โดย: พริกขี้หนู
เปิดโลกน้องปั๊ก ... เรื่องที่ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องรู้!
ไม่ว่ากำลังเลี้ยงอยู่ หรือ กำลังจะเลี้ยง เรื่องเหล่านี้อาจต้องรู้
9 กันยายน 2556 · · อ่าน (145,442)
แต่ก่อนพริกเคยคิดกันว่าน้องหมาไม่ว่าพันธุ์ไหนก็คือ น้องหมาเหมือนกันหมด เห่า เฝ้าบ้านได้ ซื่อสัตย์ ดูแลตัวเองได้ อารมณ์แบบหมาบ้านไทยๆ แค่มีลักษณะรูปร่าง สีขน เชื้อชาติสายพันธุ์แตกต่างกันเท่านั้น จนกระทั่งเริ่มทำความรู้จักน้องหมาแต่ละสายพันธุ์ ไม่ว่าไซบีเรียน ฮัสกี้ ชิสุ จึงเริ่มเห็นความแตกต่างของลักษณะบุคลิก ลักษณะนิสัย รสนิยมการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบทความเรื่องน่ารู้ครั้งนี้ก็มาถึงคิวน้องปั๊ก น้องหมาตาโตแต่เชื้อสายจีน มาดูกันค่ะว่าโลกของพวกเขาจะน่ารัก น่าอยู่ หรือจะแสบป่วนกวนซ่าขนาดไหนนนนนน >///<
1. ปั๊กเป็นน้องหมาสายพันธุ์เก่าแก่
คงไม่น่าแปลกใจใช่ไหมคะ ที่น้องหมาหน้าย่น รอบหน้าดำครึ้มเหมือนไรเครามองแล้วเหมือนคุณลุงอย่างน้องหมาพันธุ์ปั๊กจะมีต้นกำเนิดในประเทศจีนเมื่อประมาณ 400-700 ปีก่อนคริสตกาล เป็นที่นิยมเลี้ยงของเหล่าบรรดาพระทิเบต น้องปั๊กจึงค่อนข้างเป็นน้องหมาอยู่ง่าย รักสงบ ถือได้ว่าเป็นน้องหมาศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิจีน สืบเนื่องต่อไปถึงประเทศญี่ปุ่น และในยุโรป ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจมากๆ ว่าทำไมน้องปั๊กถึงมักเป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์ต่างๆ แทบทุกทวีปทั่วโลก ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ต้องรออ่านบทความเรื่องน่ารู้ตอนต่อไปในสัปดาห์หน้านะคะ
2. ปั๊กเสี่ยงกับปัญหาสุขภาพมากมายต้องดูแล
เห็นน้องปั๊กตัวใหญ่ตัน ใช่ว่าจะแข็งแรงไร้โรคภัย เพราะพวกเขามีโรคประจำอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รูจมูกตีบ เพราะพวกเขามีใบหน้าสั้น หายใจลำบาก ทนความร้อนได้น้อย จึงไม่ควรออกกำลังกายหนักจนเกินไปค่ะ มิเช่นนั้นอาจเกิดอาการฮีทสโตรกได้ค่ะ เรื่องของดวงตาก็เป็นเรื่องควรดูแลเป็นอย่างดี เสี่ยงต่อลูกตาหลุดออกจากเบ้าได้ รวมทั้งอาการตาดำอักเสบ ต้อกระจก และอาการติดเชื้อที่ดวงตาค่ะ ผู้เลี้ยงควรสังเกตอาการผิดปกติของพวกเขา และพาไปตรวจร่างกาย ไม่ควรปล่อยทิ้งให้เกิดอาการต่างๆ ไว้นานนะคะ ส่วนใครที่สูบบุหรี่แล้วเลี้ยงน้องปั๊ก ไม่ควรสูบใกล้ๆ พวกเขานะคะ จะเป็นอันตรายต่อระบบหายใจของพวกเขาค่ะ
3. ปั๊ก กินน้อยแต่อ้วนวัน อ้วนคืน
น้องหมาไม่ว่าจะพันธุ์ไหน ถ้าอ้วนเมื่อไหร่โรคต่างๆ ก็จะตามมา ซึ่งน้องปั๊กเป็นสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง เพราะนิสัยรักกิน (แม้อาหารต้องห้ามอย่างช็อกโกแลต หรือ องุ่น ไม่ควรวางทิ้งไว้นะคะ) ออกกำลังกายได้ไม่มาก เพราะมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ และเป็นฮีทสโตรกได้ง่าย ชอบนอนนิ่งๆ ใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ถ้าไม่ควบคุมอาหารน้องปั๊กก็จะสามารถอ้วนได้ในชั่วพริบตา ส่งผลให้เกิดโรคเบาหวาน โรคข้อต่างๆ โรคหัวใจ และโรคตับ เป็นต้นค่ะ
