จากสถิติเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี เป็นกลุ่มวัยที่มีความเสี่ยงในการถูกสุนัขกัดมากที่สุด  ข้อมูลที่เผยแพร่ในข่าวเว็บไซต์บีบีซีไทยระบุถึงตัวเลขของเอ็นเอชเอส (NHS) ชี้ว่า เมื่อปี 2014-2015 มีประชาชน 2,227 คน ต้องเข้ารับการรักษาเมื่อถูกสุนัขกัดหรือทำร้าย โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กและมีอายุต่ำกว่า 9 ขวบ จำนวนถึง 1,159 คน ที่ต้องนอนในโรงพยาบาล 

     ผลวิจัยโดยวารสาร บริตีช เมดิคอล เจอร์นัล (BMJ) ว่าร้อยละ 76 ของกรณีเด็กถูกสุนัขกัดนั้น จะมีอาการบาดเจ็บบริเวณปาก จมูก และแก้ม เพราะความสูงของตัวเด็ก และบาดแผลที่ถูกกัดบริเวณที่คอ ถือเป็นแผลที่อันตรายถึงแก่ชีวิตของเด็กได้มากที่สุด 

     นอกจากแผลที่กระทบต่อร่างกายของเด็กแล้ว ผลที่ตามมาอีกสิ่งหนึ่งคือ คือ กระทบต่อสภาพจิตใจ ซึ่งอาจทำให้เด็กเกิดความเครียดและกลัวสุนัขในภายหลัง เรียกว่า Post-traumatic stress disorder โดยจากการศึกษาของวินเซนต์ ปีเตอร์และคณะในปี 2004 ในเด็กที่ตกเป็นเหยื่อจากการถูกสุนัขกัดจำนวน 22 รายพบเด็กถึง 12 รายที่ แสดงอาการของ Post-traumatic stress disorder ภายหลัง 2 ถึง 9 เดือน ที่โดนถูกกัด
 

สาเหตุที่เด็กถูกสุนัขกัดมากที่สุด

     เนื่องจากเด็กไม่สามารถตีความพฤติกรรมบางอย่างของสุนัขได้ และไม่สามารถที่จะปฏิบัติตัวในการรับมือต่อภัยคุกคามบางอย่างจากสุนัขได้ จึงมีความเสี่ยงที่จะถูกสุนัขกัดได้มากกว่าผู้ใหญ่   และในทางตรงกันข้าม สุนัขที่ไม่ได้ถูกฝึกหรือเลี้ยงดูกับเด็กมาก่อน อาจไม่คุ้นเคยกับพฤติกรรมของเด็กที่มักจะส่งเสียงดัง เสียงแหลม เสียงกรี๊ด หรือพยายามเข้าไปกอด อุ้ม หรือจับตัวสุนัข ซึ่งมันอาจจะหวาดกลัวอยู่

     อีกทั้งสุนัขมักจะเลือกเหยื่อที่อ่อนแอกว่า จากพฤติกรรมการรวมฝูงของสุนัข  มันจะมีตำแหน่งของสมาชิกในฝูง ซึ่งหากสมาชิกในฝูงคนใด ถูกประเมินว่ามีความอ่อนแอกว่า (อย่างเช่นเด็ก) ก็อาจจะถูกทำร้ายได้ง่ายกว่านั่นเอง

     โดยปกติแล้วสุนัขอาจไม่มีเจตนาในการทำร้ายเด็ก หากไม่ได้รับการยั่วยุ จ้องตา หรือทำให้มันรู้สึกกลัว โดยสุนัขที่แสดงอาการกลัวนั้น มักจะมีพฤติกรรมเลียปาก ทำหูลู่ไปข้างหลัง ซุกหางเอาจุกก้นไว้ระหว่างขา แน่นอนว่าเด็กดูพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ออก หรือแม้กระทั่งการเข้าใจว่า การที่สุนัขแยกเขี้ยว คือ การยิ้มให้ และแน่นอนว่า การที่เด็กเข้าหาสุนัขในจังหวะอารมณ์ดังกล่าว ก็ย่อมทำให้เด็กรับอันตรายจากการสุนัขกัดได้โดยไม่ยาก
 

     งานวิจัยของ Sarah Rose จากมหาวิทยาลัย Staffordshire ได้ให้เด็กอายุระหว่าง 4 ถึง 6 ขวบจำนวนมากกว่า 100 คน มาชมภาพและคลิปวิดีโอของสุนัขที่แสดงพฤติกรรมต่างๆ เช่น มีความสุข หวาดกลัว หรือโกรธ แล้วถามว่า พวกเขาคิดว่าสุนัขรู้สึกอย่างไร และจะทำตัวอย่างไรกับสุนัขเหล่านั้น  แม้ว่าเด็กส่วนใหญ่จะบอกว่า พวกเขาจะไม่เข้าใกล้สุนัขที่กำลังโกรธ แต่เด็ก ๆ กลับมีแนวโน้มที่จะหาสุนัขที่กำลังหวาดกลัว เพื่อที่จะปลอบให้สุนัขกลับมามีความสุข แต่สำหรับสุนัขแล้ว มันไม่คิดอย่างนั้นเพราะมันถือว่า มันกำลังถูกคุกคาม และต้องการตอบโต้ต่อภัยคุกคาม ซึ่งทำให้เด็กตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกกัด


