โดย: Tonvet
ไขข้อข้องใจ โรคพิษสุนัขบ้า เป็นได้เฉพาะหน้าร้อนจริงหรือ?
ทำความเข้าใจกับโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้าให้กระจ่างไปพร้อมกัน
12 เมษายน 2560 · · อ่าน (6,141)
โรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้า ยังคงเป็นโรคติดต่อที่คร่าชีวิตของสัตว์และคนทั่วโลกลำดับต้น ๆ แทบทุกปี จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ทุก ๆ ปีจะมีมนุษย์เสียชีวิตจากโรคนี้มากกว่า 55,000 ราย และตัวเลขนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา (ประเทศไทยก็เช่นกัน) ที่สำคัญยังคงเป็นโรคที่ยังไม่มีการรักษา หากแสดงอาการแล้วจะเสียชีวิตแทบทุกราย และกว่า 95% ของผู้ที่ป่วย รับเชื้อมากจากการถูกสุนัขกัด
ซึ่งพอถึงฤดูร้อนทีไร คนเลี้ยงสุนัขก็มักจะนึกถึงโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้าขึ้นมาทุกที บางคนยังคงเข้าใจว่า "โรคเรบีส์ หรือพิษสุนัขบ้านั้น มักเป็นกันในหน้าร้อน" เพราะคิดว่าอากาศที่ร้อนทำให้สุนัขที่ป่วยอยูู่ เกิดความหงุดหงิดหรือเครียด ก็อาจไล่กัดนำเชื้อมาแพร่สู่คนได้ ราวกับคนที่เสียสติ (บ้า) ตามความเข้าใจที่เคยได้รับรู้มา ความจริงแล้วสุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าจำเป็นต้อง "บ้า" หรือไม่ แล้วโรคนี้เป็นกันในฤดูร้อนจริงหรือเปล่า ... เรามาหาคำตอบกันครับ
ซึ่งพอถึงฤดูร้อนทีไร คนเลี้ยงสุนัขก็มักจะนึกถึงโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้าขึ้นมาทุกที บางคนยังคงเข้าใจว่า "โรคเรบีส์ หรือพิษสุนัขบ้านั้น มักเป็นกันในหน้าร้อน" เพราะคิดว่าอากาศที่ร้อนทำให้สุนัขที่ป่วยอยูู่ เกิดความหงุดหงิดหรือเครียด ก็อาจไล่กัดนำเชื้อมาแพร่สู่คนได้ ราวกับคนที่เสียสติ (บ้า) ตามความเข้าใจที่เคยได้รับรู้มา ความจริงแล้วสุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าจำเป็นต้อง "บ้า" หรือไม่ แล้วโรคนี้เป็นกันในฤดูร้อนจริงหรือเปล่า ... เรามาหาคำตอบกันครับ
โรคพิษสุนัขบ้า ไม่ได้เป็นแค่ช่วงฤดูร้อน
แนวคิดเรื่องที่ว่าโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้ามักจะเป็นกันในฤดูร้อนนั้น มาจากการคาดคะเนระยะฟักตัวของโรคนี้ ที่จะเฉลี่ยประมาณ 1-3 เดือน (ขึ้นกับตำแหน่งของร่างกายที่ได้รับเชื้อเข้าไป) ซึ่งสุนัขอาจจะได้รับเชื้อจากสุนัขที่ป่วยในช่วงที่มีการติดสัด โดยคาดว่าในช่วงนั้นจะอยู่ราว ๆ ประมาณเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม ซึ่งเวลาที่ผสมพันธุ์นั้น อาจจะมีการต่อสู้และกัดกันเพื่อแย่งชิงตัวเมีย ก็อาจจะได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายในช่วงนั้น เมื่อผ่านระยะฟักตัวของโรคแล้ว ก็จะมาแสดงอาการในช่วงฤดูร้อนพอดี อีกทั้งช่วงฤดูร้อนยังเป็นช่วงเด็กนักเรียนต่างกำลังปิดเทอม โอกาสที่จะไปเล่นคลุกคลีหรือไปแกล้งแหย่สุนัขจนถูกสุนัขกัดและได้รับเชื้อก็มีมาก จึงอาศัยช่วงดังกล่าวเป็นช่วงของการรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า คนจึงเข้าใจว่าโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้าจะเป็นกันในหน้าร้อนไปโดยปริยาย
ความจริงแล้วโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้านั้น เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส จึงไม่ได้เป็นเฉพาะแค่หน้าร้อน สามารถพบการระบาดได้ทั้งปี (ทุกฤดู) สุนัขที่เป็นโรคอยู่สามารถแพร่เชื้อได้ ไม่เพียงเฉพาะช่วงที่เป็นสัดเท่านั้น อีกทั้งสุนัขเองก็ไม่ได้เป็นสัดเพียงในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมด้วย โดยเฉลี่ยสุนัขเพศเมียจะแสดงอาการเป็นสัดประมาณปีละ 1-2 ครั้ง ไม่ได้กำจัดว่าต้องเป็นช่วงเดือนไหน ดังนั้นโอกาสที่สุนัขจะได้รับเชื้อจึงไม่ได้กำจัดอยู่แค่เพียงในช่วงดังกล่าว การใส่ใจและการป้องกันโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้านั้นจึงควรให้ความสำคัญตลอดทั้งปีครับ
