โดย: Tonvet
โรคสุดแปลกของสุนัข ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จัก
มาทำความรู้จักกับโรคสุดแปลกในสุนัข ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ ว่าโรคอย่างนี้ก็มีด้วย
5 ธันวาคม 2555 · · อ่าน (48,354)
สุนัขเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแปลกและความเป็นที่สุด สุนัขที่ใหญ่ที่สุดอาจมีน้ำหนักมากกว่าสุนัขตัวเล็กที่สุดถึง 80-100 เท่า สุนัขมีจมูกที่ยอดเยี่ยมจึงไม่แปลกที่จะได้รับตำแหน่งนักสะกดรอยที่ดีที่สุด เรื่องความแปลกก็ไม่แพ้ใคร เราคงเคยเห็นสุนัขพันธุ์แปลกๆ มากมาย หลายตัวมีหน้าตาสุดประหลาดไม่เหมือนใคร แต่ใช่ว่าความแปลกจะมีแค่หน้าตาเท่านั้น แม้แต่เรื่องสุขภาพก็ยังไม่วายต้องมี "โรคสุดแปลก" กับเค้าเหมือนกัน
โรคหรือกลุ่มอาการต่อไปนี้ เป็นความผิดปกติที่พบได้ค่อนข้างยาก ส่วนใหญ่จะเป็นผลมาจากพันธุกรรม และเนื่องด้วยมีสุนัขน้อยตัวนักที่เป็น ทำให้หลายคนอาจยังไม่เคยเห็นโรคหรือกลุ่มอาการเหล่านี้มาก่อน หรือบางครั้งอาจจะเคยเห็นสุนัขแสดงอาการเหล่านี้ แต่ไม่ทราบว่าสุนัขกำลังเป็นโรคนี้อยู่ ว่าแต่โรคสุดแปลกของน้องหมามีโรคอะไรบ้าง ... เรามาดูกันครับ
Fly Snapping Syndrome
กลุ่มอาการไล่งับ (ตะครุบ) แมลง เรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า Fly biting หรือ Jaw snapping syndrome สุนัขที่เป็นจะแสดงอาการจ้องมองบางสิ่งแล้วไล่งับหรือไล่งับทันที โดยสิ่งที่จ้องหรืองับนั้นไม่มีอยู่จริง ความผิดปกติดังกล่าว เกิดจากความผิดปกติของสมอง จัดเป็น complex partial seizures เป็นหนึ่งในประเภทของอาการชัก ทำให้สุนัขเกิดอาการประสาทหลอน มองเห็นวัตถุ (แมลง) ที่ไม่มีอยู่จริง สุนัขบางตัวอาจเลียขาและเท้าหน้าขณะที่กำลังแสดงอาการดังกล่าว
ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นเองและค่อยๆ ดำเนินไปอย่างช้าๆ มักแสดงอาการเมื่อสุนัขอายุ 5-7 ปี โดยเฉพาะในพันธุ์ Miniature wire-haired dachshund, Bassett hound และ Beagle ซึ่งพบได้บ่อย รวมถึงเคยมีรายงานพบในพันธุ์ Miniature Poodle, Pointer, Standard Poodle และ Corgi ด้วย
ในสุนัขพันธุ์เสี่ยงแนะนำให้ปรับมากินอาหารสูตรป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออาหารสำหรับสุนัขสูงวัยที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรท (แป้ง) เพื่อป้องกันการสะสมของ toxic starch-like material (polyglucosan) หรือ Lafora bodies ภายในเซลล์ของกล้ามเนื้อ ตับ และเซลล์ประสาทครับ
Rage Syndrome
เป็นกลุ่มอาการที่พบได้ไม่บ่อยและพบได้สุนัขบางพันธุ์ ได้แก่ English Cocker Spaniels จึงเรียกอีกชื่อว่า “Cocker Rage หรือ Springer Spaniel Rage” และยังสามารถพบได้ในพันธุ์ Bernese Mountain Dogs, Bull Terriers, Golden Retrievers, Lhaso Apso และ Yorkshire Terriers ได้ด้วย สุนัขที่เป็นจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวโดยที่เราไม่สามารถคาดการณ์หรือควบคุมได้ อยู่ดีๆ ก็ก้าวร้าวขึ้นมา ระหว่างแสดงอาการ จะพบว่าตาแดงและรูม่านตาขยาย หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็สงบลงแล้วก็กลับมาเป็นปกติ พบในสุนัขช่วงอายุ 6 เดือนถึง 3 ปี คาดว่าอาจมีส่วนเกี่ยวกับโรคลมชัก ที่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง หรืออาจเป็นผลมาจากการที่สุนัขมีระดับเซโรโทนินที่ต่ำอันเนื่องมาจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ หรืออาจเป็นความผิดปกติที่ถ่ายทอดจากพันธุกรรม ซึ่งพบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์ English Cocker Spaniels ที่มีขนสีแดง-ทองและขนสีดำครับ