นอกจากเรื่องของพันธุกรรมแล้ว พฤติกรรมการเลี้ยงดูก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้น้องปั๊กเสี่ยงเป็นโรคอ้วน ทางที่ดีควรมีการจัดตารางเวลาการให้อาหารและขนมน้องปั๊ก ไม่ควรให้พวกเขากินพร่ำเพรื่อโดยเด็ดขาดค่ะ บางคนอาจใจอ่อนทนกับดวงตาเว้าวอนของพวกเขาไม่ได้ หรือเข้าใจว่าการให้อาหารหมายถึงการแสดงความรัก ซึ่งการแสดงออกความรักที่ผิดๆ เช่นนี้เองที่นำโรคภัยมาสู่พวกเขามานักต่อนักแล้วค่ะ (อ่านเพิ่มเติม การดูแลโภชนาการอาหารของน้องปั๊กได้ที่บทความ พิชิตโรคอ้วนของหมาปั๊กง่าย ๆ ด้วยโภชนาการอาหารที่เหมาะสม ค่ะ)
4. ปั๊ก น้องหมาติดบ้าน
ถึงแม้น้องปั๊กจะเป็นน้องหมาที่ปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ พาไปเที่ยวผจญภัยสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกได้ไม่มีเกี่ยง แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะรู้สึกสบายกายสบายใจกับการถูกปล่อยให้อาศัยอยู่นอกบ้านนะคะ เนื่องจาก พวกเขามีใบหน้าสั้น ไม่ทนต่อสภาพอากาศร้อน การปล่อยให้เขาอยู่นอกบ้านอาจทำให้เกิดอาการฮีทสโตรก อวัยวะต่างๆ ของร่างกายถูกทำลายได้ ส่วนในหน้าฝน หากผิวหนังอับชื้นก็จะทำให้เกิดเชื้อรา ผิวหนังอับเสบ ดังนั้นถ้าคิดจะเลี้ยงก็ไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่นอกบ้านอย่างเหงา ให้ร่างกายผุพัง อีกทั้งหัวใจก็ไม่ได้รับความรัก ความอบอุ่นเท่าที่สุนัขพันธุ์นี้ต้องการ เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว การได้อยู่ในบ้านอุ่นๆ สบายๆ เคียงข้างเจ้าของคือชีวิตที่วิเศษที่สุดสำหรับพวกเขาแล้วล่ะค่ะ
5. ปั๊ก พลังงานค่อนข้างต่ำ
ความหมายของคำว่า พลังงานต่ำ คือ ไม่ค่อยไฮเปอร์ ไม่ซุกซน ไม่พังบ้านเรือน อย่างไรก็ตาม น้องหมาที่มีพลังงานต่ำมักเหนื่อยง่าย จึงออกกำลังกายหนักๆ ไม่ค่อยได้ ชอบที่จะนั่งๆ นอนๆ เดินเล่น วิ่งเล่นได้บ้างเป็นครั้งคราว แล้วค่อยพัก ซึ่งสำหรับน้องปั๊กแล้ว พวกเขาคือหนึ่งในน้องหมาพันธุ์เล็กไม่กี่สายพันธุ์ที่พลังงานต่ำ ตามปกติแล้วน้องหมาพันธุ์เล็กไปจนถึงพันธุ์กลางจะนอนเฉลี่ย 12-13 ชั่วโมงต่อวัน แต่สำหรับน้องปั๊กพวกเขาเก็บสะสมชั่วโมงนอนมากกว่าอีกเล็กน้อย คือ ประมาณ 14 ชั่วโมงต่อวัน โซฟาไม่เคยว่างเปล่า เพราะพวกเขาจะกระโดดขึ้นไปนอนประจำที่ นอนเงียบๆ จึงเหมาะกับผู้เลี้ยงที่ชอบอยู่นิ่งๆ ชิวๆ สบายๆ ในบ้าน มีโลกส่วนตัวไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ขอเพียงมีไออุ่นของน้องหมาอยู่บนเคียงข้างตลอดก็พอ
6. ปั๊ก ขนร่วงทุกวัน
