สภาพวิถีชีวิตของคนในยุคนี้ เป็นอะไรที่ต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา แต่ละวันมีเรื่องต้องให้ทำมากมาย เวลาที่เหลือให้กับคนรอบข้าง รวมถึงน้องหมาที่เรารักจึงอาจน้อยลงตามไปด้วย แต่เมื่อถึงเวลาที่น้องหมาเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา หน้าที่การพาไปรักษาและป้อนยาอาจต้องตกมาอยู่ที่เจ้าของ ด้วยความที่ไม่มีค่อยเวลา บางครั้งอาจมีบ้างที่หลงลืมป้อนยา หรือป้อนยาไม่ตรงเวลา ปัญหาเหล่านี้มักมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว จะรับมือกันอย่างไร...วันนี้ มุมหมอหมา มีวิธีแก้ปัญหาหากเจ้าของลืมป้อนยาหรือป้อนยาน้องหมาไม่ตรงเวลามาฝากครับ

 

 

     ยาก่อนอาหาร มักเป็นยาที่ไม่ควรป้อนในขณะที่กระเพาะอาหารยังมีอาหารอยู่ เพราะในอาหารจะมีแร่ธาตุหรือส่วนประกอบบางอย่าง ที่อาจไปทำปฏิกิริยาหรือมีผลต่อสารออกฤทธิ์สำคัญในตัวยา ทำให้ไปรบกวนการทำงานและการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกายได้ รวมถึงยาบางตัวอาจเป็นยาที่ไม่ค่อยทนต่อสภาพการเป็นกรดในกระเพาะอาหารสักเท่าไหร่ คุณหมอจึงแนะนำให้เจ้าของป้อนยาตัวนั้น ก่อนที่จะให้น้องหมากินอาหาร หรือหากเป็นยาที่มีฤทธิ์ระงับการอาเจียน คุณหมอก็จะแนะนำให้ป้อนก่อนอาหารเช่นกัน เพื่อหวังผลให้ยาตัวนั้นไปลดอาการดังกล่าว 

     ยาก่อนอาหารเป็นยาที่เจ้าของส่วนใหญ่มักหลงลืมป้อนมากที่สุด ตามปกติแล้วเราควรป้อนยาก่อนให้น้องหมากินอาหารอย่างน้อย 30 นาที แต่หากลืมป้อนแนะนำว่า “ให้กลับมาป้อนหลังจากน้องหมากินอาหารไปแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือง่าย ๆ คือ ป้อนยาในขณะที่ท้องน้องหมายังว่าง โดยไม่จำเป็นต้องให้กินอาหารตามก็ได้ครับ”  

 

    
     ยาหลังอาหาร มักเป็นยาที่ทนทานสภาพกรดในกระเพาะอาหารได้ดี และเป็นยาที่อาจต้องใช้กรดในการทำละลาย เพื่อเปลี่ยนสภาพให้ยาอยู่ในรูปที่พร้อมในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายต่อไป หรือไม่ก็เป็นยาที่มีความระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารค่อนข้างสูง อาจทำให้น้องหมาเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ เช่น ยาแก้อักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาฆ่าเชื้อ doxycycline ฯลฯ คุณหมอจึงแนะนำให้ป้อนหลังจากกินอาหารหรือขณะที่กำลังมีอาหารอยู่ในกระเพาะเพื่อลดอาการดังกล่าว 

     ตามปกติแล้วเราควรป้อนยาหลังจากที่ให้น้องหมากินอาหารไปแล้วไม่เกิน 30 นาที แต่หากลืมป้อนแนะนำว่า “ถ้ายังไม่เกิน 1 ชั่วโมง ให้รีบป้อนยาให้น้องหมาทันที หากเกินมากกว่านั้นแล้ว เจ้าของอาจให้น้องหมากินอาหารรองท้องก่อน แล้วจึงค่อยป้อนยาหลังอาหาร แต่หากเลยมาเกินครึ่งหนึ่งของช่วงระหว่างมื้อนี้กับมื้อถัดไป หรือใกล้จะถึงเวลาต้องป้อนยาในมื้อถัดไปแล้ว ให้ข้ามยามื้อนั้นไปเลย ไม่แนะนำให้กินยาควบเพิ่มเป็น 2 เท่าในมื้อถัดไปโดดเด็ดขาด และสำหรับบ้านไหนที่ให้น้องหมากินอาหารเพียงวันละ 1 มื้อ แต่คุณหมอให้เจ้าของป้อนยาวันละ 2-3 มื้อหลังอาหาร แนะนำว่าให้หาอะไรป้อนรองท้องน้องหมาก่อนป้อนยาหลังอาหารเช่นกันครับ”  

