โดย: Tonvet

ไขความลับ สัมผัสพิเศษที่น้องหมามีมากกว่ามนุษย์

บางสิ่งที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้ แต่สุนัขสามารถรับรู้ได้ มาไขคำตอบกับความรู้ทางวิทยาศสตร์ไปพร้อมกัน

4 พฤศจิกายน 2562 · ชอบ  (0) · แสดงความคิดเห็น (0) · อ่าน (23,221)
586

SHARES


586 shares
  • สุนัขจะมีขนาดพื้นที่รับกลิ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 125-150 ตารางเซนติเมตร แตกต่างจากคนซึ่งมีขนาดพื้นที่แค่เพียง 4-5 ตารางเซนติเมตรเท่านั้น อีกทั้งยังมีอวัยวะพิเศษที่ชื่อว่า Jacobson’s organ ช่วยรับฟีโรโมนด้วย
 
  • สุนัขสามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ (Hz) และมากกว่า 20,000 เฮิรตซ์ (Hz) ได้ ซึ่งเป็นความถี่ที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถได้ยินหรือรับรู้ได้
 
  • สุนัขสามารถรับรู้ได้ถึงโรคร้ายภายในร่ายกาย ภัยธรรมชาติที่ยังมาไม่ถึง และรวมถึงอารมณ์ความรู้สึกที่คนเราเก็บซ้อนไว้ภายในได้ด้วย

 

 

Dogilike.com :: ไขความลับ สัมผัสพิเศษที่น้องหมามีมากกว่ามนุษย์

 

     เคยหรือไม่ครับ ที่อยู่ดี ๆ น้องหมาก็เห่า แถมทำท่าขุดพื้นซ้ำ ๆ ทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีอะไรเลย หรือบางตัวก็ยืนจ้องไปที่กำแพงหรือนอกหน้าต่างนานสองนาน แล้วจู่ ๆ ก็เห่าเสียงดัง บ้างก็หอนทั้ง ๆ ที่เราก็ว่าไม่เห็นจะมีอะไรตรงนั้นสักหน่อย ไม่นะ!!..หรือว่าน้องหมาจะเจอของดีอะไรเข้าให้แล้ว แค่คิดยิ่งแอบหลอนเข้าไปใหญ่เลย แต่ช้าก่อนครับ เรื่องนี้วิทยาศาสตร์มีคำตอบ เรามาดูกันว่า น้องหมามีสัมผัสพิเศษอะไรบ้างที่มากกว่ามนุษย์ทั่วไป
 
     ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจความเป็นสุนัขสักนิดกันก่อนครับ สุนัขบ้านนั้นเคยเป็นสุนัขป่ามาก่อน ให้อดีตที่สุนัขต้องอาศัยอยู่ในป่ารกทึบ หรือแม้แต่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่นั้น การสื่อสารกันไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ต่อให้มี Line และ WeChat แล้วก็ตาม การส่งเสียงให้มีความถี่ต่ำ ๆ จะสามารถส่งคลื่นเสียงไปได้ไกลกว่า สุนัขมักอยู่รวมกันเป็นฝูง การสื่อสารหรือหอนก็เป็นการส่งข้อความหรือใช้บอกตำแหน่งของตัวเองได้ คล้าย GPS ติดตามตัว แม้ปัจจุบันสุนัขจะไม่ได้อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ แต่ทักษะการสื่อสารระยะไกลกับสุนัขตัวอื่น ๆ ที่แม้ไม่ได้เห็นหน้ากันยังคงติดตัวพวกมันอยู่ และมันก็อาจเป็นเสียงที่มนุษย์อย่างเรารับรู้ไม่ได้ด้วย
 
 
Dogilike.com :: ไขความลับ สัมผัสพิเศษที่น้องหมามีมากกว่ามนุษย์

 
     สุนัขมีประสาทสัมผัสที่เหนือกว่ามนุษย์หลายเท่า ทั้งการได้ยินและการดมที่ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ โดยสุนัขสามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ (Hz) และมากกว่า 20,000 เฮิรตซ์ (Hz) ได้ ซึ่งเป็นความถี่ที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถได้ยินหรือรับรู้ได้  อีกทั้งยังได้กลิ่นได้ดีกว่าของมนุษย์ถึง 1000 เท่า แม้แต่กลิ่นที่ถูกทิ้งไว้นานเป็นสัปดาห์ อย่างรอยนิ้วมือของคุณในกระจกก็ยังสามารถรับรู้ได้


