สุนัขแต่ละตัวมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งคนเราอาจไม่ได้กลิ่นนี้ แต่สำหรับสุนัขด้วยกันเวลามาดมกลิ่นก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่า สุนัขตัวนี้เป็นใคร สบายดีมั้ย หรือไปทำอะไรมา เราคงเคยเห็นสุนัขทักทายกันด้วยการดมตัวกัน นั่นเป็นการหาข้อมูลในแบบฉบับของสุนัข เช่นเดียวกับเวลาที่คนเราทักทายถามสารทุกข์สุขดิบกัน จมูกของสุนัขมีประสาทสัมผัสดีมากกว่ามนุษย์หลายสิบเท่า และสมองของสุนัขก็สามารถแปลสารจากกลิ่นออกมาเป็นข้อมูลต่าง ๆ ได้ราวกับการถอดรหัสลับ

 

     ต่อมกลิ่นที่ว่าอยู่บริเวณใกล้ ๆ ทวารหนัก ตามธรรมเนียมการดมกลิ่นของสุนัขแล้ว จะไล่ดมตั้งแต่ปากไปยังก้นของอีกฝ่าย นอกจากนี้สุนัขยังมีการผลิตน้ำมันขึ้นมาบำรุงขนและผิวหนังด้วย เจ้ากลิ่นนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ด้วย เวลาสุนัขไปนอนทับหรือถูตัวกับสิ่งชองสิ่งใด ก็จะทิ้งกลิ่นตัวไว้ด้วย เมื่อมีสุนัขตัวอื่น ๆ เดินผ่านมาก็จะรู้ได้เลยว่า แถวนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีหมาตัวไหนเป็นเจ้าถิ่นอยู่หรือเคยเดินผ่านมาแถวนี้บ้าง แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ก็เป็นกลิ่นตัวปกติที่สุนัขต่าง ๆ ให้สื่อสารกัน

     แต่ว่าบางครั้งกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์ก็พบได้ในสุนัขเช่นกัน กลิ่นแบบนี้เจ้าของอาจไม่ค่อยสบายใจเท่าไร และกลิ่นนี้อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสุนัขได้ด้วย เรียกได้ว่าเหม็นจนไม่อยากเข้าใกล้สุนัขเลย เรามาดูกันครับว่า สาเหตุที่น้องหมาตัวเหม็นนี่นเกิดจากอะไรได้บ้าง ...

 

 

 

 

 

     อย่างที่บอกว่าสุนัขแต่ละตัวมีกลิ่นตัวเฉพาะ ที่บางครั้งเราอาจไม่ได้กลิ่นนี้ แต่สำหรับสุนัขด้วยกันนั้นสามารถแยกแยะกลิ่นของสุนัขแต่ละตัวออก กลิ่นตัวของสุนัขเกิดจากสารเคมี เหงื่อ (ต่อมเหงื่อตามอุ้มเท้า) น้ำมัน (ต่อมไขมันที่ผิว) สะสมตามผิวหนัง รูขุมขน ต่อมข้างก้น หรือแม้แต่ที่หู กลิ่นของสุนัขจะรุนแรงขึ้นเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อยีสต์ (เชื้อรา) ซึ่งเชื้อพวกนี้จะเจริญเติบโตได้ดีต้องอาศัยปัจจัยจากสภาพแวดล้อมทั้งอุณหภูมิ ความชื้น และอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตด้วย โปรตีนและน้ำมันบนผิวของสุนัขมาเป็นอาหารที่ดี เมื่อผ่านกระบวนการย่อยก็จะได้ออกมาเป็นของเสีย ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatiles Organic Compounds) อันเป็นที่มาของกลิ่นเหม็นเน่า

 

     กล่าวโดยสรุปคือ แบคทีเรียที่ย่อยโปรตีนและไขมันบนร่างกาย ทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ และแบคทีเรียพวกนี้ก็ชื่นชอบอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ทำให้มันเจริญเติบโตได้ดี สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง สุนัขที่ตัวเปียกชื้นตลอดเวลา ความอับชื้น อุณหภูมิที่ร้อน ขนของสุนัขที่ยาวก็เป็นตัวอุ้มน้ำและเก็บกักความชื้นได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการที่เราไม่ดูแลความสะอาดร่างกายให้ดีเพียงพอ ทั้งหมดนี้อาจทำเกิดกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์ขึ้นมาได้ เหมือนเวลาเราใส่รองเท้าที่อับเหงื่อ คับแน่น แล้วไปลุยในที่เปียกชื้น สักพักก็จะเกิดกลิ่นรองเท้าขึ้นมาได้ นอกจากนี้กลิ่นตัวยังเกิดขึ้นกับสุนัขที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อยีสต์ด้วย สุนัขที่เป็นโรคผิวหนังจากสาเหตุเหล่านี้ ก็มักจะมีกลิ่นตัวที่รุนแรงกว่าปกติด้วยเช่นกัน

