Hilight

• นโปเลียน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขสายพันธุ์โบราณเป็นสุนัขที่มีผิวหนังเหี่ยวย่นตัวใหญ่ที่สุด ซึ่งมีความสวยงามและสง่าอยู่ในตัวเอง

• เฟร็นบลูด็อกเป็นสุนัขสายพันธุ์ Brachycephalic หรือ สายพันธุ์หน้าแบน ซึ่งไม่ค่อยออกกำลังให้เหนื่อย ดังนั้นจึงทำให้มันเป็นที่นิยมของชาวเมืองที่ไม่มีสนามหลังบ้านไว้สำหรับให้สุนัขได้ใช้วิ่งเล่น

     รูปลักษณ์ภายนอกของน้องหมาหน้าย่นอาจจะทำให้คุณตัดสินใจลำบากในการเลือกที่จะรับมาเลี้ยง แต่อย่างห่วงเลย ถ้าคุณได้รู้จักนิสัยและความน่ารักของหน้าหมาน่าย่นเหล่านี้คุณจะรู้ว่ามันน่ารักขนาดไหน

     Dogilike Ranking วันนี้ บิ๊กบอยจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักสายพันธุ์น้องหมาหน้าย่น แต่น่าหยิกกัน อย่าเพิ่งตัดสินน้องๆ จากรูปลักษณ์ภายนอกนะ มาทำความรู้จักกับน้อง ๆ กันก่อน ไปดูกันว่าจะมีน้องหมาสายพันธุ์ไหนถูกใจเพื่อน ๆ กันบ้าง

1. ปั๊ก (Pug)

     เวลาคุณจ้องหน้าน้องหมาพันธุ์นี้ คุณอาจจะกำลังคิดว่าทำไมเจ้าสุนัขพันธุ์นี้ถึงดูเครียดและดูกังวลอยู่ตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วมันอาจจะกำลังยิ้มหรือหัวเราะให้กับคุณอยู่ก็ได้ เนื่องจากปั๊กเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็กจึงไม่สามารถออกกำลังหนักๆ มากได้ แต่ผู้เลี้ยงจะต้องคอยดูแลไม่ให้หุ่นของเจ้าดูอ้วนและผอมจนเกินไปเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมา และสิ่งที่คุณจะได้รับจากน้องหมาสายพันธุ์นี้ก็คือเพลงกล่อมเด็กเพราะๆ ยามค่ำคืน เพราะปั๊กเป็นสุนัขที่นอนเยอะ และกรนดังสุดๆ

     ปั๊กมักถูกพูดถึงว่าเป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด แข็งแรงและทนทาน ซึ่งลักษณะเหล่านี้ทำให้มันกลายเป็นที่รักและเพื่อนเล่นได้อย่างดี ปั๊กยังเป็นที่รู้จักในฐานะตัวตลกของโลกสุนัขเพราะพวกมันมักจะเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้คนที่พบเห็นได้อยู่เสมอ

2. เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog)
 

     หูยาวเหมือนค้างค้าว ริ้วรอยอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เจ้าหมาเฟรนช์ บูลด็อกดูน่ารักน่าหยิก ผู้คนจึงชื่นชอบและนิยมที่จะหาซื้อมาเลี้ยงไว้ภายในบ้าน เฟรนช์ บูลด็อกเป็นสุนัขสายพันธุ์ Brachycephalic หรือ สายพันธุ์หน้าแบน ซึ่งไม่ค่อยออกกำลังกายมากนัก จึงทำให้มันเป็นที่นิยมของชาวเมืองที่ไม่มีสนามหลังบ้านกว้างๆ ไว้สำหรับให้สุนัขได้ใช้วิ่งเล่น

     เฟรนช์ บูลด็อกกลายเป็นสุนัขที่ถูกเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนในบ้านที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการนำไปแสดงโชว์สุนัข แม้แต่พ่อแม่ที่เพิ่งเคยเลี้ยงสัตว์เป็นครั้งแรกก็จะรักเจ้าสุนัขสายพันธุ์สุดหัวใจ

3. นโปเลียน มาสทิฟฟ์ (Neapolitan Mastiff)

 