     ภายในจมูกของสุนัขจะมีเซลล์รับกลิ่นที่เรียกว่า Olfactory cells อยู่จำนวนมาก สามารถรับกลิ่นที่ลอยมาทางอากาศจากแหล่งใกล้ไกลได้ เซลล์เหล่านี้จะอยู่ตามผิวในโพรงจมูก (olfactory mucous membrane) ในสุนัขจะมีการพัฒนาในส่วนของจมูกนี้ค่อนข้างมาก โดยมีขนาดพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 125-150 ตารางเซนติเมตร แตกต่างจากคนซึ่งมีขนาดพื้นที่แค่เพียง 4-5 ตารางเซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งสุนัขแต่ละพันธุ์ก็จะมีขนาดไม่เท่ากัน ความไวในการดมจึงลดหลั่นกันไป โดยสุนัขที่มีหน้ายาวจะมีพื้นที่ในการรับกลิ่นที่มากกว่า

 
Dogilike.com :: ไขความลับ สัมผัสพิเศษที่น้องหมามีมากกว่ามนุษย์

 
     นอกจากนี้ภายในจมูกของสุนัขยังมีอวัยวะพิเศษที่ชื่อว่า Jacobson’s organ หรือ Vomero-nasal organ ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อลักษณะเป็นท่อแคบ ๆ 1 คู่ อยู่บริเวณเพดานแข็งทำหน้าที่รับฟีโรโมน (pheromone) ได้ เราอาจเคยเห็นสุนัขบางตัวทำหน้าเผยอขึ้น แล้วยกริมฝีปากบนขึ้น เพื่อให้เนื้อเยื่อส่วนนี้รับสารเคมีได้ดีขึ้น เราเรียกท่าทางแปลก ๆ แบบนี้ว่า Flehmen
 
     ซึ่งโดยธรรมชาติของสุนัขจะถูกสร้างมาให้เซลล์รับกลิ่นจะมีระดับ threshold ที่ค่อนข้างต่ำ เพื่อให้ถูกกระตุ้นได้ง่าย ทำให้มีความไว (sensitivity) สูง แม้จะได้รับกลิ่นเพียงเล็กน้อยก็สามารถรับรู้ได้ โดยกลไกจะเริ่มจาก เมื่อกลิ่นซึ่งเป็นโมเลกุลของสารเคมีล่องลอยอยู่ในอากาศ ถูกสูดเข้าสู่จมูกผ่านการหายใจเข้า แล้วไปจับกับเนื้อเยื่อภายในจมูกส่วนรับสัญญาณ จนเกิดการกระตุ้นเซลล์รับกลิ่น (olfactory cells) มีการเปลี่ยนแปลงของ ion channels เกิด depolarization ขึ้น แล้วส่งสัญญาณ impulse ไปตามเส้นประสาท (olfactory tract) เข้าสู่สมองเพื่อแปลสัญญาณออกมา

     แม้สุนัขจะมีสายตาไม่ดีเท่ามุนษย์ แต่ก็สามารถมองเห็นวัตถุที่เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วได้ และมันก็ทำงานได้ดีเลยทีเดียวในเวลากลางคืน คุณลักษณะเช่นนี้มีอยู่ในสุนัขมานานแล้ว และสามารถทำให้สุนัขใช้ชีวิตได้ดีในทุกสถานการณ์ ต่อไปนี้เราจะมาดูกันครับว่า เรื่องอะไรบ้างที่น้องหมาสามารถรับรู้ได้ เหนือกว่ามนุษย์อย่างเราบ้าง
 
 
 

1 ตรวจจับโรคร้ายในร่างกาย

 

