โดย: Tonvet

ปรงสาคู พืชมีพิษที่อาจคร่าชีวิตสุนัขได้

รู้จักความเป็นพิษของปรงสาคู และวิธีช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงของเราให้พ้นภัย

10 กันยายน 2563 · · อ่าน (5,908)
325

SHARES


325 shares

 

  • ปรงสาคูหรือปรงญี่ปุ่น (Cycas revoluta Thumb) บ้างก็เรียกว่า ปาล์มสาคู (Sago Plam) ถึงแม้จะมีชื่อปาล์ม แต่เป็นพืชตระกูลปรง "ไม่ใช่ปาล์ม" มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของญี่ปุ่น ปัจจุบันนิยมนำมาเป็นพืชประดับจัดแต่งสวน 
 
  • มีพิษอยู่ในทุกส่วน โดยเฉพาะใน "เมล็ด" จะมีความเข้มข้นของพิษมากสุด โดยแป้งในเมล็ดจะมีพิษที่เรียกว่า ไซคาซิน (Cycasin) พิษนี้เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร ตับ และระบบประสาทส่วนกลาง โดยสารพิษจะถูกแบคทีเรียในลำไส้ย่อยแล้วได้สารก่อพิษที่เรียกว่า MAM
 
  • หากสุนัขกินปรงสาคูเข้าไปจะเกิดความผิดปกติจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยจะเริ่มแสดงอาการภายใน 15 นาทีถึง 3 วัน ซึ่งความเป็นพิษขึ้นกับปริมาณที่รับเข้าไป  สุนัขจะมีอาการอาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ซึม เบื่ออาหาร น้ำลายไหล ดีซ่าน อ่อนแรง เดินเซ และมีการชัก
 
  • การปฐมพยาบาลต้องรีบทำให้สุนัขอาเจียนออกมาภายใน 2-4 ชั่วโมงหลังจากกินเข้าไป โดยใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% หรือเบกกิ้งโซดาป้อนให้กับสุนัข แต่ห้ามใช้กับสุนัขที่หมดสติเด็ดขาด หลังจากอาเจียนแล้ว ให้ป้อนผงถ่าน activated charcoal เพื่อดูดซับสารพิษในทางเดินอาหารอีก


 

Dogilike.com :: ปรงสาคู พืชมีพิษที่อาจคร่าชีวิตสุนัขได้



 

     เมื่อกล่าวถึงสาคู เราอาจจะนึกถึงขนมสาคูเมนูต่าง ๆ ที่ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง แต่ความจริงแล้วในอดีต แป้งสาคูที่เรากินนั้น ได้มากจากแป้งที่อยู่ในส่วนของลำต้นสาคู เราจึงเรียกกันจนติดปากว่า แป้งสาคู พืชนี้พบได้ในเขตร้อน มักขึ้นตามพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น พรุ ห้วย หนอง คลอง บึง มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด บ้านเราพบได้มากในภาคใต้ เช่นเดียวกับพืชประดับอย่างปรง ก็มีการนำมาทำแป้งสาคูด้วยเช่นกัน
 
     ปรง จัดเป็นพืชโบราณที่อยู่ในกลุ่มพืชเมล็ดเปลือย มีวิวัฒนาการอยู่ระหว่างชั้นของเฟิร์นกับชั้นของพืชดอก เนื่องจากไม่มีเนื้อไม้ห่อหุ้ม แต่ภายในเมล็ดจะมีแป้งเป็นอาหารให้กับต้นอ่อน แป้งนี้เองที่มีสารพิษเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ ปรงมีหลายชนิด อย่างที่จะพูดถึงในบทความนี้ คือ ปรงสาคูหรือปรงญี่ปุ่น (Cycas revoluta Thumb) บ้างก็เรียกว่า ปาล์มสาคู (Sago Plam) หรือ ปาล์มสาคูกษัตริย์ (king sago plam) ถึงแม้จะมีชื่อปาล์ม แต่เป็นพืชตระกูลปรง "ไม่ใช่ปาล์ม" มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของญี่ปุ่น ปัจจุบันนิยมนำมาเป็นพืชประดับจัดแต่งสวน 
 