Lafora Disease
โรคนี้ตั้งชื่อตามคุณหมอผู้ค้นพบ เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ (mutation) ของยีน EPM2A หรือ EPM2B (NHLRC1) ทำให้สุนัขแสดงอาการกล้ามเนื้อกระตุก โดยเฉพาะเมื่อถูกกระตุ้นโดยแสง เสียงและวัตถุเคลื่อนไหวในระยะใกล้ และอาจพบการชักได้ในสุนัขบางตัว รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น เซื่องซึม อ่อนแรง เดินเซ ตาบอด และสมองเสื่อม ฯลฯ
ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นเองและค่อยๆ ดำเนินไปอย่างช้าๆ มักแสดงอาการเมื่อสุนัขอายุ 5-7 ปี โดยเฉพาะในพันธุ์ Miniature wire-haired dachshund, Bassett hound และ Beagle ซึ่งพบได้บ่อย รวมถึงเคยมีรายงานพบในพันธุ์ Miniature Poodle, Pointer, Standard Poodle และ Corgi ด้วย
ในสุนัขพันธุ์เสี่ยงแนะนำให้ปรับมากินอาหารสูตรป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออาหารสำหรับสุนัขสูงวัยที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรท (แป้ง) เพื่อป้องกันการสะสมของ toxic starch-like material (polyglucosan) หรือ Lafora bodies ภายในเซลล์ของกล้ามเนื้อ ตับ และเซลล์ประสาทครับ
Alexander Disease
โรคนี้ตั้งชื่อตามคุณหมอผู้ค้นพบเช่นกัน เกิดจากการสูญเสียไมอีลินในสมองและไขสันหลังอย่างรวดเร็ว ไมอีลิน (Myelin) คือ ชั้นไขมันที่หุ้มเซลล์ประสาท ช่วยในการเหนี่ยวนำกระแสประสาท โรคนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Fibrinoid leukodystrophy หรือ Fibrinoid encephalomyelopathy เป็นความผิดปกติของยีน GFAP (glial fibrillary acidic protein) ทำให้เกิดอาการเดินเซ ก้าวย่างไม่สัมพันธ์กัน บางจังหวะก้าวยาวมากกว่าปกติ อ่อนแรง บางรายไม่สามารถลุกยืนได้ และกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่ยังเด็ก โดยโรคดำเนินไปค่อนข้างไว และอาจเสียชีวิตได้ในระยะเวลาอันสั้น พบในลูกสุนัขอายุตั้งแต่ 3-6 เดือน พันธุ์ที่พบได้บ่อย ได้แก่ Rottweiler, Dalmatian, Miniature poodle, Jack Russell, Afghan hounds, Labrador retrievers และ Bernese mountain dogs ครับ
White Shaker Syndrome
ความผิดปกตินี้มักพบในสุนัขพันธุ์เล็กขนสีขาว ได้แก่ Maltese และ West Highland white terrier จึงเป็นที่มาของชื่อกลุ่มอาการ ตลอดจนมีรายงานการพบในสุนัขพันธุ์ Bichon frise, Poodle, Beagle และ Yorkshire terrier ด้วย โดยสุนัขจะแสดงอาการตัวหรือกล้ามเนื้อสั่น ยืนลำบาก เดินลำบาก หัวเอียง ตากระตุก โดยที่สุนัขยังร่าเริงและยังรับรู้ต่อสิ่งเร้าได้อยู่ มักแสดงอาการเมื่อตื่นเต้นหรือพยายามจะทำอะไรบางอย่าง เรียกว่า Intention tremor แต่อาการจะลดลงหรือไม่แสดงอาการ เมื่ออยู่ในช่วงพักหรือกำลังผ่อนคลาย
สามารถพบความผิดปกตินี้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนถึง 3 ปี สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด บางทฤษฎีอ้างว่า เป็นการอักเสบของสมอง โรคติดเชื้อ หรืออาจเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Idiopathic steroid responsive shaker syndrome อย่างไรก็ดีสุนัขที่เข้าข่ายและแสดงอาการดังกล่าว ควรได้รับการตรวจสมองและระบบประสาทอย่างละเอียด เพื่อแยกออกจากความผิดปกติทางระบบประสาทอื่นๆ เจ้าของไม่ควรให้สุนัขเครียดหรือตื่นเต้นมากเกินไป