     หลายปีก่อนเคยมีข่าวของสุนัขตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Charlie เป็นสุนัขพันธุ์เกรทเดน ที่สามารถเตือนสมาชิกในครอบครัวให้ทราบก่อนที่หนูน้อย Brianna Lynch วัย 3 ขวบ จะมีอาการชักกำเริบ ทั้งที่ไม่เคยถูกฝึกให้ดมกลิ่นมาก่อน  หลายคนต่างสงสัยว่ามันสามารถรับรู้ได้อย่างไร ความจริงแล้วนั้น การดมกลิ่นจัดเป็นสัญชาตญาณแห่งการรับรู้ ที่ต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และกระบวนการในการเรียนรู้ ประสบการณ์และการเรียนรู้นี่เองที่จะสอนสุนัขให้สามารถตีความได้ว่า กลิ่นที่ได้รับนั้นเป็นกลิ่นของอะไร เช่น เมื่อเราได้กลิ่นของทุเรียน เราก็สามารถบอกได้ทันทีว่านั่นคือ ทุเรียน ทั้งทียังไม่ได้เห็นผลของทุเรียนเลยด้วยซ้ำ

 
Dogilike.com :: ไขความลับ สัมผัสพิเศษที่น้องหมามีมากกว่ามนุษย์

 

     จากเหตุผลดังกล่าว นอกจากการรับรู้ว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นของอะไรแล้ว ประสบการณ์ยังสร้างให้สุนัขสามารถแยกแยะกลิ่นของร่างกายมนุษย์ที่ปกติกับกลิ่นของมนุษย์ที่ผิดปกติได้ด้วย นั่นเองทำให้สุนัขรับรู้ได้ทันทีว่า ร่างกายของเรานั้นเกิดความผิดปกติอะไรขึ้นมา สุนัขสามารถรับรู้ความผิดปกติของร่างกายมนุษย์ได้หลายโรค เช่น โรคลมชัก โรคเบาหวาน (จะเตือนเราเมื่อน้ำตาลต่ำได้) โรคมะเร็ง เนื่องจากมะเร็งบางชนิดสามารถสร้างสาร Volatile organic compounds ได้ สุนัขมาความสามารถตรวจพบมะเร็งบางชนิดในมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งรังไข่ โรคมะเร็งผิวหนัง โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ฯลฯ  สุนัขจะพยายามสื่อสารเพื่อเตือนเรา โดยสุนัขอาจจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปทันที บ้างพยายามเห่าไม่หยุด บางตัวเข้ามาเลียคลอเคลียมากขึ้น หรือแสดงออกกับเรามากว่าปกติที่เคย ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่า จะเข้าใจสิ่งที่มันสื่อสารมาหรือไม่ สุนัขตัวหนึ่งพยายามเห่าเตือนภัยถึงสิ่งอันตรายที่กำลังก่อตัวขึ้นในร่างกายของเจ้านายของมัน "ฉันไม่เคยเห็นพฤติกรรมของเล็กซี่เป็นแบบนี้มาก่อน มันพยายามที่จะขุดหน้าอกฉัน มันเห่าตลอดเวลา จนฉันเริ่มสงสัยจึงไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพดู และฉันก็ตกใจมากที่พบว่าคุณหมอตรวจเจอว่า เป็นมะเร็งเต้านม" 


 

2 การทำนายภัยธรรมชาติที่ยังมาไม่ถึง

 

