โดย: Tonvet
เจาะลึก!! สาเหตุที่น้องหมาเลือดกำเดาไหล
มาดูสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้น้องหมาเลือดกำเดาไหล พร้อมวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
26 ธันวาคม 2561 · · อ่าน (161,108)- สุนัขที่เลือดกำเดาไหลเกิดจากสาเหตุความผิดปกติเฉพาะที่จมูกเอง และสาเหตุจากความผิดปกติของร่างกาย
- สาเหตุเฉพาะที่ที่ทำให้เลือดกำเดาไหล ได้แก่ อุบัติเหตุ มีแผล เป็นฝี มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป เนื้องอก มีการติดเชื้อต่าง ๆ ฯลฯ เป็นต้น
- สาเหตุจากความผิดปกติของร่างกายที่ทำให้เลือดกำเดาไหล ได้แก่ ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ความดันโลหิตสูง ตลอดจนการได้รับสารพิษ พิษงูบางชนิด เป็นต้น
เวลาที่สุนัขเกิดอาการเลือดกำเดาไหลนั้น หลายคนอาจจะเป็นกังวลใจและสงสัยว่าเกิดอาการเช่นนั้นได้อย่างไร ความจริงแล้วเลือดกำเดาไหลเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นความผิดปกติเฉพาะที่ในส่วนของจมูกเอง หรือเกิดมาจากความผิดปกติของร่างกายก็ได้ บางสาเหตุก็เป็นสิ่งที่เจ้าของคาดไม่ถึง แต่สามารถส่งผลให้เกิดเลือดกำเดาไหลขึ้นมาได้ วันนี้เรามาดูกันครับว่า จะมีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้สุนัขเกิดอาการเลือดกำเดาไหลได้บ้าง
เลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกที่ข้าง ?
ก่อนอื่นเราต้องแยกสาเหตุให้ได้ก่อนว่า การที่เลือดกำเดาไหลออกมานั้น เกิดจากปัญหาเฉพาะที่ของจมูกเอง หรือเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ส่วนมากถ้ามีปัญหาจากเฉพาะที่จมูกเอง เลือดกำเดาจะไหลออกมาจากจมูก 1-2 ข้าง ขึ้นกับว่าตำแหน่งของรอยโรคนั้นเกิดที่จมูกข้างไหน แต่หากเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ส่วนมากเลือดกำเดามักจะไหลออกจากจมูกทั้งสองข้าง โดยไม่เลือกออกเพียงข้างใดข้างหนึ่งเฉพาะ อย่างไรก็ดีการที่สุนัขมีเลือดกำเดาไหลออกมานั้น อาจเกิดร่วมกันของปัญหาจากเฉพาะที่และความผิดปกติของร่างกายด้วยกันได้ ซึ่งจะขอแยกสาเหตุย่อยออกให้หัวข้อถัดไปครับ
สาเหตุเฉพาะที่จากส่วนของจมูก
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหล โดยเกิดจากความผิดปกติเฉพาะที่ของจมูกนั้น ก็ได้แก่ การติดเชื้อราที่โพรงจมูก การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในโพรงจมูก การเกิดฝีที่บริเวณจมูก การได้รับบาดเจ็บ เกิดเป็นแผลที่จมูก ทั้งจากแผลถูกกัด การถูกทุบตี หรือเกิดอุบัติเหตุใดใดขึ้นที่จมูก และการเกิดเนื้องอกขึ้นในโพรงจมูก ส่วนการวินิจฉัยเบื้องต้น สามารถทราบได้จากการตรวจและการสังเกต นอกจากนี้ยังอาจใช้วิธีการเอ็กซเรย์ หรือส่องกล่องเข้าไปตรวจดูในโพรงจมูก หากพบเนื้องอกคุณหมอจะทำการเก็บเซลล์หรือตัดชิ้นเนื้อไปส่งตรวจ เพื่อดูว่าเป็นเนื้องอกชนิดอะไรต่อไป
สาเหตุจากความผิดปกติของร่างกาย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหล เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ก็มีตั้งแต่การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ สุนัขพวกนี้เวลาที่มีเลือดออก ก็จะไหลนานกว่าปกติ อาจจะเกิดความผิดปกติของปัจจัยการแข็งตัวของเลือด เช่น ได้รับสารพิษพวกยาเบื่อหนูที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก็จะยับยั้งการสร้างโปรตีนที่ใช้ในการแข็งตัวของเลือดที่ตับ คือ พวกแฟคเตอร์ที่ต้องอาศัยวิตามินเคทำให้เลือดไม่แข็งตัว
การที่สุนัขมีเกล็ดเลือดต่ำ อาจมีสาเหตุมาจากการที่สร้างเกล็ดเลือดลดลง เช่น โรคที่มีผลกระทบต่อไขกระดูก ได้รับยาที่กดการทำงานของไขกระดูก ติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อริกเก็ตเซีย (Canine ehrlichiosis) เป็นโรคพยาธิในเม็ดเลือด ได้รับรังสี หรือมีสาเหตุจากการทำลายของเกล็ดเลือดมากขึ้น เช่น ภาวะภูมิไวเกิน โรค autoimmune หรือการเกิด Disseminated intravascular coagulation (DIC) ซึ่งจะมีการใช้เกล็ดเลือดและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดมากเกินไป การที่มีเกล็ดเลือดต่ำจะทำให้เลือดหยุดยากเวลาที่มีเลือดกำเดาไหล
