โดย: Tonvet
น้องหมาเป็นท้องมาน จะอันตรายมากแค่ไหน
ท้องมานคืออะไร มาทำความรู้จักกับสาเหตุและวิธีช่วยเหลือน้องหมากัน
2 มีนาคม 2559 · · อ่าน (143,624)หลายสัปดาห์ก่อนมีเจ้าของสุนัขมาปรึกษา เล่าให้ผมฟังว่า น้องหมามีท้องใหญ่เหมือนตั้งท้อง ทั้ง ๆ ที่เคยทำหมันไปแล้ว แต่ท้องก็ใหญ่ขึ้นเป็นมาร่วมเดือน ผมจึงแนะนำให้ให้พาไปตรวจกับสัตวแพทย์ เพราะท้องที่ใหญ่ขึ้นนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่อวัยวะภายในช่องท้องโตขึ้น มีเนื้องอกจากอวัยวะภายในช่องท้อง การอักเสบของอวัยวะภายในช่องท้อง ท้องกางจากความผิดปกติของฮอร์โมน (โรคคูชชิ่ง) ไปจนถึงเป็นท้องมาน (ascites)
ท้องมาน หรือ ascites มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีกคำว่า "askos หรือ askites" ที่แปลว่า ถุง เมื่อสุนัขเกิดท้องมาน จะทำให้ท้องเกิดการขยายใหญ่ขึ้น หลายคนอาจเคยได้ยินคำนี้มานาน แต่อาจยังไม่ทราบว่าแท้จริงคือความผิดปกติอะไรกันแน่ วันนี้ มุมหมอหมา เลยขอพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับท้องมานในน้องหมากันหน่อย เพราะมีน้องหมาจำนวนไม่น้อยที่ป่วยเป็นภาวะนี้ ซึ่งเมื่อเป็นแล้วจะอันตรายมากแค่ไหน...ไปดูกันเลยครับ
ท้องมานคืออะไร
ก่อนอื่นต้องขอบอกเพื่อน ๆ ก่อนว่า ท้องมาน (ascites) ไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะที่ร่างกายมีของเหลวมาคั่งที่ช่องว่างภายในช่องท้องอย่างผิดปกติ โดยของเหลวนั้นอาจจะมีลักษณะเป็นของเหลวสีแดง ของเหลวไม่มีสี ของเหลวสีเหลืองใส ของเหลวสีเหลืองข้นเยิ้ม (หนอง) ของเหลวสีขาวคล้ายนม (Chylous effusions) ฯลฯ ซึ่งต่างกันไปตามแต่ละสาเหตุที่น้องหมาเป็นจนทำให้เกินของเหลวเหล่านั้นมาสะสมให้ช่องท้องขึ้นมา
เมื่อน้องหมาเป็นท้องมาน ช่วงแรกอาจจะไม่แสดงอาการ เพราะธรรมชาติของร่างกายจะเกิดการปรับตัวได้ระดับหนึ่ง จนเมื่ออวัยวะภายในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงแสดงอาการต่าง ๆ ตามมา เช่น ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน หายใจลำบาก ไอ หอบ เหนื่อยง่าย น้ำหนักตัวมากขึ้น ฯลฯ ทั้งนี้อาการอื่น ๆ จะแสดงให้เห็นจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว เพียงเล็กน้อยหรือรุนแรงเท่าใดนั้น ก็ขึ้นกับสาเหตุของโรคที่ทำให้น้องหมาป่วยเป็นท้องมานด้วยครับ
สาเหตุของท้องมานในสุนัข
ของเหลวที่มาสะสมในช่องท้องนั้น อาจมาจากหลอดเลือด อวัยวะภายในช่องท้อง เนื้องอก หรือมาจากสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้ เราสามารถแยกสาเหตุของท้องมานในสุนัขหลายสาเหตุ ดังนี้
- โรคที่ทำให้แรงดันน้ำในหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้น เช่น โรคหัวใจฝั่งขวาล้มเหลว โรคพยาธิหนอนหัวใจ มีการอุดตันของหลอดเลือดที่ไหลกลับเข้าหัวใจ ภาวะความดันโลหิตสูงขึ้น หรือได้รับสารน้ำบางประเภทในปริมาณมากเกินไป ฯลฯ
- โรคที่ทำให้แรงดันออนโคติก (Oncotic pressure) ลดลง เช่น ปริมาณโปรตีนในหลอดเลือดต่ำลง ทั้งจากสาเหตุได้รับสารอาหารประเภทโปรตีนลดลง มีปัญหาการดูดซึมโปรตีนเข้าสู่ร่างกาย ปัญหาการสังเคราะห์โปรตีนที่ตับ หรือปัญหาการสูญเสียโปรตีนออกจากร่างกายที่ไตมากเกินไป ฯลฯ
- เป็นโรคตับแล้วทำให้เกิด Intrahepatic portal hypertension เช่น โรคตับอักเสบ มีเนื้องอกที่เนื้อตับ (Intraheptic neoplasia) มีเนื้อเยื่อไฟบรัสแทรกที่เนื้อตับ (Liver fibrosis) ฯลฯ
- มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด (Coagulopathy)
- โรคที่ทำให้เกิดการขัดขวางการไหลเวียนของน้ำเหลือง (Lymphatic obstruction)
- เป็นโรคติดเชื้อ หรือโรคเนื้องอก เช่น การติดเชื้อในช่องท้อง การมีเนื้องอกในช่องท้อง
- ได้รับบาดเจ็บกระทบกระเทือนต่อหลอดเลือด มีเลือดออกจากอวัยวะภายใน หรืออวัยวะภายฉีกขาด มีเลือดออกในช่องท้อง ทำให้มีเลือดออกมาสะสมในช่องท้อง