     จะเรียกว่าสัญชาตญาณหรือพลังจิตอะไรก็แล้วแต่ สุนัขสามารถเตือนภัยธรรมชาติกับเราได้ ที่เมืองหนานฉาง มณฑลเจียงสี ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ได้ใช้สุนัขในการช่วยเตือนภัยแผ่นดินไหว เนื่องจากสุนัขมักมีพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม เช่น การเห่าหอนไม่ยอมหยุด ทั้งมีอาการกระวนกระวาย ก่อนเกิดธรณีพิบัติล่วงหน้านานสุดถึง 10 วัน มันช่วยให้มนุษย์รอดตายได้หลายหมื่นคน จากการอพยพหนีภัยธรรมชาติก่อนที่มันเกิดขึ้น ทั้งนี้วิทยาศาสตร์เริ่มหาคำตอบเกี่ยวกับพฤติกรรมสุนัขกับภัยธรรมชาติ โดย ดร.เฮอร์เว ฟริตซ์ (Herve Fritz) นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์แห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส  (France's National Centre for Scientific Research) เคยให้ความเห็นว่า สัตว์โดยเฉพาะที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีความสามารถในการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนหรือคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำจากระยะไกล หรือที่เรียกว่า อัลฟราซาวนด์ คลื่นความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ทำให้สัตว์พวกนี้หนีเอาตัวรอดได้ในเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวหรือสึนามิได้ อย่างที่บอกสุนัขสามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ และมากกว่า 20,000 เฮิรตซ์ ซึ่งเป็นความถี่ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้ ในการเกิดภัยธรรมชาติทุกครั้งจะมีสัญญาณบ่งบอกก่อนเสมอ อาจจะเป็นเสียงที่มีความถี่ต่ำมากจนมนุษย์อย่างเราไม่สามารถรับรู้ได้ คลื่นความถี่ต่ำ ๆ พวกนี้จะเดินทางได้ไกล ทำให้สุนัขรับรู้ถึงภัยธรรมชาติได้ล่วงหน้าก่อนที่มันจะมาถึงได้ เราอาจสังเกตได้ว่า ทุกครั้งที่เรากลับบ้าน สุนัขรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังจะมา ทั้ง ๆ ที่ยังขับรถมาไม่ถึงหน้าบ้านเลยด้วยซ้ำ  

 
Dogilike.com :: ไขความลับ สัมผัสพิเศษที่น้องหมามีมากกว่ามนุษย์

 

3 รับรู้อารมณ์ความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ภายใน

 


     ถึงไม่บอกน้องหมาก็รู้ว่ามนุษย์รู้สึกอะไรอยู่ เคยมีการสำรวจสุนัขที่เจ้าของเลิกลากันไป พบว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป บางตัวกระวนกระวาย สับสน และโมโหง่าย ถึงสุนัขจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่การที่มีใครสักคนที่คุ้นเคยหายออกไปนาน ๆ กลิ่นในสภาพแวดล้อมจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ของบางอย่างมันมีกลิ่นเฉพาะตัว มันหายไปจากที่เคยวางอยู่ รูปแบบของกลิ่นที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้สุนัขรู้สึกสับสนจากความเปลี่ยนแปลงนี้ สุนัขเรียนรู้จากการจ้องมองกิจวัตรประจำวันของเรา และรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของคนนั้นกำลังสุข เศร้า หรือหวาดกลัว เวลาที่เรารู้สึกอย่างไร ร่างกายของมนุษย์ก็จะสร้างสารบางอย่างที่สุนัขสามารถรับรู้ได้ด้วยการดมกลิ่นออกมา รูปแบบของกลิ่นที่เปลี่ยนไปนี้เอง ทำให้สุนัขแยกแยะอารมณ์ของเราได้ ทั้งนี้ขึ้นกับประสบการณ์ที่สุนัขแต่ละตัวเรียนรู้มาด้วย เช่น เวลาที่เราเครียด ร่างกายจะมีการหลั่งคอร์ติซอล (cortisol) บางครั้งกลิ่นมันออกในรูปของสารประกอบระเหยง่าย (Volatile organic compounds) มาพร้อมกับเหงื่อ สุนัขมีอวัยวะพิเศษที่ชื่อว่า Jacobson’s organ หรือ Vomero-nasal organ ซึ่งอยู่บริเวณเพดานแข็งทำหน้าที่รับฟีโรโมน (pheromone) ได้ มันคล้ายกับเวลาที่ร่างกายของเราป่วย  ความเจ็บป่วยนั้นทำให้กลิ่นของเราเปลี่ยนไปหรือร่างกายมีการสร้างสารที่มีกลิ่นแปลก ๆ ขึ้นมา สุนัขจึงรับรู้ได้ว่าเป็นอะไร น่นอนเราอาจหลอกใครถึงความรู้สึกข้างในของเราได้ แต่เราไม่สามารถหลอกสุนัขได้หรอก  
 
