โดย: Tonvet
อันตราย !! ภัยร้ายที่มากับอาหารของสุนัข
มาดูสิว่าภัยร้ายอะไรบ้างที่แฝงตัวอยู่ในอาหารของสุนัข และเราจะมีวิธีป้องกันอย่างไร
17 ตุลาคม 2555 · · อ่าน (33,785)
ในการให้อาหารน้องหมาสิ่งที่เราต้องคำนึงถึง ไม่ใช่เพียงแค่ความน่ากิน ชนิด และปริมาณของอาหารเท่านั้น แต่เราควรต้องคำนึงไปถึงตัวของวัตถุดิบ ความสะอาด และความปลอดภัยด้วย ยังมีอันตรายอีกมากจากอาหารที่เรามองไม่เห็น อาหารจึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเสมอไป มันอาจกลายเป็นภัยร้ายที่มาทำอันตรายกับสุนัขของเราก็ได้
ในแต่ละปีมีสุนัขจำนวนไม่น้อย ป่วยด้วยสาเหตุจากสิ่งปนเปื้อนที่มากับอาหาร (foodborne illness) สิ่งที่ปนเปื้อนมากับอาหารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ เชื้อโรคและสารพิษ ซึ่งมีความรุนแรงแตกต่างกันไปตามขนาดและชนิดของเชื้อโรคหรือสารพิษที่ได้รับ น้องหมาสามารถแสดงอาการได้ภายใน 15 นาทีถึง 24 ชั่วโมง หลังจากการได้รับเข้าสู่ร่างกาย หรืออาจเป็นการสะสมและส่งผลเสียในอนาคต ซึ่งความรุนแรงจะมากยิ่งขึ้น หากเกิดกับลูกสุนัข สุนัขแก่ สุนัขที่มีร่างกายอ่อนแอหรือเจ็บป่วยอยู่แล้ว
สาเหตุของการได้รับเอาเชื้อโรคและสารพิษเข้าสู่ร่างกาย เกิดจากการกินอาหารที่เน่าเสีย อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกอย่างถูกวิธี คุ้ยขยะมากิน กินอาหารที่มีสารพิษบางอย่างปนเปื้อนอยู่ หรือเป็นอาหารที่เป็นพิษสำหรับสุนัขอยู่แล้ว มาดูสิว่า ... มีภัยร้ายอะไรบ้างที่แฝงตัวอยู่ในอาหารของสุนัข
1. สารพิษจากเชื้อรา (Mycotoxins)
อาหารที่มีเชื้อราปนเปื้อนก็นับว่าน่ากลัวอยู่แล้ว แต่เชื้อราเหล่านั้นยังสามารถสร้างสารพิษออกมาทำอันตรายต่อน้องหมาได้อีก การปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อราอาจมาจากวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร ทั้งอาหารปรุงเองและอาหารสำเร็จรูป เช่น ข้าวโพด ธัญพืช ถั่ว ผลไม้ น้ำนมและผลิตภัณฑ์จากนม ฯลฯ สารพิษจากเชื้อรามีหลายชนิดก่อให้เกิดอาการได้แตกต่างกันไป ได้แก่
- อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) มีผลต่อตับ ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ซึม เบื่ออาหาร มีภาวะดีซ่าน และอาจเสียชีวิตได้
- โอคราทอกซิน (Ochratoxins) มีพิษต่อไต ก่อให้เกิดโรคไตวายเฉียบพลัน และสะสมเกิดเป็นมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะได้ด้วย
- โวมิตทอกซิน (Vomitoxin) มีสาร Deoxynivalenol (DON) ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย น้องหมาเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างไวต่อพิษจากเชื้อราชนิดนี้ และสามารถรับผ่านการสูดดมก็ได้
2. เชื้อแบคทีเรีย
เชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่จะปนเปื้อนมากับอาหารที่ปรุงไม่สุก หรือเป็นอาหารเน่าเสีย หรือขยะที่น้องหมาแอบไปกิน โดยส่วนใหญ่จะให้เกิดอาการ อาเจียนและท้องเสียอย่างรุนแรง บางรายอาจถ่ายมีมูกเลือดปนมาด้วย เชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยในอาหาร ได้แก่ Salmonella sp., Escherichia coli, Bacillus cereus, Staphylococcus aureus ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเชื้อแบคทีเรียตัวร้ายอีกตัวหนึ่ง ที่ปนเปื้อนมากับอาหารจำพวกหมักดอง ได้แก่ Clostridium botulinum มีสารพิษ Botulism ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อเกิดเป็นอัมพาต สุนัขจะขาดอากาศหายใจจากการที่กล้ามเนื้อกระบังลมเป็นอัมพาต และเสียชีวิตในเวลาอันสั้น
3. โปรโตซัวและปรสิตต่างๆ