การได้รับพิษงู ซึ่งเป็นพิษบางชนิดจะไปทำลายผนังด้านในของหลอดเลือด ทำให้เม็ดเลือดแดงออกมาจากผนังหลอดเลือดที่ถูกทำลาย จึงมีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ พบได้ในพิษของงูกะปะ งูเขียวหางไหม้ และงูแมวเซา นอกจากนี้จากเวลาที่สุนัขเกิดความดันโลหิตสูงมาก ๆ จนทำให้เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก ก็จะเกิดเลือดกำเดาไหลออกมาได้เช่นกัน สามารถทราบได้จากการตรวจเลือด ตรวจดูความผิดปกปติที่ไขกระดูก ตรวจวัดการแข็งตัวของเลือด รวมทั้งการประเมินร่างกายทั้งหมดโดยรวม
การที่สุนัขมีเกล็ดเลือดต่ำ อาจมีสาเหตุมาจากการที่สร้างเกล็ดเลือดลดลง เช่น โรคที่มีผลกระทบต่อไขกระดูก ได้รับยาที่กดการทำงานของไขกระดูก ติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อริกเก็ตเซีย (Canine ehrlichiosis) เป็นโรคพยาธิในเม็ดเลือด ได้รับรังสี หรือมีสาเหตุจากการทำลายของเกล็ดเลือดมากขึ้น เช่น ภาวะภูมิไวเกิน โรค autoimmune หรือการเกิด Disseminated intravascular coagulation (DIC) ซึ่งจะมีการใช้เกล็ดเลือดและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดมากเกินไป การที่มีเกล็ดเลือดต่ำจะทำให้เลือดหยุดยากเวลาที่มีเลือดกำเดาไหล
การได้รับพิษงู ซึ่งเป็นพิษบางชนิดจะไปทำลายผนังด้านในของหลอดเลือด ทำให้เม็ดเลือดแดงออกมาจากผนังหลอดเลือดที่ถูกทำลาย จึงมีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ พบได้ในพิษของงูกะปะ งูเขียวหางไหม้ และงูแมวเซา นอกจากนี้จากเวลาที่สุนัขเกิดความดันโลหิตสูงมาก ๆ จนทำให้เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก ก็จะเกิดเลือดกำเดาไหลออกมาได้เช่นกัน สามารถทราบได้จากการตรวจเลือด ตรวจดูความผิดปกปติที่ไขกระดูก ตรวจวัดการแข็งตัวของเลือด รวมทั้งการประเมินร่างกายทั้งหมดโดยรวม
วิธีปฐมพยาบาลสุนัขที่เกิดเลือดกำเดาไหล
เมื่อสุนัขเกิดเลือดกำเดาไหลต้องพยายามควบคุมให้สุนัขอยู่นิ่ง ๆ เพราะถ้าสุนัขตื่นเต้นจะทำให้ความดันโลหิตสูง ยิ่งจำทำให้เลือดกำเดาไหล หากอยู่ในที่ร้อนหรือกลางแจ้ง ควรย้ายสุนัขเข้ามาอยู่ในที่เย็น ๆ เพราะความร้อนจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวได้ เจ้าของพยายามควบคุมสุนัขเท่าที่จำเป็น อย่าให้สุนัขเครียด เพราะจะยิ่งทำให้สุนัขตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก จากนั้้นให้ใช้น้ำแข็งหรือแผ่นให้ความเย็น นำมาห่อด้วยผ้าขนหนูที่สะอาด แล้วใช้ประคบด้านบนของจมูก ตรงบริเวณที่อยู่ระหว่างดวงตากับจมูกของสุนัข ประคบไว้จนกว่าเลือดจะหยุดไหล ถ้ามีลิ่มเลือดเกิดขึ้นก็ไม่ต้องไปแกะออก เพราะจะทำให้เลือดกลับมาไหลต่อได้อีก หากได้ทำการปฐมพยาบาลตามขั้นตอนนี้ให้สุนัขเกินกว่า 20-30 นาทีแล้ว เลือดก็ยังไม่หยุดไหล เจ้าของควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที ในรายที่มีสาเหตุจากความผิดปกของการแข็งตัวของเลือด จะทำให้เลือดกำเดาหยุดยากกว่าปกติ จำเป็นต้องใช้ยาเพื่อช่วยในการห้ามเลือดโดยสัตวแพทย์ครับ
เวลาพบสุนัขเกิดเลือดกำเดาไหลก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ ให้เราพยายามช่วยปฐมพยาบาลให้กับสุนัขก่อนโดยทันที แต่ถ้าหากเลือดยังไม่หยุดไหล เจ้าของก็ต้องอย่านิ่งนอนใจเช่นกัน ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อช่วยรักษา สำหรับสาเหตุของเลือดกำเดาไหลนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางครั้งก็เกิดร่วมกันทั้งสาเหตุเฉพาะที่และความผิดปกติจากร่างกาย จะต้องทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อรักษาต่อไปได้อย่างถูกต้องครับ
บทความโดย: หมอต้น ด็อกไอไลค์
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์
รูปภาพประกอบ:
www.petwave.com/-/media/Images/Center/Health/Dog/Nose/Nose-1/Closeup-of-Nose.ashx?w=450&hash=BD3A6ED7641BDDA90342AE849CDFEFE41EBACED7
www.pethealthx.com/wp-content/uploads/2018/10/1538491509_what-to-do-about-a-dog-nose-bleed.jpg
www.eclinpath.com/wp-content/uploads/glanzbleed-boudreaux.jpg
i.ytimg.com/vi/xpuNkL1zlWg/maxresdefault.jpg
usercontent1.hubstatic.com/13198892_f520.jpg
SHARES