เมื่อไม่กี่วันก่อนมีข่าวในโลกโซเชียลว่า มีสุนัขตัวหนึ่งชื่อว่า โนเกีย กำลังจะได้รับการถูกส่งตัวไปอยู่บ้านใหม่ ในขั้นตอนการเคลื่อนย้าย เนื่องจากเจ้าของเดิมแจ้งว่าน้องหมาไม่ยอมให้ใส่ตะกร้อครอบปาก จึงทำให้การขนย้ายสุนัขยากลำบาก เจ้าของใหม่จึงไปพร้อมกับสัตวแพทย์ หากว่าจำเป็นจะต้องวางยาซึมเพื่อการเคลื่อนย้าย เพื่อทำให้เคลื่อยย้ายนั้นได้ง่ายและสุนัขก็จะได้ต้องไม่เครียดมากด้วย

 

     หลังจากที่สัตวแพทย์ประเมินแล้วเห็นว่า ควรจะต้องมีการวางยาซึมเพื่อทำการเคลื่อนย้าย จึงกำชับเจ้าของเดิมให้งดอาหาร เพราะเกรงว่า หากสุนัขซึมลงหรือสลบไปจากการวางยาซึม สุนัขจะสำลักอาหารเข้าหลอดลม อาจถึงตายได้ แต่แล้วเหตุการณ์กลับไม่เป็นตามที่คาดไว้ เพราะเจ้าของเดิมได้ให้สุนัขกินหมูปิ้งเข้าไป สุดท้ายจึงเกิดการสำลักอาหารเข้าไปในหลอดลม เป็นเหตุให้สุนัขขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แม้จะได้ทำการช่วยชีวิตแล้ว แต่ก็ไม่ทันการณ์  

 

 

 

 

 

     เป็นที่ทราบดีว่าการวางยาซึมหรือยาสลบนั้น จำเป็นจะต้องทำการงดอาการและน้ำทุกชนิดก่อนทุกครั้ง เพื่อน ๆ อาจจะเคยได้ยินมาว่า น้องหมาที่จะเข้ารับการวางยาสลบนั้น คุณหมอจะเน้นย้ำทุกครั้งเสมอว่า "อย่าลืมงดอาหารและน้ำทุกชนิดอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง" ยกเว้นถ้าเป็นในลูกสุนัขอาจสั่งงดน้อยกว่า เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เจ้าของทุกคนจะต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ส่วนมากเราอาศัยความเชื่อใจกัน เพราะสัตวแพทย์ไม่อาจทราบได้เลย ว่าความจริงแล้ว เจ้าของได้งดน้ำและอาหารมาจริงหรือไม่จากการแค่เพียงซักประวัติ 

     ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องทำการงดอาหารและน้ำก่อนวางยาสลบนั้นก็เพราะว่า ยาสลบจะไปทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว โดยเฉพาะกับกล้ามเนื้อทางเดินอาหาร จึงทำให้อาหารและน้ำที่อยู่ในทางเดินอาหารไหลย้อนกลับได้ จนน้องหมาเกิดการอาเจียนและอาจสำลักลงปอด หรืออาจไปอุดกลั้นทางเดินหายใจเป็นอันตรายถึงแต่ชีวิตได้ ซึ่งหากเจ้าของไม่ได้ทำการงดน้ำและอาหารมาก่อน หรือไม่มั่นใจว่าน้องหมาไปแอบกินอะไรมาหรือไม่ ก็ควรต้องแจ้งคุณหมอก่อนทำการวางยาสลบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดตามหลังจากได้ให้ยาสลบไปแล้ว 

 

 

     ผู้เขียนเองเคยมีประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นได้นัดน้องแมวมาผ่าตัดทำหมัน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการวางยาสลบ จึงได้กำชับกับเจ้าของว่า "อย่าลืมงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง" และก่อนทำการวางสลบก็ได้ซักถามเรื่องนี้อีกครั้งกับเจ้าของแมวว่า ได้ทำการงดน้ำและอาหารทุกชนิดมาแล้วแน่หรือไม่ เจ้าของยืนยันว่างดแล้ว หลังจากไว้วางยานำสลบและยานำสลบไปแล้ว น้องแมวก็สลบลงตามปกติ ซึ่งผู้เขียนจึงได้ทำการสอดท่อช่วยหายใจ เพื่อที่จะทำการให้ดมยาสลบและให้อ๊อกซิเจนต่อไป ในขณะที่ทำการสอดท่อไปนั้นก็เหตุการณ์ไม่คาดขวัญขึ้น น้องแมวเกิดการสำลักเอาน้ำออกมาทางท่อช่วยหายใจ ผู้เขียนจึงรีบทำการช่วยระบายน้ำออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง พร้อมทั้งรีบทำการทำการช่วยชีวิตน้องแมวโดยด่วน โชคยังดีที่น้องแมวตัวนั้นรอดชีวิตมาได้ หลังจากเหตุการณ์จึงได้สอบถามไปยังเจ้าของว่า ได้งดน้ำน้องแมวมาจริง ๆ หรือไม่ เจ้าของแจ้งว่า ได้งดทุกอย่างแล้ว แต่ไม่ได้จับแมวขังกรงไว้ ตอนกลางคืนน้องแมวอาจจะหิวน้ำ เป็นไปได้ว่า น้องแมวอาจจะแอบขโมยกินน้ำจากตู้ปลา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าโชคดีมาก ที่เราสามารถช่วยชีวิตน้องแมวเอาไว้ได้ทัน 

 

     เห็นแล้วหรือไม่ครับว่า เรื่องเล็กน้อยอย่างการงดน้ำและอาหารก่อนการวางยาสลบนั้นสำคัญมากแค่ไหน เพียงแค่แอบไปกินน้ำมาแล้วเราไม่ทราบก็อาจเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงอยากฝากเป็นข้อเตือนใจแก่เจ้าของน้องหมาทุกคน ถึงความสำคัญของการงดน้ำและอาหารทุกชนิดอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนวางยาสลบด้วย และถ้าเป็นไปได้ควรให้น้องหมาอยู่ในกรงเพื่อป้องกันการแอบไปกินอะไรมาโดยที่เราไม่รู้ เจ้าของบางคนก็อย่าใจอ่อนแอบเอาอาหารให้กินเป็นอันขาด ไม่ต้องกลัวว่าน้องหมางดอาหารแล้วจะหิว การแอบเอาอะไรให้กิน แบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ไม่ควรเลย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมา เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ คิดสักนิดก่อนทำอะไรลงไป อยากย้ำเตือนทุกคนครับ  

รูปภาพประกอบ :