โดย: Tonvet

เมื่อน้องหมาตายลงแล้วร่างกาย (ซาก) จะเปลี่ยนไปอย่างไร

สืบจากซากน้องหมา เรื่องเล่าหลังความตายกับการเปลี่ยนแปลงไปของร่างกายสุนัข

4 เมษายน 2561 · · อ่าน (60,541)
631

SHARES


631 shares

 

  • ภายหลังจากน้องหมาตายลง ร่างกาย (ซาก) จะเริ่มเย็นตัวลง แข็งทือ มีจ้ำเลือดมาคั่งบริเวณส่วนล่างตามแรงโน้มถ่วง และเริ่มเน่าเปื่อยย่อยสลาย

 

  • การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย (ซาก) เหล่านี้ สามารถนำมาประเมินช่วงระยะเวลาของการตายได้

 

  • การเปลี่ยนแปลงของซากนั้นแต่ละตัวจะช้าหรือเร็วไม่เท่ากัน ขึ้นกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ฤดูกาล สภาพก่อนตาย ขนาดตัว ขนและหนังที่ปกคลุม ความอ้วนผอม ฯลฯ

 

Dogilike.com :: เมื่อน้องหมาตายลงแล้วร่างกาย (ซาก) จะเปลี่ยนไปอย่างไร


 

     ถ้าให้พูดถึงเรื่องที่สร้างความเสียใจอันแสนที่สุดในชีวิตก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความตาย หลายคนมักตั้งคำถามเกี่ยวกับความตายในแง่มุมต่าง ๆ ถ้าใครถามผมว่า น้องหมาตายแล้วไปไหนนั้น ผมก็คงจะตอบให้ไม่ได้ ทราบแค่ว่า "ตายแล้ว...ถ้าไม่ไปเผาก็คงไปฝัง" แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ สงสัยว่า ทำไมน้องหมาตายแล้วตัวแข็งทือ หรือว่าทำไมน้องหมาตายแล้วตัวเย็นลง แบบนี้ก็พอจะอธิบายได้ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ครับ วันนี้เรามาเรียนรู้กันว่า เวลาที่น้องหมาตายลงแล้ว ร่าง (ซาก) นั้นจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง และเราสามารถประเมินระยะเวลาการตายของน้องหมาจากร่างได้อย่างไร...มีคำตอบครับ 
 
 
 
 
 

ร่างกายน้องหมาจะเย็นลง (Algor mortis)

 
 
 
     หลังจากสุนับตายลงอุณหภูมิในร่างกาย (ซาก) จะค่อย ๆ เย็นลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากอวัยวะทุกอย่างในร่างกายหยุดทำงาน การเมตตาบอลิซึมระดับเซลล์จะลดลง และร่างกายมีการระบายความร้อนออกไป ซึ่งตัวจะเย็นลงจะช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นกับขนาดตัวของน้องหมา น้องหมาที่มีตัวหนา อ้วน มีไขมันสะสมมาก การระบายความร้อนไม่ค่อยดี พวกนี้ตัวจะเย็นช้า เช่นเดียวกับหมาที่มีขนปกคลุมมาก ขนยาวหรือขนหนา ร่างกายก็จะเย็นตัวลงช้ากว่าเช่นกัน นอกจากนี้สภาพแวดล้อม เช่น วางซากอยู่บนแผ่นโลหะก็จะระบายความร้อนออกจากซากไปได้เร็วกว่าพื้นไม้ พวกนี้ซากก็จะเย็นลงได้เร็ว หรือสภาวะที่น้องหมาเป็นก่อนตายก็มีส่วนที่ทำให้ซากเย็นตัวเร็วหรือช้า สุนัขที่มีไข้สูง เป็นภาวะลมแดด หรือมีอาการชักก่อนตาย พวกนี้ทำให้ร่างกายเกิดอุณหภูมิสูงขึ้นก่อนตาย ในทางตรงกันข้ามถ้าน้องหมาตายจากการช๊อคหรือตายจากการวางยาสลบ อุณหภูมิร่างกายก็จะต่ำ ส่วนสัตว์ที่เกิดอุบัติเหตุ จนมีการเสียเลือดมากแล้วตาย อุณหภูมิของซากก็จะเย็นตัวเร็วขึ้นนั่นเอง ซึ่งหากซากไหนมีอุณหภูมิสูง การเน่าเปื่อยก็จะเร็วกว่า ซึ่งจะได้กล่าวถึงในหัวข้อต่อไป
 