 

    
     ยาที่ต้องกินตามวงรอบเวลา อาจเป็นยาที่ไม่คำนึงถึงมื้อของอาหาร แต่เน้นในเรื่องของความสม่ำเสมอของระดับยาในกระแสเลือด สามารถกินได้ในขณะท้องว่าง ยาเหล่านี้คุณหมออาจจะระบุมาว่าให้ป้อนทุก ๆ 6, 8, 12 หรือ 24 ชั่วโมง แล้วแต่ชนิดของยา หากลืมป้อนแนะนำว่า “ให้คำนวณระยะเวลาที่เลยมาว่าเกินครึ่งหนึ่งของช่วงระยะเวลาที่ต้องป้อนแล้วหรือไม่ เช่น ถ้าเป็นยาที่ต้องป้อนทุก ๆ 12 ชั่วโมง ครึ่งหนึ่งก็จะเป็นที่ 6 ชั่วโมง เป็นต้น ถ้าหากยังไม่เกินระยะเวลาครึ่งหนึ่งของช่วงเวลาที่ต้องป้อนยา สามารถป้อนยานั้นไปได้เลยทันที แต่ถ้าเลยครึ่งหนึ่งของช่วงเวลาที่ต้องป้อนไปแล้ว ให้เจ้าของข้ามยาในมื้อนั้นไป แล้วค่อยป้อนยาใหม่ในรอบถัดไป หลังจากนั้นจึงป้อนยาไปตามเวลาเดิมปกติ โดยที่ไม่ต้องเพิ่มยาเป็น 2 เท่าครับ” แต่ทั้งนี้ยาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ผู้ป้อนยาควรทำการสอบถามคุณหมอที่ทำการรักษาเป็นกรณี ๆ ไปครับ

    
     ความจริงแล้วการลืมป้อนยาหรือป้อนยาไม่ตรงเวลาเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นเลยนะครับ โดยเฉพาะกับยาบางอย่าง เช่น ยาระงับอาการชัก ฮอร์โมนบางอย่าง ฯลฯ ยาเหล่านี้ เจ้าของจะต้องให้สุนัขได้รับยาอย่างตรงเวลา ห้ามลืมและห้ามเลท (late) เป็นอันขาด เพราะมีความสำคัญต่อระดับยาในกระแสเลือดและอาจส่งผลต่อการควบคุมอาการของสุนัขได้

     เจ้าของคนไหนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือมีเวลาแค่เพียงวันละครั้ง แต่คุณหมอให้ป้อนยาวันละ 2-3 มื้อ ก็ไม่ควรป้อนยารวดเดียวพร้อมกันทั้งหมด เพราะอาจเกิดอันตรายต่อตัวน้องหมาได้หากได้รับยาเกินขนาดในเวลาเดียวกัน ให้คิดถึง “ใจเขา ใจเรา” หากเวลาเราป่วยบ้าง ก็คงอยากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและต่อเนื่องเช่นกัน แต่เมื่อใดที่เกิดเหตุการณ์ลืมป้อนยาหรือป้อนยาไม่ตรงเวลาขึ้นมา ก็ลองนำวิธีที่ มุมหมอหมา แนะนำไปลองใช้กันดูนะครับ

 

 

 

 

บทความโดย: หมอต้น ด็อกไอไลค์

น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์

www.dogilike.com 

http://family.dogilike.com/tonvet/

 

 

รูปภาพประกอบ:

ภาพที่ 1 ดัดแปลงจาก

www.Officetime.net

www.hangthebankers.com

 

รูปภาพที่ 2-5 จาก

www.bothellveterinarian.files.wordpress.com

www.blogs.webmd.com

www.3.bp.blogspot.com

www.businessinsider.com