โดย: พริกขี้หนู
เทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!!
ช่วงหน้าร้อนน้องหมามักดุกว่าปกติ ต้องรีบจัดการ
17 เมษายน 2557 · · อ่าน (108,897)
เคยสงสัยไหมคะว่าน้องหมาสายโหดส่วนใหญ่มักจะเป็นน้องหมาขนสั้น อย่าง อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย, โดเบอร์แมน, ร็อตไวเลอร์, บูล เทอร์เรีย, ฟิล่า บราซิล, เคน คอสโซ่, โดโก อาร์เจนติโน่ และเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ รวมไปถึง น้องหมาพันธุ์ไทยอย่าง ไทยหลังอาน ซึ่งหากมองย้อนกลับกันไปยังถิ่นฐานรากเดิม จะพบว่า พวกเขาได้รับการผสมและพัฒนาสายพันธุ์เพื่อมาเป็นน้องหมาอารักขา เฝ้าทรัพย์สิน ล่าสัตว์ ใช้เพื่อแข่งขันเกมต่อสู้ และเลี้ยงไว้ใช้ในการทำศึกสงครามค่ะ
แต่พอยุคสมัยเปลี่ยน แม้พวกเขาไม่จำเป็นต้องล่าสัตว์ ออกแข่งขันประชันความแข็งแกร่ง หากนิสัยดั้งเดิมของพวกเขาก็ยังคงติดอยู่ในสายเลือด คอยระวังภัย หวงแหนทรัพย์สิน และที่สำคัญพวกเขายังต้องการมีผู้นำที่เข้มแข็งสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงทางจิตใจ ไม่เช่นนั้นไม่ยอมให้ควบคุมง่ายๆ ค่ะ จำเป็นต้องมีเทคนิคการฝึกเพื่อเอาชนะใจ เปลี่ยนจากความดุร้ายให้กลายมาเป็นน้องหมาเจี๋ยมเจี้ยมที่น่ารักค่ะ
1. ผู้เลี้ยงน้องหมามีความมั่นคงทั้งกายและใจ
แม้ช่วงนี้กระแสเลี้ยงน้องหมาจะเน้นแนวน่ารัก มุ้งมิ้ง แสนซน อย่างไซบีเรียน บีเกิ้ล คอร์กี้ แต่ก็คงมีหนุ่มๆ และสาวๆ ขาโหดหลายคนอยากเลี้ยงน้องหมาร่างใหญ่ กำยำ ดุดัน อย่างที่ใครเห็นก็ต้องหลบให้เดินก่อน ซึ่งผู้ที่จะเลี้ยงน้องหมาเหล่านี้ได้ ก่อนอื่นเลยก็ต้องรู้ตัวเองว่า ตนมีพละกำลัง มีอำนาจต่อกร และ ต่อรองกับน้องหมาหัวแข็งพวกนี้ ความน่ารักมุ้งมิ้ง อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องหลังจากที่เขายอมรับเราแล้วว่ามีอำนาจเหนือกว่าพวกเขา เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราเผยความอ่อนแอออกมา ... นั่นคือจุดจบของการเป็นเจ้านายของเราทันที แล้วน้องหมาก็จะยิ่งแสดงความก้าวร้าวออกมาเพิ่มขึ้นค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า กว่าผู้เลี้ยงจะไปถึงจุดที่สามารถควบคุมพวกเขาได้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีวินัยทั้งต่อตนเอง และต่อน้องหมา ... ต้องเป็นเจ้านาย (จ่าฝูง) ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
โดยมิวิธีการง่ายๆ ที่ต้องใช้วินัยและความอดทนก็คือ ไม่ว่าจะทำอะไรภายในบ้าน เราต้องเป็นที่ 1 เสมอ เช่น กินข้าวก่อน เดินออกจากบ้านก่อน ทักทายก่อน ต้องอนุญาตก่อน และ ต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าเราเป็นเจ้าของบ้านตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเข้ามาในบ้าน โดยการพาไปเดินรอบบ้าน เมื่อพวกเขาสนใจอยากอื่นให้ออกคำสั่งว่า “ไม่” กระตุกสายจูงให้น้องหมารู้สึกตัว เวลาให้ข้าวกิน น้องหมาต้องไม่หวง เราต้องสามารถจับสิ่งของของพวกเขาได้โดยที่เขายินยอม เราต้องนิ่ง ไม่โวยวาย ตีโพยตีพาย เมื่อเขาทำผิด ถ้าจะทำโทษให้ใช้วิธีการฉก หรือ การกระตุกโซ่ ออกคำสั่งสั้นๆ กระชับ ชัดเจน เสียงก้องกังวาน จ้องตานิ่ง เหมือนฝึกทหารค่ะ ห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาด ซึ่งการแสดงความเป็นจ่าฝูงนี้คือด่านแรกและด่านที่สำคัญที่สุด ถ้าด่านนี้ไม่ผ่าน ... ด่านต่อไปลำบากแน่ค่ะ (อ่านเพิ่มเติม บทความ จิตวิทยาง่ายๆ ในการฝึกตนเองให้เป็น "จ่าฝูง" ของสุนัข และ กฎเหล็ก 3 ข้อ ที่จะทำให้การฝึกน้องหมามีประสิทธิภาพ ค่ะ)
