โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection) ส่วนใหญ่เลยจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียครับ แต่ก็มีบางรายที่เกิดจากการติดเชื้อราได้เช่นกัน เชื้อพวกนี้บางทีเกิดจากการติดย้อนขึ้นไปจากอวัยวะใกล้เคียงเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจเป็นเชื้อแบคทีเรียจากอุจจาระของสุนัขเอง หรือเชื้อโรคที่ได้รับจากสิ่งแวดล้อมภายนอกเข้าสู่ร่างกาย บางครั้งก็เกิดจากการที่สภาพแวดล้อมในทางเดินปัสสาวะเปลี่ยนไปทำให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในนั้น ซึงมักพบในสุนัขเพศเมียมากกว่าสุนัขเพศผู้ เนื่องจากสุนัขเพศเมียมีทางเดินปัสสาวะที่สั้นและมีทางเปิดที่กว้างกว่าในสุนัขเพศผู้ โดยสุนัขที่มีความผิดปกติของโครงสร้างทางเดินปัสสาวะจะมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายกว่า มีรายงานพบบ่อยในสุนัขบางพันธุ์ เช่น German shepherd, miniature and toy poodles, Labrador retrievers, dachshunds, Doberman pinschers และ miniature Schnauzers ฯลฯ รวมถึงในสุนัขเพศผู้ที่ป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากอักเสบบางราย ก็อาจทำให้เกิดโรคนี้ตามมาได้เช่นกันครับ

 

 

 

 

 

     อาการของน้องหมาที่ป่วยเป็นโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ก็มักจะแสดงอาการปัสสาวะผิดปกติไป  เช่น ปัสสาวะกระปิดกระปอย มีสีปัสสาวะเปลี่ยนไป ปัสสาวะสีแดงหรือมีเลือดปน ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นเน่า มีอาการปวดเบ่งเวลาที่ปัสสาวะ ฯลฯ อาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกให้เราทราบว่า สุนัขอาจกำลังป่วยต้องรีบพาสุนัขเข้ารับการตรวจแล้วโดยเร็ว ซึ่งการตรวจวินิจฉัยโรคนั้น นอกจากคุณหมอจะได้ทำการตรวจร่างกายทั่วไปแล้ว ยังจะต้องทำการเก็บปัสสาวะไปทำการตรวจวิเคราะห์ และเพาะเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงการตรวจเลือด ถ่ายภาพรังสี หรืออัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจดูความผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทางเดินปัสสาวะด้วย น้องหมาที่ป่วยอาจตรวจพบว่า กระเพาะปัสสาวะอักเสบทำให้มีผนังกระเพาะปัสสาวะเกิดการหนาตัวขึ้นได้ครับ

 

 

 

      สุนัขที่ป่วยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อติดต่อกันอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ขึ้นไป โดยการใช้ยาใดนั้นอาจพิจารณาจากเชื้อที่ได้รับและผลการทดสอบความไวของยาต้านจุลชีพ นอกจากนี้เจ้าของควรให้สุนัขกินน้ำเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มการสร้างปัสสาวะ รวมถึงอาจปรับอาหารที่ให้เป็นอาหารรักษาโรคตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก่อน  ส่วนการรักษาอื่น ๆ ก็ขึ้นกับอาการป่วยของสุนัขแต่ละตัวว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจะต้องได้รับยาตามอาการเช่น ถ้ามีอาการปวดก็จะได้รับยาลดปวด เป็นต้น สุนัขบางตัวที่มีนิสัยต้องออกไปปัสสาวะ จะต้องไม่ถูกขังเป็นเวลานาน เพราะสุนัขจะอั้นปัสสาวะนานเกินไป สุนัขที่เคยเป็นโรคนี้แล้วควรได้รับการตรวจสุขภาพ เพื่อเฝ้าติดตามโรคเป็นประจำ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก ซึ่งอาจเกิดได้ในบางรายครับ

     

     ปัจจุบันมีแนวคิดเรื่อง โภชนเภสัช มีการนำสารสกัดจากแครนเบอร์รีมาใช้ในสุนัข โดยในแครนเบอร์รี่จะมีสารออกฤทธิ์สำคัญที่ชื่อว่า โปรแอนโธรไซยานิดิน (Proantrocyanidins) ช่วยป้องกันไม่ให้เชื่อโรคมาสัมผัสกับผนังกระเพาะปัสสาวะ และยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ด้วย พบว่าสามารถช่วยยับยั้งการเกาะของเชื้อแบคทีเรียกับผนังกระเพาะปัสสาวะของสุนัขได้ (Bacteriostatic effect) และยังช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินปัสสาวะด้วย ปัจจุบันมีรูปแบบของสารสกัดชนิดแคปซูลซึ่งใช้ได้สะดวก แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของสัตวแพทย์ด้วยนะครับ