 

     ปัจจัยจากสรีระร่างกายอาจทำให้สุนัขบางตัวมีกลิ่นตัวได้ง่ายกว่าสุนัขตัวอื่น ๆ เช่น สุนัขที่มีขนยาว สุนัขที่ขนในรูหูยาว สุนัขที่มีใบหูยาวพับลงมา สุนัขที่มีผิวหนังพับย่น ฯลฯ จุดอับเหล่านี้อาจเป็นที่กักเก็บความชื้น ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของพวกเชื้อแบคทีเรียและเชื้อยีสต์ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นตัวได้  รวมถึงสุนัขที่มีการสร้างไขมันที่ผิวเยอะ หรือได้รับไขมันเข้าสู่ร่างกายมากกว่าปกติด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

     เวลาสุนัขมีกลิ่นตัวรุนแรงหลายคนคิดว่าการพาสุนัขไปอาบน้ำจะสามารถช่วยได้ แต่เมื่ออาบน้ำยังไม่ทันข้ามวันกลิ่นตัวก็กลับมาอีกแล้ว ดูเหมือนยิ่งอาบยิ่งไม่ได้ผลเท่าไร จะทำอย่างไรให้กลิ่นตัวหมดไปนั้น มาดูวิธีกันครับ

 

     1 อย่างแรกให้เราสำรวจผิวหนังสุนัขก่อนว่า นอกจากการที่มีกลิ่นตัวแล้ว ยังมีความผิดปกติอยางอื่นด้วยหรือไม่ เช่น มีเม็ดตุุ่ม ผื่นแดง ขนร่วง คัน ฯลฯ เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังเป็นโรคผิวหนังอยู่ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจและรักษาโดยทันที

 

     2 หมั่นดูแลความสะอาดให้สุนัขเป็นประจำ สุนัขที่ตัวสกปรกอาจเป็นบ่อเกิดของแบคทีเรียบนผิวหนังได้ สุนัขที่มีผิวพับย่น มีขนในหู หรือมีจุดอับตามร่างกายต่าง ๆ ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อย่าให้ผิวหนังอับชื้นเป็นเด็ดขาด 

 

     3 เวลาอาบน้ำอาจใช้แชมพูสูตรกำจัดกลิ่นหรือสูตรที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราตามที่สัตวแพทย์แนะนำ เพื่อช่วยลดเชื้อเหล่านี้พบผิวหนัง แต่ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไป เวลาอาบน้ำเสร็จก็จะต้องเป่าขนให้แห้งสนิทด้วย ไม่ควรปล่อยให้ขนสุนัขให้แห้งเอง

 

     4 อย่าให้สุนัขเล่นน้ำบ่อย ๆ นอนแช่น้ำ หรืออยู่ในที่อับชื้น โดยเฉพาะในฤดูร้อนและฤดูฝนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อุณหภูมิและความชื้นทำให้สุนัขเกิดกลิ่นตัวได้

 

     5 ต้องหมั่นทำความสะอาดเบาะ ผ้าปู เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ที่สุนัขใช้หรือสัมผัสเป็นประจำ รวมถึงทำความสะอาดบริเวณพื้นที่น้องหมานอนด้วย เวลาถูกพื้นหากให้น้ำยาถูพื้นถู ควรทำตามขั้นตอนที่ฉลากบนผลิตภัณฑ์ได้ระบุไว้ และควรถูด้วยน้ำเปล่าซ้ำด้วย เพื่อความปลอดภัยต่อน้องหมา การถูพื้นนอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นแล้ว ยังเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคที่ติดจากสุนัขได้อีกด้วย 

 

     เพราะกลิ่นตัวไม่ใช่เรื่องตลก ดังนั้นการดูแลสุนัขอย่างถูกวิธีจะช่วยให้กลิ่นตัวสุนัขลดลงได้ ความสกปรก อุณหภูมิ และความชื้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เพื่อน ๆ ก็ลองนำเอาวิธีเหล่านี้ไปลองใช้กันดูนะครับ

 

 

 

รูปภาพประกอบ :

https://www.petplan.com.au/blog/wp-content/uploads/2017/05/Reasons-Your-Dog-Smells.jpg

https://www.pet.co.nz/images/landing-pages/5603105a5cb963.27613511.png

http://cdn.akc.org/akccontentimages/Infographic_Why_wet_dogs_smell_cover.jpg

https://www.thesprucepets.com/thmb/FaGeAkOMu4cgduSkjXMjLf6uNDk=/450x0/filters:no_upscale():max_bytes(150000):strip_icc()/GettyImages-482078794web-574f33553df78c5c875c77fa.jpg