2. รู้จักวิธีการจูงน้องหมาอย่างถูกต้อง
เมื่อน้องหมาเริ่มคุ้นชินกับเราแล้ว ต่อไปก็ต้องให้เรียนรู้ที่จะอยู่ใต้อำนาจเบ็ดเสร็จเมื่อถูกใส่สายจูง น้องหมาจะรู้ในทันทีว่า เมื่ออยู่กับสายจูง พวกเขาต้องอยู่ภายใต้อาณัติของเรา รอฟังคำสั่งสถานเดียว โดยอุปกรณ์ที่ใช้จะเป็น "โซ่กระตุก" หรือ "chek chain" เอาไว้ใช้ควบคุมน้องหมา เริ่มแรกน้องหมาอาจจะไม่คุ้น เครียด อึดอัด และ ต่อต้าน แนะนำให้คล้องโซ่หลังกกหูเท่านั้น การกระตุกเตือนจึงจะได้ผล ไม่ควรคล้องดึงใต้คอ แล้วลากเขาให้เดินตามเรานะคะ น้องหมาจะรู้สึกเจ็บ ทำให้ต่อต้านการจูงมากยิ่งขึ้นค่ะ
หากน้องหมาเกิดหยุดเดิน ให้เราหยุดก้าว ห้ามถอยหลังเด็ดขาด แล้วค่อยๆ กระตุกโซ่ให้ลุกขึ้น ดึงโซ่ไว้ อย่าเพิ่งผ่อน น้องหมาเมื่ออึดอัดจะลุกขึ้นมาเอง จากนั้นให้ขนม หรือ คำชมเป็นรางวัลค่ะ ฝึกไปเรื่อยๆ จนน้องหมาเริ่มชินนะคะ อย่าใจอ่อนเด็ดขาดค่ะ พลาดครั้งที่หนึ่ง ใช่ว่าจะมีครั้งที่ 2 เสมอไปนะคะ
หากน้องหมาเกิดหยุดเดิน ให้เราหยุดก้าว ห้ามถอยหลังเด็ดขาด แล้วค่อยๆ กระตุกโซ่ให้ลุกขึ้น ดึงโซ่ไว้ อย่าเพิ่งผ่อน น้องหมาเมื่ออึดอัดจะลุกขึ้นมาเอง จากนั้นให้ขนม หรือ คำชมเป็นรางวัลค่ะ ฝึกไปเรื่อยๆ จนน้องหมาเริ่มชินนะคะ อย่าใจอ่อนเด็ดขาดค่ะ พลาดครั้งที่หนึ่ง ใช่ว่าจะมีครั้งที่ 2 เสมอไปนะคะ
3. เคร่งครัดในการฝึก แต่ไม่ใช้ความรุนแรง
เมื่อน้องหมาเริ่มคุ้นเคยกับสายจูงแล้ว เราก็สามารถจัดเต็มกับการฝึกวินัยและฝึกให้รู้จักกฏระเบียบพวกเขาได้อย่างเต็มที่ค่ะ ซึ่งการฝึกเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการควบคุมน้องหมาไม่ให้ก้าวร้าว รู้กฏกติกาทั้งของบ้านและของสังคม คำสั่งพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อใช้ในการต่อยอด พัฒนาการฝึกของพวกเขาให้อยู่ใต้โอวาทของเรา ซึ่งข้อดีของน้องหมาดุ ก็คือ ธรรมชาติของพวกเขาเกิดมาเพื่อรอรับคำสั่งอย่างสงบนิ่ง มีความมั่นคง อยู่ภายใต้การควบคุมของจ่าฝูง และที่สำคัญเราต้องไม่ทำโทษด้วยการตี หรือ การต่อว่าใส่อารมณ์กับน้องหมา เพราะนอกจากการตีจะไม่ทำให้น้องหมาประพฤติตัวดีขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดความเครียด นำไปสู่ความก้าวร้าวมากขึ้นอีกด้วยค่ะ ... ดังนั้น ถ้าเขามีทีท่าไม่อยากฝึก ก็ให้พัก แล้วเมื่อหายเครียดค่อยฝึกใหม่อีกครั้ง ฝึกวันละนิดทุกๆ วันก็พอค่ะ
(อ่านเพิ่มเติม บทความ การฝึกน้องหมาให้รู้จักกฎระเบียบของบ้าน และ เคล็ด (ไม่) ลับ! การฝึกให้น้องหมารู้จักควบคุมตัวเอง ค่ะ)
4. พาออกกำลังกายใช้พลังงาน ออกสังคม
หลายคนเลี้ยงน้องหมาดุๆ ก็อยากให้เขาดุสมกับที่ใครกล่าวขาน จึงใช้วิธีการขังไว้ในบ้าน ไม่ให้พบปะกับใคร สะสมความดุไว้ให้คนอื่นหวาดกลัว ...โดยที่ไม่รู้เลยว่า น้องหมาจะดุและก้าวร้าวกับเราด้วย เนื่องมาจากความเครียดที่ถูกกักขัง จึงหงุดหงิดง่าย และมีพลังงานเหลือใช้ การพาออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยพัฒนาอารมณ์ในทางบวก อีกทั้งยังช่วยในการเผาผลาญพลังงาน เป็นการฝึกวินัย และ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวน้องหมากับผู้เลี้ยงในทางอ้อม