 
 
 

ร่างกายน้องหมาจะแข็งทือ (Rigor mortis)

 

 
 
     พอหลังจากที่น้องหมาตายได้ 1-6 ชั่วโมงขึ้นไป กล้ามเนื้อในร่างกายจะเริ่มเกร็งตัว ภายหลังจากที่กระบวนการเมตตาบอลิซึมลดลง กล้ามเนื้อก็จะไม่มีพลังงาน ATP ให้ใช้ พลังงาน ATP ที่หลงเหลืออยู่บางส่วนจึงถูกนำไปใช้ เกิดกรดแลคติคเพิ่มขึ้นในกล้ามเนื้อ ร่างของน้องหมาจะเริ่มแข็งตัว โดยเฉพาะอวัยวะที่มีการใช้พลังงานมาก เช่น กล้ามเนื้อขา หาง ขากรรไกร ฯลฯ ทั้งนี้ก็ขึ้นกับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งสภาพแวดล้อมและสภาวะร่างกายก่อนตาย พอหลังจากที่ร่างกายแข็งตัวแล้ว จากนั้นกล้ามเนื้อที่เกร็งตัวอยู่จะเริ่มคลายตัว ซึ่งช่วงก่อนที่จะคลายตัวนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือข้ามวันแตกต่างกันไปในแต่ละร่าง เพื่อเข้าสู่ภาวะเน่าเปื่อย ซึ่งอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมที่ร้อน ก็จะทำให้การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อสลายไปอย่างรวดเร็ว ร่ายกายจะกลับมาขยับได้อีกครั้ง แต่ตัวน้องหมาจะเริ่มอ่อนปวกเปียก เพราะเริ่มที่จะเน่าแล้ว

 
 

Dogilike.com :: เมื่อน้องหมาตายลงแล้วร่างกาย (ซาก) จะเปลี่ยนไปอย่างไร
 


 

ร่างกายน้องหมาจะเริ่มเน่า (Autolysis)

 


     เป็นกระบวนการย่อยสลายตัวเองตามธรรมชาติ โดยอาศัยเอนไซม์จากภายในเซลล์ของเนื้อเยื่อ ภายหลังจากที่ตายไปแล้ว 24 ชั่วโมงขึ้นไป ที่เกิดขึ้นเมื่อการทำงานของร่างกายพอหยุดลง เซลล์ในร่างกายเกิดการสลายตัว แล้วปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยทำลายเซลล์ของตัวเองและเซลล์รอบข้าง อวัยวะที่มีเซลล์ผลิตเอนไซม์จำนวนมาก ๆ ก็จะเน่าเปื่อยเร็ว เช่น ตับ ลำไส้ กระเพาะอาหาร ฯลฯ การทำมัมมี่สมัยโบราณเลยมีการนำเอาอวัยวะภายในออกไป เพื่อช่วยลดการเน่าเปื่อยก่อนที่จะผ่านกระบวนการรักษาสภาพร่างตามกรรมวิธีนั่นเอง ทีนี้การเน่าเปื่อยนั้นจะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับว่า สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ถ้าอยู่ในฤดูหนาวซากก็จะเน่าช้ากว่าฤดูร้อน หรือสภาพน้องหมาก่อนตายนั้นเป็นอย่างไร ถ้าเป็นสุนัขที่มีการติดเชื้อก่อนตาย โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ ก็จะทำให้เกิดการเน่าได้เร็วขึ้น หรือน้องหมาที่อ้วนก็จะเก็บความร้อนเอาไว้ในร่ายกายได้มาก ทำให้เกิดการเน่าเร็วกว่าเช่นกัน 
 


 
 

ร่างกายน้องหมาจะเกิดจ้ำเลือดมาคั่ง (Livor motis)

 
 