- กระเพาะปัสสาวะฉีกขาด แตก หรือมีน้ำปัสสาวะรั่วออกมาจากระบบทางเดินปัสสาวะ
- โรคที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบ เช่น หลอดเลือดอักเสบ ช่องท้องอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ
- ได้รับยาหรือสารพิษบางชนิด เช่น anticoagulant rodenticide toxicity (ยาเบื่อหนู)
การตรวจน้องหมาที่มีท้องมาน
การตรวจท้องมานในน้องหมานั้น ก่อนอื่นให้เราดูก่อนว่า ท้องที่ใหญ่ขึ้นนั้นมีความสมดุลหรือไม่ ถ้าไม่สมดุลอาจเป็นได้ว่าท้องโตมาจากสาเหตุอื่น แต่ถ้าท้องโตในลักษณะท้องกาง ให้ทำการเคาะช่องท้องด้วยวิธี Ballottement เพื่อดูว่าท้องกางนั้น มาจากสาเหตุที่มีน้ำคั่งในช่องท้องหรือไม่ หรือเป็นสุนัขตั้งท้อง หรือเป็นเพราะว่ามีเนื้องอกและอวัยวะภายในช่องท้องขยายใหญ่ขึ้นกันแน่
โดยให้น้องหมาอยู่ในท่ายืน เราอยู่บริเวณท้ายลำตัวน้องหมา จากนั้นให้ใช้นิ้วมือเคาะโดยทำมุมตั้งฉากกับผนังท้องข้างใดข้างหนึ่ง แล้วใช้มืออีกข้างวางแนบกับผนังท้อง เพื่อรับสัมผัสคลื่นของของเหลวที่มากระทบ ซึ่งถ้าน้องหมาเป็นท้องมานเราจะรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกของของเหลวในช่องท้องที่มือของเรา หรืออาจใช้วิธีการตรวจอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การอัลตราซาวด์ การถ่ายภาพรังสี ฯลฯ ในระหว่างตรวจต้องพยายามทำให้น้องหมารู้สึกผ่อนคลาย บางตัวไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสช่องท้อง อาจจะหงุดหงิดหรือเครียดได้ครับ
วิธีช่วยน้องหมาที่เป็นท้องมาน
การที่น้องหมามีของเหลวสะสมในช่องท้องปริมาณมาก จะทำให้สุนัขอึดอัด ไม่สบายตัว หายใจลำบาก เนื่องจากของเหลวจะไปดันกระบังลม ทำให้หายใจได้ไปเต็มที่ จึงจำเป็นต้องเจาะระบายเอาของเหลวในช่องท้องตรงนั้นออก ซึ่งการเอาออกนั้น คุณหมอจะพยายามเอาออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องไม่มากเกินไป จนความความดันโลหิตต่ำ เพราะอาจทำให้สุนัขช็อกได้ อาจจะมีการให้สารน้ำเข้าเส้นหรือให้ออกซิเจนพร้อมกันไปด้วยในบางราย
เมื่อเจาะออกของเหลวออกมาแล้ว จะนำของเหลวดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์ต่อว่า เป็นของเหลวชนิดใด เพื่อนำมาใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคที่น้องหมาเป็น เพราะอย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่า ท้องมานในน้องหมานั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ อย่างสาเหตุที่เกิดจากโรคหัวใจวายเรื้อรังนั้น จำเป็นที่ต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม เช่น ได้รับยาปรับความดัน ยาขับน้ำ เป็นต้น หรือในรายที่มีเลือดออก อาจจะเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมและได้รับการถ่ายเลือดให้ครับ
เพื่อนๆ ก็จะเห็นแล้วนะครับว่า ท้องมานนั้นอันตรายกับน้องหมาแค่ไหน เพราะถ้าปล่อยไว้ไม่รักษา ก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นกับสาเหตุที่น้องหมาเป็นด้วย การช่วยเหลือน้องหมาในกรณีของท้องมานนั้น ก็โดยการให้สัตวแพทย์ทำการเจาะเพื่อระบายเอาน้ำออก แต่ก่อนจะเจาะออก ต้องตรวจหาสาเหตุก่อน เพราะบางสาเหตุอย่างโรคหัวใจวาย อาจทำให้น้องหมากลับมาเป็นท้องมานได้บ่อยๆ จำเป็นต้องนัดมาเจาะเพื่อเอาน้ำออกจากช่องท้องอยู่เป็นระยะ ซึ่งหลังเจาะแล้ว ก็จะทำให้น้องหมามีอาการดีขึ้นครับ
บทความโดย : หมอต้น ด็อกไอไลค์
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์
รูปภาพประกอบ :
http://dogsaholic.com/wp-content/uploads/2015/05/Dog-with-heart-failure-810x561.jpg
http://www.vetbook.org/wiki/dog/images/thumb/4/4e/Ascites01.jpg/300px-Ascites01.jpg
http://todaysveterinarypractice.navc.com/wp-content/uploads/2013/09/Figure-2-204x300.jpg
SHARES