 

การป้องกันเด็กถูกสุนัขกัด

     การศึกษานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งกับการสอนให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมของสุนัข และเรียนรู้การเข้าหาสุนัขอย่างถูกต้อง แม้จะเป็นสุนัขในครอบครัวที่เด็กๆ อาจคุ้นเคยอยู่เป็นประจำก็ตาม เมื่อต้องทิ้งเด็กไว้ตามลำพังกับสุนัข ต้องคำนึงถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของสุนัขด้วยว่า มีความคุ้นเคยกับเด็กหรือไม่ ทางที่ดีก็ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่กับสุนัขตามลำพัง
 

     ต้องสอนให้เด็กอย่าไปแกล้งสุนัข อย่าส่งเสียงโวยวาย อย่ากระตุ้นพฤติกรรมก้าวร้าวสุนัข เช่น การจ้องหน้าจ้องตาสุนัข การดึงชามข้าว แย้งของเล่น หรือไปจับดึงหางเล่น ฯลฯ และสอนให้เด็กเข้าหาสุนัขอย่างถูกวิธี หากถูกสุนัขวิ่งไล่ ให้เด็กทำตัวนิ่งๆทำตัวเป็นต้นไม้ อย่าวิ่งหนีสุนัข เพราะถึงยังไงเด็กก็วิ่งหนีไม่ทัน ให้ก้มศีรษะไปที่ปลายเท้า อย่าจ้องตาสุนัข เอามือทั้งสองแนบลำตัวหรือเอามาประสานกันด้านหน้า

     หากสุนัขวิ่งเข้ามาประชิดตัว ควรสอนให้เด็กรีบก้มตัวลง นั่งกับพื้น ทำตัวเป็นหิน ก้นหอย หรือลูกบอล ก้มหัวแล้วเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย  ใช้แขนปิดคอ ปิดศีรษะ ใบหน้า และใบหูให้มิดชิด สุนัขอาจมาแค่ดมแล้วเดินจากไป แต่หากถูกสุนัขกัด แม้เพียงเล็กน้อย ก็ต้องสอนให้เด็กรีบบอกกับผู้ใหญ่โดยทันที อย่าไปดุว่าเด็ก เพราะจะทำให้เด็กไม่กล้าบอกผู้ใหญ่อีก ซึ่งสุดท้ายก็จะทำให้เด็กไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงที
 

     ปัญหาเด็กถูกสุนัขกัด เป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยเป็นประจำ ผู้ปกครองควรสอนเด็กให้ระมัดระวัง ไม่เข้าไปเล่นกับสุนัขแปลกหน้า หากถูกสุนัขเลีย ข่วน หรือกัด จนเกิดบาดแผล ให้รีบกดแผลห้ามเลือด และล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่หลายๆ รอบ  จากนั้นให้แต้มแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ และรีบพาไปพบแพทย์โดยทันที ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคเรบีส์ (rabies) หรือพิษสุนัขบ้า ที่ผู้ปกครองสามารถพาเด็กๆ ไปฉีดก่อนได้ เป็นวัคซีนป้องกันโรคแบบล่วงหน้า ไม่ต้องรอให้ถูกกัดก่อน ถือเป็นตัวช่วยสำหรับป้องกันโรคได้ดีอีกทางหนึ่ง 


 

บทความโดย : Dogilike.com
www.dogilike.com

ข้อมูลบางส่วนและภาพประกอบ :
www.dogilike.com/content/vettalk/2757/?fbclid=IwAR1C1TrkatVF7mRbpk7Yuad0M6s6ZUfMXsz0E0u05iE1oEqzLC5_UTh2aCE
theconversation.com/children-often-misread-fear-in-dogs-making-a-bite-more-likely-118405?fbclid=IwAR2f0YjHR172U0VBVisY-8J6gERa4gFMf0XKFrw7L5dUR4i-JADe7dwHx94
www.bbc.com/thai/international-42439026?fbclid=IwAR3QVt3h2l78z7lp9vYNOlasdvQakMpWydk9CzrdRizI8hqqhpCjdfLdFGk
playgroundprofessionals.com/sites/playgroundprofessionals.com/files/2020/February/dog-bites-playground-02.jpg
i.ytimg.com/vi/05CHxu4WKOg/maxresdefault.jpg
www.mikeschaferlaw.com/wp-content/uploads/2020/07/shutterstock_111461498-2.jpg
www.california.law/wp-content/uploads/2019/04/dog-attack-child-731x457.png