ขนสั้นๆ ของน้องปั๊ก ดูแล้วหลายคนอาจคิดว่าไม่น่าจะร่วงหรือผลัดขนสักเท่าไหร่ แต่นั่นคือความคิดที่ผิดค่ะ เพราะความจริงคือ พวกเขาผลัดขนตลอดทั้งปี ร่วงทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าโซฟา เตียง เสื้อผ้า เบาะรถ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนคิดจะเลี้ยงน้องปั๊ก แต่ไม่ชอบน้องหมาขนร่วงมากๆ หรือแพ้ขนสัตว์ อาจต้องคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนก่อนเลี้ยง หรือซื้อเครื่องดูดฝุ่นเตรียมไว้นะคะ อย่างไรก็ตาม น้องปั๊กสีดำกลับมีขนร่วงน้อยกว่าขนสีน้ำตาลเหลือง เนื่องจากขนสีดำเป็นขน 1 ชั้น ส่วนขนสีน้ำตาลเหลืองทุกเฉดสีจะเป็นขน 2 ชั้นจึงผลัดขนบ่อยๆ หากเพื่อนๆ หลงรักน้องปั๊กอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่อยากจมอยู่กับขนของพวกเขา อาจต้องเอนเอียงหัวใจมาเลี้ยงน้องปั๊กสีดำดูค่ะ ... การแปรงขนให้พวกเขาเป็นประจำทุกวัน จะช่วยผลัดขนที่หมดอายุให้ร่วงหลุดออกมาและกระตุ้นการผลิตน้ำมันที่ผิวหนังเพื่อให้ขนเงางามสุขภาพดีนะคะ ^^
7. ปั๊ก มีปัญหากับการผูกสายจูง ใส่ปลอกคอ
อย่างที่บอกไปในตอนต้นนะคะว่า น้องปั๊กเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจเนื่องจากเป็นน้องหมาหน้าสั้นทำให้มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และมีปัญหาเรื่องดวงตาซึ่งโตโปน มีเบ้าตาตื้น หากได้รับการกระทบกระเทือน หรือการบีบรัดมากเกินไป อาจทำให้ลูกตาหลุดออกมาได้ค่ะ การใส่ปลอกคอ หรือสายจูงรัดจากปลอกคออีกทีสามารถบีบรัดหลอดลมหายใจไม่ออก รวมทั้งบีบรัดเส้นประสาทตา หรือกล้ามเนื้อของดวงตาทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพพวกเขาได้ค่ะ
การแก้ปัญหาที่ถูกต้องก็คือให้ใช้สายจูงแบบที่เป็นสายรัดอก (Y-shaped harness) แทนการใช้ปลอกคอเพราะนอกจากจะไม่รัดคอให้พวกเขาได้รับอาการบาดเจ็บแล้ว การใช้สายรัดอกยังจะช่วยเสริมความมั่นใจ รู้สึกปลอดภัยและมีความมั่นคงทางอารมณ์ ขณะเดินร่วมกับเจ้าของรวมไปถึงการฝึกวินัยอีกด้วยค่ะ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวปัญหาของน้องหมาหน้าสั้นได้ที่บทความ 5 ปัญหาสุขภาพของหมาพันธุ์ (เล็ก) หน้าสั้น ค่ะ)
8. ปั๊ก ถึงตัวเล็กแต่ใจใหญ่ กลัวใครเป็นเสียที่ไหน
มองเผินๆ น้องปั๊กดูเหมือนเป็นน้องหมาขี้อาย ติดเจ้าของ บางครั้งก็ไม่กล้าเข้าใกล้คนแปลกหน้า ซึ่งถ้าผู้เลี้ยงนำน้องหมาออกจากบ้าน พาเข้าสังคมก็จะเห็นว่าธรรมชาติของพวกเขานั้นชอบเข้าหาคนแปลกหน้า หรือไม่ก็น้องหมาตัวอื่นๆ ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหน จึงจำเป็นต้องใส่สายจูงไว้ด้วยตลอดเวลาไม่ให้เดิน หรือ กระโจนเข้าหาน้องหมาตัวใหญ่ค่ะ บ่อยครั้งที่พวกเขาก้าวขวางหมายจะปกป้องหมายเจ้าของ ... แต่กลับลืมไปว่าตัวเองเป็นน้องหมาพันธุ์เล็ก หากห้ามไม่ทัน พวกเขาก็มักเป็นฝ่ายเจ็บตัวและรับประสบการณ์ไม่ที่ดีในการเข้าสังคมได้ค่ะ
9. ปั๊ก ต้องการความรัก ความเอาใจใส่สูง
น้องปั๊กคือหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกเขาต้องการอยู่ใกล้ชิดติดผู้คน เรียกร้องความสนใจ อ่อนไหวง่าย สามารถรับรู้ เรียนได้ว่าเจ้าของต้องการอะไร เอาใจถูกจุด ในทางกลับกัน พวกเขาก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่ตอบกลับมาค่ะ เพราะสำหรับพวกเขาแล้วการได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าถูกปล่อยให้อยู่ลำพังพวกเขาจะรู้สึกกระวนกระวาย ไม่ปลอดภัย และเซื่องซึม