Narcolepsy
สุนัขที่เป็นจะแสดงอาการหลับผิดปกติ โดยพบอาการหลับแบบกะทันหันหรือฉับพลัน (Sleep attacks) ในขณะที่กำลังทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง เช่น กำลังเล่น กำลังกิน ฯลฯ โดยที่ไม่สามารถควบคุมร่างกายให้ไม่หลับได้ หรือเป็นการหมดแรงแบบฉับพลัน (Cataptexy) ซึ่งอาจทรุดตัวลงและหลับไปเพียงไม่กี่วินาทีหรืออาจนานหลายนาทีก็ได้ คล้ายกับอาการเป็นลมหน้ามืดแต่มีสาเหตุแตกต่างกัน อาการอย่างนี้สามารถพบได้เช่นเดียวกับในคน เราอาจเรียกชื่อได้ว่า “โรคลมหลับ” ซึ่งจะเป็นอันตรายมากหากในขณะหลับหัวหรือตัวไปฟาดหรือกระแทกกับวัตถุสิ่งของใดๆ
เชื่อว่าความผิดปกตินี้อาจถูกถ่ายทอดมาจากพันธุกรรม โดยที่มีปัจจัยเสริมบางอย่าง เช่น โรคอ้วน ขาดการออกกำลังกาย มักพบในสุนัขพันธุ์ Doberman pinscher, Labrador retriever, Dachshund, Saint Bernard, Beagle, Afghan hound, Airedale terrier, Welsh corgi terrier, Alaska malamute, Springer spaniel, Standard poodle, Wire-haired griffon, Australian shepherd, Giant Schnauzer และ Rottweiler พบได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป สาเหตุเกิดจากการที่สมองขาดสารสื่อประสาทอย่างเช่น hypocretin หรือ orexin ทำให้การควบคุมการหลับผิดปกติไป การลดความตื่นเต้นให้กับสุนัข สามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้ ตลอดจนกิจกรรมที่ให้สุนัขทำต้องคำนึงถึงความปลอดภัยหากเกิดอาการดังกล่าวขึ้นด้วย
Limber tail syndrome
เป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อหาง พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์ใช้งาน ได้แก่ Labrador Retrievers, English Setters, English Pointers, Foxhounds, Weimaraners, Jack Russell และ Beagles พบในช่วงอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี สาเหตุที่แท้จริงยังไม่แน่ชัด คาดว่าเกิดจากการได้รับบาดเจ็บบริเวณใกล้โคนหางจากการออกกำลังกายหนักๆ ว่ายในน้ำที่เย็นจัดหรือร้อนเกินไป สภาพอากาศแปรเปลี่ยน (ในต่างประเทศที่มีหิมะตก) กลุ่มอาการนี้ มีชื่อเรียกต่างๆ ได้แก่ Cold Water Tail, Broken Tail, Dead Tail หรือ Broken Wag สุนัขจะแสดงอาการหางตก ไม่ส่ายหาง ขนที่บริเวณโคนหางตั้งขึ้น อาจเจ็บปวดเมื่อถูกสัมผัส อาการจะดีขึ้นเองภายใน 1 วันถึง 1 สัปดาห์ แต่บางครั้งอาจต้องได้รับยาแก้ปวดและช่วยประคบอุ่นที่หางร่วมด้วย
ต้องขอบคุณความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพัฒนาการของวิทยาการใหม่ๆ ที่ทำให้เราเข้าใจความผิดปกติของโรคเหล่านี้มากขึ้น จากอาการที่เจ้าของหลายคนอาจมองข้ามไป หรือบ้างคนมองว่าเป็นเรื่องน่าขัน เวลาที่เห็นสุนัขของตัวเองไล่งับแมลงที่ไม่มีอยู่จริงหรือหลับหน้าคะมำคาชามข้าว บัดนี้ได้ถูกเฉลยให้เราได้รู้จักและเข้าใจแล้ว เพื่อนๆ คนไหนที่มีน้องหมาแสดงอาการแปลกๆ เหล่านี้ ก็อย่าปล่อยปะละเลยทิ้งไว้นะครับ ควรพาสุนัขเข้ารับการตรวจและรักษา เพื่อที่จะได้ช่วยเยียวยาอาการดังกล่าวไม่ให้ลุกลามบานปลายมากไปกว่าที่เป็นอยู่
www.youtube.com
www.foundanimals.org
www.bigbrownbearbear.blogspot.com
www.caninegeneticdiseases.net
SHARES