 
Dogilike.com :: ไขความลับ สัมผัสพิเศษที่น้องหมามีมากกว่ามนุษย์

 

     บนโลกนี้มีเรื่องมากมายที่มนุษย์อย่างเราไม่สามารถสัมผัสได้ มีเรื่องราวน่าประหลาดเกิดขึ้นเมื่อมีสุนัข 600 ตัว มากระโดดสะพานแห่งนี้มีชื่อว่า โอเวอร์โทน (Overtoun Bridge) อยู่ที่เมืองดัมบาร์ตันเชอร์ ประเทศสกอตแลนด์ เป็นสะพานเก่าแก่กว่าศตวรรษ ซึ่งอยู่ติดกับปราสาทสไตล์โกธิค ชื่อ โอเวอร์โทน เฮ้าส์ เชื่อกันว่ามีวิญญาณของไวท์เลดี้โอเวอร์โทนสถิตอยู่ที่นี่มากกว่า 100 ปี สุนัขที่มากระโดดสะพานนี้มีจำนวนราว 50 ตัวที่ตายไป บางตัวที่รอดตายก็กลับมากระโดดสะพานอีกครั้ง เรื่องแบบนี้หลายคนอาจจะคิดไปไกลถึงสิ่งลึกลับผีสางนางไม้ แต่จากการสำรวจได้บอกกับเราว่า ด้านล่างของสะพานเป็นรังขนาดใหญ่ของทั้งกระรอก หนู และตัวมิ้งค์ จึงสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า กลิ่นและเสียงของพวกสัตว์เหล่านี้เป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้สุนัขต้องกระโดลงไปสำรวจ อีกทั้งสะพานยังมีราวสะพานที่พบบังการมองเห็น จึงทำให้สุนัขต้องปีนหรือกระโดดไปดู


     อย่างที่บอกว่า น้องหมามีประสาทสัมผัสที่ว่องไว มักแสดงปฏิกริยากับสิ่งที่ตนเองสัมผัสในทันที เมื่อได้กลิ่นก็ดม อยากเข้าไปดมใกล้ ๆ เพื่อให้ได้กลิ่นชัดเจนที่สุด หรือมีอะไรเคลื่อนไหวผ่านก็มองตาม ซึ่งบางครั้งการกระทำในบางอย่าง (ไม่ทั้งหมด) ก็อาจไม่ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์แบบคนเรา ใช้เพียงแต่สัญชาตญาณเท่านั้น เราอาจเคยสังเกตเวลาที่เราขับรถพาสุนัขไปข้างนอก แล้วต้องผ่านหน้าคลินิคสัตวแพทย์ที่น้องหมาเคยไป พอเมื่อสุนัขผ่านไปทุกครั้ง สุนัขจะเกิดอาการหวาดกลัวอย่างกระทันหัน บ้างแสดงอาการเครียดและหยุดนิ่งทันที เหล่านี้เกิดจากการสัมผัสและการเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต หาใช่สิ่งอาถรรพ์ลึกลับหรือคุณไสยที่สัตวแพทย์ทำไม่






บทความโดย: หมอต้น ด็อกไอไลค์
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์

 
รูปภาพประกอบ :
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcQ7BLQvevzrJxK3qFktwMPXsPpz91aMj30LyaYr6y1YRnGHJ4oP
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcSDcp0AdVkpLTK4_rBatJT67WZEO-7HDpNycqY7dla3OCaR4wnl
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcRya2CSFErjASiCbI9iliGSvxf_sbf44Ik_s1BemQINAaItS7w1
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcQL_QQySyWIut9R9vPVN565UAiTPW5dRdg7dmGCS4u-WzXbNMHd
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcQqg6_27RxzM9-CZHcFdi2HOLXWuFMmlmRiefcy1ulzc-6BDV8x
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcTZzjfXTsXV8TVeaUM-fD_IWYkupNym5SfE26aguy9SMZj2ndpf