พวกโปรตัวซัวและปรสิตต่างๆ มักปะปนมากับอาหารดิบๆ ที่ไม่ผ่านการปรุงสุกอย่างถูกวิธี หรือปนเปื้อนมากับน้ำที่น้องมากิน ซึ่งโปรตัวซัวที่เป็นอันตรายกับน้องหมา ได้แก่ Giardia sp. และ Entameba histolytica (ตัวอะมีบา) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ท้องเสีย อาจถ่ายเหลวเป็นน้ำได้ครับ ส่วนปรสิตหรือตัวหนอนพยาธิที่เป็นอันตรายกับน้องหมา ได้แก่ Opisthorchis viverrini (พยาธิใบไม้ตับ), Taenia sp. (พยาธิตัวตืด), Gnathostoma sp. (พยาธิตัวจี๊ด), Ancylostoma sp. (พยาธิปากขอ), Toxocara canis (พยาธิไส้เดือน) และ Trichuris vulpis (พยาธิแส้ม้า) ซึ่งทำให้น้องหมาท้องเสีย อาเจียน และอาจเกิดภาวะโลหิตจางได้
4. อาหารเป็นพิษสำหรับสุนัข
อาหารบางอย่างคนกินได้ แต่สำหรับน้องหมาแล้วกินไม่ได้ เนื่องจากจัดว่าเป็นอาหารที่เป็นพิษสำหรับสุนัข ได้แก่
- ช็อกโกแลต มีสาร Theobromine ซึ่งในน้องหมาจะใช้ระยะเวลาในการกำจัดออกจากร่างกายนานกว่ามนุษย์ถึง 3 เท่า หากน้องหมาได้รับ Theobromine เข้าไปในปริมาณ 20 มก./กก. ก็จะทำให้เกิดอันตรายได้ ก่อให้เกิดอาการ ท้องเสีย อาเจียน กล้ามเนื้อสั่น ฯลฯ เช่นเดียวกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ
- องุ่นและลูกเกด มีสาร Raisin หากน้องหมาได้รับองุ่นหรือลูกเกดเข้าสู่ร่างกายขนาดเพียง 15-30 กรัม/กก. ก็อาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้ ซึ่งอาการที่พบ คือ คลื่นไส้ อาเจียน และหากช่วยไม่ทัน อาจทำให้เสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง
- ถั่วแมคคาเดเมีย ส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อ และทางเดินอาหาร ทำให้น้องหมาอาเจียน ขาอ่อนแรง เดินเซ ปวดท้องเกร็ง กล้ามเนื้อสั่นกระตุก มีไข้สูง ถ่ายเป็นมูกเลือด
- อะโวคาโด (ผล ใบ เมล็ด) มีสาร Persin ทำให้น้องหมาอาเจียน ท้องเสีย หายใจลำบาก หัวใจเต้นผิดปกติ
- หัวหอมและกระเทียม มีสาร n - propyl disulfide หากน้องหมาได้รับหัวหอมขนาด 10 กรัม/กก. ก็จะทำให้ผนังของเม็ดเลือดแดงเสียหายได้ เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างผิดปกติ (Heinz body) และถูกทำลาย ทำให้น้องหมาเกิดภาวะโลหิตจาง เหงือกซีดเซียว เซื่องซึม หัวใจเต้นเร็ว และหายใจลำบาก
5. โลหะหนัก
โลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นจากสารสีปรุงแต่ง สารกันบูด หรือยาฆ่าแมลงตกค้าง ถือเป็นภัยเงียบที่นับว่าเป็นอันตรายมาก อาจจะแฝงมาตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก (จากดิน) มาจนถึงขั้นตอนการแปรรูปมาเป็นอาหาร ไม่เว้นแม้แต่อาหารปรุงเองก็เช่นกัน โลหะหนักสามารถปนเปื้อนได้ทั้งจากเนื้อสัตว์และพืช ที่เป็นอันตรายกับน้องหมา ได้แก่ ตะกั่ว แคดเมียม สังกะสี สารหนู สารเร่งเนื้อแดง ฯลฯ เหล่านี้อาจมีผลทำให้ทำให้เซลล์ตาย เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ทำให้โครมาโซมเสียหาย ในระยะยาวอาจเป็นสาเหตุให้เป็นโรคมะเร็งได้ แต่ระยะสั้นหากได้ในปริมาณสูงจะส่งผลให้เกิดความระเคืองของเยื่อเมือก ทางเดินอาหาร ร่างกายดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปทำลายตับ ไต สมอง ทำให้ เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันและอาการทางระบบประสาทได้
6. พริออน (Prions)