ดังนั้นผู้ที่คิดจะเลี้ยงน้องปั๊กจึงควรเข้าใจความรู้สึกอ่อนไหวในตัวเขา หากพวกเขาต้องการเลียมือหรือขาของเรา ควรปล่อยให้พวกเขาเลียนะคะ เพราะนั่นคืออีกหนึ่งวิธีที่พวกเขาใช้ในแสดงออกถึงความรักของพวกเขาว่ารักเรามากมายขนาดไหน ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว พวกเขารักเรามากกว่าที่เราคิดค่ะ แต่ถ้าพวกเขาเลียไม่ยอมหยุดอาจจะต้องมีวิธีปฏิเสธพวกเขาอย่างละมุนละม่อมจะได้ไม่เป็นการทำลายความรู้สึกค่ะ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่บทความ การแสดงความดีใจของน้องหมาแบบแปลกๆ นะคะ
10. ปั๊ก แอบขี้อิจฉาอย่างเงียบๆ
ถ้าบ้านของเพื่อนๆ คนไหนเลี้ยงน้องปั๊กร่วมกับน้องหมาหรือน้องแมว ลองสังเกตพฤติกรรมพวกเขาให้ดีจะเห็นว่าน้องปั๊กแสบใช่เล่น หวงเจ้าของแบบสุดๆ พวกเขามักจะแย่งขึ้นมานั่งตักหรือนั่งใกล้ๆ เราไม่ห่างไปไหน ยอมอุทิศตัวเกาะติดเราตลอดเวลา กีดกันสัตว์ตัวอื่นไม่ให้เข้าใกล้เรา แล้วเมื่อใดที่พวกเขาไม่ได้รับความสนใจ ก็จะหาวิธีการเรียกร้องความสนใจต่างๆ นานา ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าว ย้ำคิดย้ำทำต่างๆ ได้ค่ะ (อ่านเพิ่มเติมเรื่องน้องหมาเรียกร้องความสนใจได้ที่บทความ พฤติกรรมเรียกร้องความสนใจของน้องหมาแบบแปลกๆ ค่ะ)
น้องปั๊กเป็นสายพันธุ์ที่มีความอ่อนโยน เปราะบาง ต้องการความรักสูง พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อให้เรามีความสุขและพึงพอใจ แม้พวกเขาจะโดนจับให้แต่งตัวประหลาดๆ เป็นที่ขบขันก็ตาม ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ คนไหนเลี้ยงพวกเขาอยู่ หรือคิดจะเลี้ยงพวกเขาควรจะมีเวลาเอาใจใส่พวกเขามากๆ คอยสังเกตพฤติกรรมและปัญหาเรื่องสุขภาพของพวกเขา เพื่อที่ให้โลกใบใหญ่ของเรากับโลกใบน้อยๆ ของพวกเขาโคจรไปพร้อมๆ กัน ^^
ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.paragonkennel.com/Pug_Pros_Cons.html
http://askville.amazon.com/pros-cons-owning-pug/AnswerViewer.do?requestId=5880432
http://www.thefrisky.com/2013-06-25/pug-party-10-random-adorable-facts-about-pugs/
http://www.petwave.com/Dogs/Breeds/Pug/Personality.aspx
http://www.yourpurebredpuppy.com/reviews/pugs.html
http://www.pugalug.com/what_the_books_didnt_tell_you.html
http://www.wikihow.com/Live-with-a-Pug-Dog
http://www.pugvillage.com/general/dont-get-pug
http://voices.yahoo.com/10-things-every-pug-owner-know-6095514.html
http://www.pugvillage.com/general/dont-get-pug
ภาพประกอบ :
bunkblog.net
www.ownedbypugs.com
winniewong.typepad.com
www.tuaw.com
www.dogforums.com
www.pets4homes.co.uk
davidlwilliams.org.uk
www.pugslope.com
greytarticles.wordpress.com
www.mymodernartefact.com
www.hugpug.com
alexanderclouston.deviantart.com
- ส่งต่อให้เพื่อน:
- Categories : เรื่องน่ารู้ ·
SHARES