Dogilike.com :: ปรงสาคู พืชมีพิษที่อาจคร่าชีวิตสุนัขได้

 
     สามารถเอากิ่ง ราก และเมล็ดมาบดเป็นแป้งไปทำสาคูได้เช่นกัน แต่ว่ามันก็มีพิษอยู่ในทุกส่วน โดยเฉพาะใน "เมล็ด" จะมีความเข้มข้นของพิษมากสุด โดยแป้งจะมีพิษที่เรียกว่า ไซคาซิน (Cycasin) เป็นพิษกลุ่ม azoxyglycoside และ beta-methyl amino-L-alanine (BMAA) อยู่มาก พิษนี้เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร ตับ และระบบประสาทส่วนกลาง ดังนั้นก่อนที่จะนำมารับประทาน จะต้องต้มในน้ำร้อนหรือแช่น้ำทิ้งไว้หลายวันจนกว่าพิษจะสลายไปก่อน 
 
     แม้ปรงจะมีความเป็นพิษ แต่ก็เป็นแหล่งอาหารทั้งในคนและปศุสัตว์มาอย่างยาวนาน อย่างในแอฟริกาใต้ คนพื้นเมืองจะนำไปล้างก่อนนำมาอบแห้งเพื่อล้างพิษ ความเป็นพิษมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันในมนุษย์ มีรายงานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ทำให้เกิดอาการเมา ปวดท้อง ท้องร่วง และกล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ในวัวและแกะก็มีรายงานทำให้เบื่ออาหาร ท้องร่วง เสียชีวิต และทำให้เกิดเป็นอัมพาตเช่นกัน ในสุนัขก็มีรายงานการได้รับสารพิษจากปรงสาคูอยู่ไม่น้อย บางตัวกินไปแค่ 2 เมล็ด ก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย วันนี้เรามาดูกันครับว่า พิษของปรงสาคูจะส่งผลอย่างไรต่อสุนัขบ้าง 
 
 
 

กลไกการเกิดอันตรายของปรงสาคูในสุนัข

 
 
     ปรงสาคู เป็นพิษอย่างมากในสุนัข (รวมถึงแมวด้วย) หากสุนัขกินเข้าไปจะเกิดความผิดปกติจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติภายใน 15 นาทีถึง 3 วัน ซึ่งความเป็นพิษขึ้นกับปริมาณที่รับเข้าไป ส่วนมากสุนัขจะได้รับพิษจากเมล็ด โดยมีกลไกการเกิดโรค เริ่มจากสาร azoxyglycoside (จากแป้งของปรงสาคู) เมื่อเข้าสู่ทางเดินอาหารแล้ว จะถูกเอนไซม์เบต้า-กลูโคซิเดรสที่แบคทีเรียในลำไส้สร้างขึ้นมาย่อย จนได้เป็นสารพิษที่ชื่อ Methyl-azoxymethanal หรือ MAM (จำชื่อนี้ไว้ให้ดีดีนะครับ) ซึ่งทำให้เกิดตับวายอย่างเฉียบพลันได้ มีการทดลองฉีด azoxyglycoside เข้าในเส้นเลือดพบว่า ไม่ก่อให้เกิดพิษ แต่พอฉีด MAM เข้าเส้นเลือด กลับก่อให้เกิดพิษต่อร่างกายได้
 
Dogilike.com :: ปรงสาคู พืชมีพิษที่อาจคร่าชีวิตสุนัขได้


     นอกจากนี้ MAM ยังถูกดูดซึมผ่านเส้นเลือดเข้าไปในตับ เมื่ออยู่ในตับมันจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยกระบวนการ glucuronidation ได้เป็นสารคอนจูเกต MAM-glucuronide แล้วขับออกจากตับผ่านทางท่อน้ำดี กลับมายังลำไส้เล็กอีกครั้ง ที่ลำไส้เล็ก MAM-glucuronide จะถูกเอนไซม์เบต้า-กลูคูโลนิเดรสย่อย (เป็นเอนไซม์อีกตัวที่สร้างจากแบคทีเรียในลำไส้เช่นกัน) ให้กลับมาเป็นสารพิษ MAM อีกครั้ง ทำให้ยิ่งเพิ่มการสัมผัสความเป็นพิษให้กับร่างกายเข้าไปอีก...ร้ายยิ่งนัก
 