ส่วนข้อดีในการออกสังคม คือจะเป็นการเรียนรู้กฏระเบียบและกติกานอกบ้าน ว่าอะไรควรทำ และไม่ควรทำ ซึ่งประสบการณ์นอกบ้านที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า จะช่วยสอนให้เรารู้จักนิสัยน้องหมามากขึ้น และเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กับพวกเขาค่ะ เพื่อที่น้องหมาจอมโหดของเรารู้กาลเทศะ เคารพกติกาทั้งในบ้านและนอกบ้าน นั่นเอง
5. มอบความรักให้อย่างพอเพียงและสม่ำเสมอ
เห็นพวกเขาเป็นน้องหมาแข็งแกร่ง ดุดัน ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเพิกเฉยต่อความรัก การดูแลเอาใจใส่นะคะ ถึงแม้เราจะต้องแสดงตนว่าเป็นจ่าฝูง มีอำนาจเหนือตลอดเวลา ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะยิ้ม ลูบหัว กอด หรือเล่นกับพวกเขาไม่ได้ เพียงแต่ต้องทำอย่างมีสติ ไม่โวยวาย ดีใจ กรี๊ดกร๊าด จนน้องหมาคึกคัก ควบคุมตัวเองไม่อยู่ไปกับเราค่ะ แต่อาจจะใช้วิธีการสัมผัส นวด การใช้น้ำเสียงอ่อนโยน ตบไหล่เบาๆ หาเกม กิจกรรมร่วมกันเล่นกับพวกเขา แม้กระทั่งการแปรงขน การทำความสะอาดก็เป็นอีกหนทางในการมอบความรักค่ะ แล้วเมื่อน้องหมารับรู้ถึงความรัก ความเมตตาของเรา พวกเขาก็จะใจเย็น นิ่งสงบลงค่ะ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ฝึก "พิทบูล" อย่างไรไม่ให้ทำร้ายคน ค่ะ)
6. ให้อิสระ ปล่อยเวลาให้พวกเขาได้อยู่เงียบๆ
สุดท้ายก็คือ การได้ปล่อยให้พวกเขาได้เป็นตัวของตัวเอง มีเวลาส่วนตัว ได้เล่น ได้นอนพัก นอนแช่น้ำ กินอาหาร ได้สำรวจบ้านโดยไม่มีใครตามจี้ ได้นอนเงียบๆ ไม่มีใครตอแย ซึ่งการปล่อยให้พวกเขาได้มีเวลาเงียบๆ ของตัวเอง นอกจาก จะช่วยลดความเครียดแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่เป็นอิสระจากหน้าที่ รู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งช่วงหน้าร้อน น้องหมาจอมโหดยิ่งหงุดหงิดง่าย ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้เลี้ยงจึงต้องระมัดระวังไม่ให้เด็กในบ้าน หรือคนในบ้านไปตอแยเข้าใกล้ ไม่เช่นนั้นอาจโดนแว้งกัดได้ค่ะ
การควบคุมน้องหมาดุ สุดโหดเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความอดทน และ ระเบียบวินัยที่สูงมาก ... โดยเฉพาะวินัยต่อการเลี้ยงของตัวเอง บางคนฮึดทำได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ แล้วก็ผ่อนลง ทำบ้างไม่ทำบ้าง น้องหมาก็จะเกิดความสับสนว่าตกลงอะไรคือกฏกติกาที่ถูกต้องกันแน่ ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงทางจิตใจของพวกเขา จนทำให้เกิดก้าวร้าวอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น ถ้าน้องหมาของเริ่มฉายแววความดุ ไม่ควรนิ่งดูดาย แต่ต้องรีบฝึกให้พวกเขาอยู่ในโอวาทก่อนจะสายเกินไปนะคะ
บทความโดย : Dogilike.com
http://www.dogilike.com/
ข้อมูลอ้างอิง :
http://pitbullsarea.com/2013/12/13/five-tips-potty-train-bull-terrier-puppies/
http://pitbullsarea.com/2013/12/13/five-tips-potty-train-bull-terrier-puppies/
ภาพประกอบ :
list25.com
www.bethepackleader.co.uk
www.thenortheastdogdirectory.co.uk
lak9s.com
www.dailymail.co.uk
www.giovannasdogtraining.com
www.dogbreedinfo.com
- ส่งต่อให้เพื่อน:
- Categories : การฝึก การสื่อสาร ·
SHARES