ชื่อที่ฟังแล้วอาจไม่ค่อยจะคุ้นหูสักเท่าไหร่ พริออน คือ โปรตีนขนาดเล็กที่เกิดความผิดปกติของโครงสร้าง จึงสามารถถ่ายทอดการติดต่อได้เช่นเดียวกับเชื้อโรค แต่มีคุณสมบัติทนต่อการถูกทำลายโดยสารเคมีและความร้อนได้สูงมาก เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อสมอง หัวใจ ปอด และต่อมน้ำเหลือง ทำให้เนื้อสมองเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ (sponge) เกิดเป็นโรค Prion’s disease หรือ Transmissible Spongiform Encephalopaties (TSEs) พบได้ในวัว แกะ กวาง หนู แมว สุนัข และมนุษย์ สามารถติดต่อโดยการกินอาหาร (เนื้อสัตว์ น้ำนม และอวัยวะภายใน) ที่มีโปรตีน Prion ปนเปื้อนอยู่ แม้ว่าจะผ่านการปรุงสุกเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม โรคนี้จัดเป็นโรคระบาดอย่างหนึ่ง แต่นับว่าโชคยังดีที่การแพร่ระบาดยังไม่รุนแรงมาก และพบค่อนข้างน้อยในสุนัข แต่ควรต้องเฝ้าระวัง โดยไม่นำเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่มีประวัติว่ามีอาการทางระบบประสาทแล้วเสียชีวิตมาให้สุนัขกิน
วิธีป้องกันและรับมือกับภัยร้ายที่มากับอาหาร
สำหรับหลักในการป้องกันภัยร้ายที่มากับอาหารนั้น มุมหมอหมา มีหลักง่ายๆ ที่อยากให้ทุกคนได้ทำกันครับ
• อาหารที่ถูกสุขลักษณะ ควรเป็นอาหารที่ปรุงสุก เจ้าของที่ปรุงอาหารให้น้องหมากินเอง ควรปรุงอาหารด้วยความร้อนอย่างน้อย 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 10 นาที
• อาหารสำเร็จรูปแบบกระป๋อง ควรกินให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง หากเป็นกระป๋องใหญ่มีปริมาณมากเกินไป แนะนำให้ตักแบ่งออกมาเท่าที่น้องหมากินในแต่ละมื้อก่อน ส่วนที่เหลือให้เก็บแช่เย็นไว้ที่อุณหภูมิ 2-4 องศาเซลเซียส ได้ประมาณ 2-3 วัน โดยก่อนนำมาให้กินควรอุ่นทุกครั้ง
• การให้อาหารไม่ควรใส่อาหารทิ้งไว้ให้กินทั้งวันตลอดเวลา ควรให้เป็นมื้อๆ โดยจับเวลาหลังจากให้อาหาร ถ้าไม่กินภายใน 5-10 นาที ให้หยิบออกทันที เพื่อเป็นการฝึกวินัยการกินให้กับน้องหมาและป้องกันอาหารเน่าเสีย หรือปนเปื้อนสิ่งสกปรก
• ควรป้องกันไม่ให้น้องหมาแอบไปกินอาหารเก่า อาหารที่เน่าเสีย หรือไปคุ้ยขยะกิน อาหารสำเร็จรูปที่มีสี กลิ่น และลักษณะเปลี่ยนไป แม้จะยังไม่หมดอายุ เจ้าของก็ควรตัดสินใจทิ้งไปเลย อย่าเสียดาย รวมถึงอาหารที่น้องหมากินไม่หมดในมื้อที่แล้วก็ไม่ควรนำมาให้กินต่อเช่นกัน
• ให้เลือกซื้ออาหารและวัตถุดิบจากแหล่งที่เชื่อถือได้มีความสะอาด อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีเลขทะเบียนอาหารสัตว์กำกับ มีวันหมดอายุบอกไว้ อาจเลือกซื้อขนาดถุงไม่ใหญ่มาก เปิดใช้แล้วปิดปากถุงให้สนิท เก็บในอุณหภูมิห้องปกติ ในที่ที่ไม่ชื้น ไม่โดนแสงแดด ถ้าเก็บในกล่องที่มีฝาปิดด้วยก็จะดีมากครับ
• อย่าลืมล้างทำความสะอาดภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำของน้องหมาทุกวัน
• หลีกเลี่ยงให้กินอาหารที่เป็นพิษสำหรับสุนัข หากน้องหมาบังเอิญได้รับอาหารที่เป็นพิษเข้าไป ให้รีบพาไปหาคุณหมอ
• แจ้งประวัติ อาการ และอาหารที่สุนัขกินเข้าไปกับคุณหมอให้ละเอียดและครบถ้วน เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับใช้ในการวินิจฉัยและรักษา
พิษภัยทั้งหมดที่ผมนำมาเล่าในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราเลยนะครับ มันอาจปนเปื้อนมากับอาหารของน้องหมาเมื่อไหร่ก็ได้ วิธีที่ดีที่สุด คือ การป้องกันครับ ลองนำหลักที่ มุมหมอหมา แนะนำไปลองปฏิบัติกันดูครับ
น้องหมาของเราจะเป็นเช่นไร ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นผู้เลือกให้เค้านะครับ มาร่วมกันทำให้อาหารของน้องหมาเป็นอาหารที่ปลอดภัยกันดีกว่า - Food safety, Dog safety ... Na'
บทความโดย: หมอต้น Dogilike.com
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์
รูปภาพประกอบ:
www.lovingpetsonline.com
www.cdc.gov
www.blog.northjersey.com
www.petdig.com
www.pets.webmd.com
www.molliemorrissette.wordpress.com
SHARES