 
     พอหลังจากน้องหมาตายไป 6-10 ชั่วโมง อวัยวะที่อยู่ต่ำกว่าของซากจะเปลี่ยนสีเป็นสีม่วงแดง คล้ายกับมีจ้ำเลือดหรือปื้นเลือดมาคั่ง เนื่องจากเลือดนั้นไหลลงต่ำตามแรงโน้มถ่วง เลือดจะรั่วออกมาจากเส้นเลือดมาคั่งในส่วนที่ต่ำกว่า หากน้องหมานอนตายในท่านอนคว่ำเอาพุงลงพื้นและอยู่ในท่านี้ต่อไปหลังจากที่ตายแล้ว ก็จะพบว่าที่ท้องหรืออวัยวะส่วนล่างที่ติดพื้นของซากจะเกิดการคั่งของเลือดเห็นเป็นสีม่วงแดงได้ ซึ่งสีของจ้ำนี้จะย้ายตำแหน่งได้ ถ้าซากมีการเปลี่ยนท่าในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรก หากยังไม่อยู่ตัว และจะไม่เคลืื่อนย้ายไปไหนแม้มีการเปลี่ยนท่าทางหรือพลิกตัว เมื่ออยู่ตัวแล้ว
 

 
Dogilike.com :: เมื่อน้องหมาตายลงแล้วร่างกาย (ซาก) จะเปลี่ยนไปอย่างไร



 

น้องหมาตายมานานเท่าไรแล้ว

 
 
 
     หากไล่ช่วงเวลาตั้งแต่หลังจากสุนัขตายลงแล้ว ตัวจะเริ่มเย็นลงตั้งแต่เริ่มตายเฉลี่ยจะลดลงชั่วโมงละ  1 องศาฟาเรนไฮต์ ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ตามที่กล่าวไป ซึ่งอุณหภูมิร่างกายปกติของสุนัขขณะยังมีชีวิตคืออยู่ที่ 101-102.5 องศาฟาเรนไฮต์ พอหลังจากตายไปได้สัก 1-6 ชั่วโมงร่างจะเริ่มแข็ง  และเริ่มแข็งทือทั้งตัวเต็มที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย และอาจเห็นจ้ำเลือดมาคั่งในบริเวณร่างกายส่วนที่ต่ำกว่าตามแรงโน้มถ่วง เห็นเป็นสีม่วงแดงประมาณ 6-10 ชั่วโมงหลังจากที่ตายไป พอหลังจากตายไปได้สัก 24 ชั่วโมง ร่างก็จะเริ่มอ่อนตัวลงอีกครั้ง พร้อมกับเริ่มเน่า และกลับมาตัวขยับได้แต่ร่างจะอ่อนปวกเปียก ซึ่งต้องบอกว่าการประเมินระยะเวลาหลังการตายนี้ เป็นการกะประมาณเป็นช่วงเวลาเท่านั้น ไม่สามารถระบุชัดเจนได้ เนื่องจากสัตว์แต่ละตัวอาจมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพซากไม่เหมือนกันขึ้นกับปัจจัยต่าง ๆ ตามที่กล่าวไปครับ
 
 
 
 
 
     เรื่องเกิดแก่เจ็บตายไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้นนะครับ น้องหมาก็เช่นกันมีเกิดย่อมมีดับเป็นเรื่องธรรมดา และเรื่องของความตายนี้ แม้จะยังห่างไกลจากตัวเราไปสักหน่อย แต่หากเรียกรู้ไว้ ก็สามารถใช้เป็นประโยชน์ได้เหมือนกัน อย่างการเปลี่ยนแปลงของร่างหลังความตายนี้ สามารถนำมาใช้ประเมินหาสาเหตุ กลไก หรือระยะเวลาการตายได้อีกด้วย เรียนรู้ไว้ไม่เสียหลาย และหากใครสงสัยเรื่องอะไรเกี่ยวกับน้องหมา เรามีคำตอบให้เสมอครับ ติดตามเราไว้ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะ Dogilike (ด็อกไอไลค์) เรารู้จริงเรื่องน้องหมา ตั้งแต่ก่อนเกิดยันหลังตายเลยทีเดียว



บทความโดย: หมอต้น ด็อกไอไลค์
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์


เนื้อหาอ้างอิงบางส่วน :
สมพร เตชะงามสุวรรณ. นิติพยาธิวิทยาทางสัตวแพทย์. หนังสือพยาธิวิทยาขั้นพื้นฐานทางสัตวแพทย์.พิมพ์ครั้งที่  4 : หสน. ปอยท์ กราฟิค. หน้า 409 -417
 
รูปภาพประกอบ :
http://www.holidogtimes.com/wp-content/uploads/2016/02/dogs-sleeping-position-cover.png?2e4e73
http://cdn3-www.dogtime.com/assets/uploads/2017/02/dog-sleep-habits-10.jpg
http://cdn0.wideopenpets.com/wp-content/uploads/2016/07/bigstock-Dog-lying-upside-down-on-her-b-25892144-770x405.jpg