทนทางการฑูตเช่นกัน ยิ่งถ้าผู้นำคนไหนเป็นผู้ที่ชื่นชอบและรักสุนัขเป็นชีวิตจิตใจด้วยแล้ว ประเทศใดที่ต้องการจะเจรจาความด้วย ก็จำต้องมีการนำสุนัขไปมอบให้ เรามาไล่เรียงเหตุการณ์ที่ประเทศต่าง ๆ เคยนำสุนัขมาใช้เป็นตัวแทนทางการฑูตกัน จะสำเร็จหรือจะล้มเหลวอย่างไรบ้างนะ

คิม จอง อึน มอบสุนัขพื้นเมือง 2 ตัวให้ผู้นำเกาหลีใต้
เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้แม้จะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน แต่ด้วยความแตกต่างทางด้านอุดมการณ์ทางการเมืองทำให้ทั้งสองประเทศไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ อย่างไรก็ดีมีความพยายามสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติอยู่เป็นระยะ เมื่อไม่นานมานี้ผู้นำเกาหลีเหนือหวังจะสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำเกาหลีใต้ ด้วยความที่นายมุน แจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เป็นคนรักสุนัขมาก ผู้นำเกาหลีเหนือจึงสานสัมพันธ์ด้วยการส่งสุนัขพันธุ์พื้นเมืองหายาก คือ สุนัขพันธุ์พื้นเมืองปุงซาน 2 ตัว อายุราว 1 ขวบ สีขาวครีม หูแหลม ตาสีน้ำตาล ซึ่งถือเป็นสมบัติแห่งชาติของเกาหลีเหนือมาให้ และหลังจากนั้นไม่นานเจ้า Gomi ของขวัญจากคิมจองอึนนี้ ก็คลอดลูกสุนัขน่ารักออกมาอีก  6 ตัว อันเป็นเครื่องย้ำเตือนมิตรภาพอันดีของผู้นำทั้งสองชาติ
 

ผู้นำเติร์กเมนิสถาน มอบสุนัขเป็นของขวัญวันเกิดในปูติน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นผู้นำที่รักสุนัขอันดับต้น ๆ ของโลกก็ว่าได้ ท่านมักจะได้รับสุนัขจากผู้นำประเทศต่าง ๆ เป็นของขวัญเสมอ ครั้งหนึ่งประธานาธิบดีเกอร์บังกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟของเติร์กเมนิสถาน เขาได้นำสุนัขพันธุ์ดีของประเทศมามอบให้กับปูตินเช่นกัน สุนัขพันธุ์นี้มีชื่อว่า อลาบาย ซึ่งแปลว่า จงรักภักดีในภาษารัสเซีย มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า สุนัขพันธุ์เซ็นทรัล เอเชีย เชฟเพิร์ด มีความสามารถหลากหลายส่วนมากเลี้ยงไว้ใช้งาน และใช้ในทางทหาร แต่ความฮือฮาก็อยู่ที่ตอนที่ ประธานาธิบดีเกอร์บังกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟ ของเติร์กเมนิสถาน นำสุนัขออกมามอบให้ผู้นำรัสเซีย เขาใช้มือจับขยุ้มที่คอสุนัขก่อนที่จะชูขึ้นให้สื่อมวลชนเห็น แล้วจึงส่งมอบให้กับประธานาธิบดีปูติน ปูตินเห็นเช่นนั้น จึงรีบเข้ามาอุ้มลูกสุนัข พร้อมกับจูบที่หน้าฝากเพื่อรับขวัญและเป็นการปลอบใจไปในตัว เห็นได้ชัดเจนว่าใครกันแน่ที่คือทาสสุนัขและรักสุนัขตัวจริง เขาตั้งชื่อเจ้าลูกสุนัขตัวนี้ให้ว่า "เวอร์นี่หรือแวร์นี่" เป็นภาษารัสเซียแปลว่า ความศรัทธา
 

ญี่ปุ่นเสนอมอบสุนัข กระชับการทูตกับรัสเซียอีกครั้ง สุดท้ายโดนปฏิเสธ
ประเทศญี่ปุ่นเองก็เคยจะส่งสุนัขไปมอบเป็นของขวัญให้ผู้นำรัสเซียเช่นกัน ซึ่งตอนปี พ.ศ. 2555 ญี่ปุ่นก็เคยส่งสุนัขพันธุ์พันธุ์อากิตะ ชื่อว่า "ยูเมะ" มาให้ทางปูตินเพื่อขอบคุณที่รัสเซียไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่หลังจากนั้นญี่ปุ่นก็พยายามส่งสุนัขไปให้อีก เพื่อหวังจะให้ไปเป็นคู่กันกับสุนัขตัวแรก แต่คราวนี้ผู้นำรัสเชียกลับปฏิเสธ โดยอ้างว่าเขามีสุนัขจำนวนมากแล้ว เกรงว่าจะเลี้ยงไม่ไหว นายโคอิชิ ฮากิวดะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้โพสต์ลงบล็อกส่วนตัวของเขาว่า "น่าเสียดายที่ญี่ปุ่นได้ข่าวมาว่า ข้อเสนอที่จะส่งสุนัขเพศผู้ให้เป็นคู่กับสุนัขเพศเมียที่เคยมอบไว้กับผู้นำรัสเซียได้รับการปฏิเสธ" เป็นที่รู้กันดีว่าประธานาธิบดีปูตินเป็นคนรักสัตว์มาก โดยเฉพาะสุนัข แต่ครั้งนี้คงจำต้องตัดใจปฏิเสธไปด้วยความจำเป็นจริง ๆ

ประเทศไทยเราก็เคยถูกปฏิเสธการส่งช้างไปเป็นของบรรณาการยังสหรัฐอเมริกามาแล้วเช่นกัน ประธานาธิบดีลินคอร์นได้มีจดหมายมากราบบังคมทูลรัชกาลที่  4 ว่า "ประเทศข้าพเข้ามีภูมิอากาศไม่เหมาะสำหรับช้าง" รัชกาลที่  4 ไม่พอพระทัย พระองค์จึงได้พระราชทานช้างที่ทรงเตรียมไว้สำหรับสหรัฐ ฯ นี้ไปยังฝรั่งเศสแทน ทำให้ความสัมพันธ์ระดับสูงระยะแรกนี้ถูกระงับลงเป็นการชั่วคราวเลยทีเดียว