     เป็นสุนัขที่มีรอยย่นบนร่างกายที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นโปเลียน มาสทิฟ มีน้ำหนักมากถึง 150 ปอนด์ ลักษณ์ของมันปกคลุมไปด้วยผิวหนังย่นๆ ทั้งร่างกาย ใครที่คิดจะเล่นกับน้องหมาสายพันธุ์นี้จะต้องเตรียมผ้าเช็ดมือติดตัวเอาไว้ด้วยนะ เพราะนอกจากมันจะขึ้นชื่อเรื่องสุนัขที่มีผิวหนังเหี่ยวย่นที่ใหญ่ที่สุดแล้วมันยังขึ้นชื่อเรื่องสุนัขที่น้ำลายไหลบ่อยที่สุดอีกด้วย ใครที่เป็นเจ้าของจะต้องคอยเช็ดปากทำความสะอาดให้มันอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้มันดูสกปรก โดยเฉพาะตอนที่มันเพิ่งจะดื่มน้ำเสร็จ

     รอยย่นและรอยพับที่ห้อยอยู่มากมาย ริมฝีปากที่ห้อยระย้าทำให้ ดูเหมือนันอยู่กลางแดดมากเกินไป แต่ถึงอย่างไร นโปเลียน มาสทิฟ ก็ยังเป็นสุนัขสายพันธุ์โบราณที่มีความสวยงามในแบบของมัน

4. บลูด็อก (Bulldog)
 

 

     ริ้วรอยที่น่ารัก ขาสั้นๆ ทำให้เจ้าบลูด็อกดูตะมุตะมิ ถ้าฝึกสอนมาอย่างดีจะเหมาะสำหรับให้เป็นเพื่อนเล่นของเด็กๆ ได้ด้วย เพราะสุนัขสายพันธุ์นี้ค่อนข้างใจดีและความอดทนสูง จึงไม่แปลกเมื่อเวลาเด็กๆ เข้าไปเล่นเข้าไปแหย่มันถึงนอนเนิ่งไม่ขยับไปไหน อาจจะเพราะเป็นสุนัขที่ค่อนข้างขี้เกียจอยู่แล้วเพราะเวลาส่วนใหญ่ของมันคือการนอน

     ถ้าใครคิดจะเลี้ยงบลูด็อกเพื่อเป็นพี่เลี้ยงเด็กต้องอย่าลืมทำความสะอาดบริเวณรอยพับของผิวหนังและใบหน้า และจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกๆ และสุนัขของคุณนะครับ

5. บลัดฮาวด์ (Bloodhound)

 

 

   ตาตก คิ้วขมวด ขี้เกียจ แถมยังคางหย่อนอีก ดูยังไงเจ้าสุนัขพันธุ์บลัดฮาวด์ก็ดูไม่น่ารักเอาซะเลยว่าไหมครับ แต่รู้หรือไม่ว่าบลัดฮาวด์เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีความอ่อนหวานและอ่อนไหวมากๆ เลย แถมยังมีชื่อเสียงในทักษะด้านการดมกลิ่นและความความสามารถในการติดตามที่น่าเหลือเชื่อ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่มักจะเลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้านกันขโมย แต่ว่าเจ้าบลัดฮาวด์ยังมีอีกความสามารถหนึ่งที่เจ้าของต้องควรระวัง นั่นคือความสามารถในการปล่อยน้ำลายโดยเฉพาะหลังกินอาหารเสร็จเราควรเช็ดปากหรือล้างหน้าให้มันไม่อย่างนั้นอาจจะโดนมันสะบัดน้ำลายใส่เอาไม่รู้ด้วยนะ

     บลัดฮาวด์ยังเป็นหนึ่งสายพันธุ์ที่ตำรวจและทหารมักใช้เพื่อทำการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องของการติดตามสิ่งเสพติดหรือผู้ก่อการร้าย ซึ่งเราจะเห็นได้บ่อยๆ ในต่างประเทศ นอกจากนี้มันยังมีความเป็นมิตรต่อคนในครอบครัวของมันโดยเฉพาะเด็กๆ ที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน บลัดฮาวด์ก็จะเปรียบเสมือนคุณลุงใจดีที่คอยสอดส่องดูแลหนูๆ อยู่ห่างๆ โดยจะไม่ให้ละสายตาไปไหน