โรคพิษสุนัขบ้า เป็นแล้วอาจไม่ "บ้า" ก็ได้
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคนี้ ด้วยชื่อโรค (พิษสุนัขบ้า) ที่เรียกตามอาการเด่นของสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคนี้ ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าน้องหมาที่ป่วยจะต้องมีอาการทางระบบประสาท (บ้า) ไล่กัดคน ความจริงแล้วสัตว์ที่ป่วยอาจจะแสดงอาการได้ทั้งแบบดุร้ายหรือแบบเซื่องซึมก็ได้ สุนัขบางตัวที่ป่วย อาจจะมีอาการซึม ไม่กินอาหาร ชอบแอบหนีที่หลบอยู่ที่เงียบตามลำพัง อาจจะกัดคนที่เข้าไปรบกวน จากนั้นก็จะเป็นอัมพาตและเสียชีวิตไป แต่ไม่ได้แสดงอาการหงุดหงิด ดุร้าย ไล่งับอย่างที่เราเคยเข้าใจ ทำให้หลายคนละเลยและมองข้ามโรคนี้ไป ดังนั้นสุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ อาจไม่ต้องแสดงอาการ "บ้า" ทุกตัวก็ได้ครับ
วิธีรับมือกับ โรคพิษสุนัขบ้า
อย่างที่ได้กล่าวไปว่า โรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้านี้ ยังไม่มีวิธีการรักษา ผู้ใดที่เป็นแล้วส่วนมากจะเสียชีวิต ดังนั้นแนวทางการรักมือที่ดีที่สุด คือ การป้องกัน ในคนนั้นเราสามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคแบบล่วงหน้า (pre-exposure immunization) ก่อนได้ โดยการฉีดกระตุ้น 3 ครั้ง ในวันที่ 0, 7, 21 หรือ 28 (0 คือ วันแรกที่ฉีดวัคซีน) หากได้รับการกระตุ้นวัคซีนครบ 3 ครั้งแล้ว เมื่อเกิดไปสัมผัสกับโรคหลังจากการฉีดภายใน 6 เดือน นับจากวันที่รับวัคซีนครั้งสุดท้าย ให้ฉีดวัคซีนกระตุ้น 1 ครั้ง แต่หากนานเกินกว่า 6 เดือน ให้ฉีดกระตุ้น 2 ครั้งครับ
ส่วนในสุนัขนั้น เมื่อมีอายุมากกว่า 3 เดือน ผู้เลี้ยงก็ต้องพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคกับสัตวแพทย์ และฉีดกระตุ้นซ้ำอีก 1 ครั้งในปีแรก จากนั้นให้พาไปฉีดกระตุ้นทุก ๆ ปีตามคำแนะนำของสัตวแพทย์โดยเคร่งครัด ผู้เลี้ยงคนไหนที่ไม่พาสุนัขไปฉีดวัคซีนถือว่า ผิดกฎหมายต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 ด้วยนะครับ
แต่หากเราพลาดถูกสุนัขกัด ข่วน เลียแผล ก่อนอื่นต้องรีบทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำประปา แล้วใช้สบู่ถูเบา ๆ ที่บาดแผลหลาย ๆ รอบประมาณ 5-10 นาที แล้วแต้มยาฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในกลุ่มของไอโอดีนช่วยฆ่าเชื้อไวรัส จากนั้นให้รีบไปพบแพทย์เช่นกัน แม้ว่าสุนัขของตัวเองจะเคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาแล้วก็ตาม ก็อย่าละเลยเด็ดขาด เพราะยังมีโรคติดต่อจากสัตว์อื่น ๆ ที่สามารถติดต่อสู่คนได้อีกครับ
ได้ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคเรบีส์หรือพิษสุนัขบ้าในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน้าฤดูร้อนกันไปแล้วนะครับ ต่อไปนี้ไม่เพียงแค่หน้าร้อนนี้เท่านั้นที่เราต้องใส่ใจ แต่เราต้องทำไปตลอดทั้งปีเลย เชื่อว่าถ้าทุกคนตระหนักรู้ และไม่ละเลยที่จะป้องกัน สักวันหนึ่งประเทศของเราคงจะปลอดจากโรคนี้ได้ในที่สุดครับ
บทความโดย หมอต้น ด็อกไอไลค์
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์
เนื้อหาอ้างอิงบางส่วน:
http://www.oie.int/en/animal-health-in-the-world/rabies-portal/about-rabies/
รูปภาพประกอบ:
http://dogsaholic.com/wp-content/uploads/2015/03/Dog-barking-e1427425709681-810x437.jpg
https://vetstreet-brightspot.s3.amazonaws.com/6a/379720c8ec11e0b7a30050568d6ceb/file/aggressive-dog-blame-IS-425km081711.jpg
https://onlinedoctor.lloydspharmacy.com/blob/12960/db64cfc0b057079e6cc024b9ffdb2d7a/travel-vaccinations---picture-data.jpg
SHARES