     การทดลองในหนูพบว่า MAM ทำให้เกิดการตายของเซลล์ตับ การบาดเจ็บของไมโตคอนเดรียในตับ และการย่อยสลายของเอนโดพลาสมิกเรติคูลัมในตับ นอกจากนี้ MAM ยังขัดขวางการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต และเป็นสารก่อมะเร็งด้วย ทีนี้เมื่อตับมีปัญหา ก็ทำให้ลดการสังเคราะห์โปรตีน จนทำให้โปรตีนในเลือดต่ำลง อีกทั้งการแข็งตัวของตับยังไปรบกวนการไหลเวียนของน้ำดี จึงลดการดูกซึมของวิตามินเค เพราะว่าวิตามินเคละลายได้ในไขมันและน้ำมัน อีกทั้งยังเก็บสะสมไว้ที่ตับด้วย เมื่อตับมีปัญหาวิตามินเคก็ลดลง ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดตามมาได้
 
     พิษอีกชนิดหนึ่ง คือ beta-methyl amino-L-alanine หรือ BMAA ซึ่งมีอยู่ในแป้งปรงสาคูเช่นกัน พิษนี้ก่อให้เกิดการเสื่อมของระบบประสาทในหนูทดลอง มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นอัมพาตในขาหลังของโคที่กินปรงเข้าไปด้วย สารพิษนี้จึงเป็นที่มาของอาการทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นในสุนัข

 
Dogilike.com :: ปรงสาคู พืชมีพิษที่อาจคร่าชีวิตสุนัขได้



 
 

อาการในสุนัขที่ได้รับพิษจากปรงสาคู

 
 
     แม้จะมีรายงานพิษของปรงสาคูในสุนัขไม่มากนัก แต่สุนัขที่ได้รับพิษจะส่งผลต่อร่างกาย 3 ระบบสำคัญ คือ ระบบทางเดินอาการ ตับ และระบบประสาทส่วนกลาง โดยกว่า 85% มีอาการอาเจียน และ 21% มีอาการทางระบบประสาท นอกจากนี้ยังพบว่า มีอาการท้องร่วง บางตัวถ่ายอุจจาระเป็นเลือด มีอาการปวดท้อง ซึม เบื่ออาหาร น้ำลายไหล ดีซ่าน อ่อนแรง เดินเซ และมีการชัก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดพยาธิสภาพทางคลินิกด้วย โดยหลังจากได้รับพิษปรงสาคู 24-48 ชั่วโมงถึง 2-9 วันหลังจากกินเข้าไป สุนัขจะมีค่าเอนไซม์ตับ ALT และ ALP สูงขึ้น มีค่าโปรตีนอัลบูมินต่ำลง นอกจากนี้จากการประเมินการแข็งตัวของเลือดยังพบว่า มีค่า prothrombin time สูงขึ้นด้วย ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาการแข็งตัวของเลือด
 
 
 

การช่วยเหลือสุนัขที่ไดรับพิษจากปรงสาคู

 
 
     ยังไม่มียาแก้พิษจากปรงสาคูโดยเฉพาะ ส่วนมากจะรักษาไปตามอาการ โดยอาศัยประวัติและการสังเกตอาการที่เกิดขึ้นกับสุนัข ซึ่งความรุนแรงจะขึ้นกับปริมาณที่สุนัขได้รับเข้าไป การกระตุ้นให้สุนัขอาเจียนออกมาจะช่วยลดการดูดซับสารพิษได้ หากสุนัขกินปรงสาคูเข้าไป ให้เจ้าของรีบกระตุ้นให้สุนัขอาเจียนออกมาภายใน 2-4 ชั่วโมงหลังจากกินเข้าไป โดยใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% หรือเบกกิ้งโซดาป้อนให้กับสุนัข แต่ห้ามใช้กับสุนัขที่หมดสติเด็ดขาด หลังจากอาเจียนออกมาหมดแล้ว จากนั้นให้ป้อนผงถ่าน activated charcoal ขนาด 1-5 กรัมต่อน้ำหนักตัวสุนัข 1 กิโลกรัม ตามเข้าไปเพื่อดูดซับสารพิษในทางเดินอาหารอีกที โดยอาจป้อนซ้ำอีกในขนาด 1-2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง (ประมาณ 4-6 ครั้ง) จนครบ 24 ชั่วโมง แต่ในกรณีที่สุนัขกินปรงสาคูเข้าไปจนเกิดพิษแล้วหรือไม่สามารถกระตุ้นให้สุนัขอาเจียนออกมาได้อย่างปลอดภัย ก็ให้รีบพาไปสัตว์แพทย์เพื่อให้ทำการล้างท้องหรือรักษาตามอาการต่อไป ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับยาระงับชัก ยาระงับอาเจียน ยาบำรุงตับ หรือแม้แต่การให้เลือด (พลาสม่า) และวิตามินเค-1 ขึ้นกับอาการของสุนัข
 

 
Dogilike.com :: ปรงสาคู พืชมีพิษที่อาจคร่าชีวิตสุนัขได้

 
     ความรุนแรงขึ้นกับปริมาณพิษที่สุนัขได้รับเข้าไป บางตัวได้รับปรงสาคูเพียงแค่ 2 เมล็ดก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ สุนัขแต่ละตัวอาจมีความไวรับต่อพิษปรงสาคูไม่เท่ากัน จากการเก็บข้อมูลโดย NAPCC และ LSU VTH ในสุนัขที่ได้รับพิษจากปรงสาคูจะมีอัตราการเสียชีวิตราว 27-50% แต่จากรายงานของ ASPCA Aniaml poison control center ในสุนัขได้รับพิษจากปรงสาคู 1,398 ราย พบว่าตายไป 33 ราย คิดเป็น 2.4% จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลต่อไป  โดยเฉพาะวิธีการกำจัดพิษที่มีความเฉพาะเจาะจง เพื่อยับยั้งการย่อยของเอนไซม์จากแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยลดสารก่อพิษอย่าง MAM แต่เนื่องจากปรงสาคูเป็นพืชประดับ เจ้าของสุนัขที่นำมาปลูก ก็ควรต้องทราบถึงโทษอันตรายและวิธีการช่วยปฐมพยาบาลหากสุนัข (และแมว) เผลอกินเข้าไปเอาไว้ด้วยครับ



 

บทความโดย: หมอต้น ด็อกไอไลค์
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์



ข้อมูลบางส่วน :
https://www.cliniciansbrief.com/article/sago-palm-toxicosis-dogs
https://www.vetfolio.com/learn/article/sago-palm-toxicosis-in-dogs
https://criticalcaredvm.com/sago-palm-toxicosis-toxic-plant/?print=pdf
https://www.earth.com/earthpedia/plant/th/cycas-revoluta/



รูปภาพประกอบ :
https://images.ctfassets.net/440y9b545yd9/3GUg2c9M9wt07TrOT2a6aD/02e0a9f5be53d731ad7dc85e3b1d494f/spring_gardendanger850.jpg
https://images.wagwalkingweb.com/media/articles/horse/sago-palm-poisoning/sago-palm-poisoning.jpg
https://s3.amazonaws.com/petcentral.com/wp-content/uploads/2019/07/11101006/Complete-Guide-to-Poisonous-Plants-for-Dogs-940x503.jpg
https://d36ai2hkxl16us.cloudfront.net/thoughtindustries/image/upload/course-uploads/035a42e0-50d4-5e7c-b848-743674f979c6/enterohepatic-circulation-2.jpeg
https://i1.wp.com/mindyourdirt.com/wp-content/uploads/2014/11/feature1.jpg?fit=1200%2C803&ssl=1